xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : จับตาประธานแก้ รธน. “คนนอก” สางปมขบเหลี่ยม “พปชร.-ปชป.”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ตอน จับตาประธานแก้ รธน. “คนนอก” สางปมขบเหลี่ยม “พปชร.-ปชป.”




เกมที่พรรคร่วมรัฐบาลงัดกันเอง คือหลังพรรคประชาธิปัตย์ชิงจังหวะในประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ ชงชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ปาดหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปก้าวหนึ่ง

เมื่อชื่อ อภิสิทธิ์ ถูกชูขึ้น พลพรรคพลังประชารัฐออกมาเตะสกัดกันคนละทีสองที ก่อนจะชงชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ออกมาขวางทาง

เพราะสำหรับท้อปบู๊ตจะชื่อใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ “อภิสิทธิ์”

แม้วันนี้พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่อย่างที่รู้กันดีชื่ออภิสิทธิ์นี้เป็นของแสลง มาตั้งแต่สมัยที่อดีตผู้นำพรรคปชป. ได้นำทัพประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2560

และช่วงเลือกตั้งประกาศไม่เอา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

ขณะที่ชื่อ “สุชาติ” เอาเข้าจริงๆ นั่งอยู่ในระดับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 คงไม่ได้พิศวาสอยากจะนั่งเก้าอี้ตัวนี้สักเท่าใดนัก เพราะมีแต่เปลืองเนื้อเปลืองตัว อยู่ท่ามกลางพวกเขี้ยวลากดิน ที่จะเข้ามาเป็น กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ภารกิจนี้ ลำพังแค่รับมือ 7 พรรคฝ่ายค้าน ก็ว่าหนักแล้ว ยังต้องมานั่งคอยรับมือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาลที่เก๋าเกมการเมือง งานนี้สุชาติย่อมมีแต่ “เสีย” กับ “เสีย” สู้นั่งบนบังลังก์รองประธานสภาฯ อยู่เฉยๆ ดีกว่า

แต่ที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องรีบควักชื่อนี้ออกมา เพราะในมือตัวเองก็ไม่ได้มี “ตัวเลือก” ให้ใช้สอยมากนัก ขณะที่ชื่อ “สุชาติ” แห่งบ้านริมน้ำ พอจะเอามาเบรกชื่อของ “อภิสิทธิ์” ได้บ้าง

ที่สำคัญ “สุชาติ” คือ อดีตแคนดิเดตประธานสภาฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยอมถอยไม่ลงแข่งกับ “นายหัว” ชวน หลีกภัย เมื่อครั้งลงมติเลือกประธานสภาฯ ทั้งที่ตัวเองมาจากพรรคอันดับ 1 ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตามมารยาททางการเมืองต้องยกเก้าอี้นี้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ

แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างในการจัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้ “สุชาติ” ยอมให้กับ “ชวน” หลบมาเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทน

ไม่เพียงเท่านั้น ตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลมา พรรคประชาธิปัตย์แทบจะเป็นพรรคที่ได้ทุกอย่างที่ขอ อยากได้อะไร อยากทำนโยบายไหน “บิ๊กรัฐบาล” ไม่เคยขัดหรือขวาง เรียกว่า พรรคพลังประชารัฐอะลุ้มอล่วยเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้

ดังนั้น เมื่อพรรคพลังประชารัฐรีบแก้เกม ด้วยการปล่อยชื่อ “สุชาติ” ออกมาสกัดทาง “อภิสิทธิ์” จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องแตะเบรก เพื่อทบทวนท่าที

หากพิจารณาที่ตัว“อภิสิทธิ์” แน่นอนว่าน่าจะเหมาะสม เพราะเป็นคนที่ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่ต้น ขณะเดียวกัน ด้วยคุณวุฒิก็สอบผ่าน เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อ “บิ๊กตู่” จนกว่าจะทำภารกิจสำเร็จ ดังนั้น ย่อมไม่ยอมให้แผนการพังคามือนักการเมืองแน่ อย่างไรก็ไม่ยอมให้คนชื่อ “อภิสิทธิ์” มานั่งเป็นประธานเด็ดขาด

เก้าอี้นี้ อาจไม่มีอำนาจอะไร นอกจากทำ รวบรวมประเด็นว่าจะต้องแก้ไขในมาตราใดบ้าง ซึ่งหากสุดท้ายแล้วหาก “บิ๊กรัฐบาล” ไม่เอาด้วยย่อมผ่านไปไม่ได้ เพราะมี “ค่ายกลเจ็ดดาว” ขวางอยู่

คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองสภา ซึ่งหมายถึงจะต้องมีเสียงของ “วุฒิสภา” ด้วย และอย่างที่ทราบกัน ส.ว. 250 คน คือ กองกำลังชั้นดีของฝ่ายรัฐบาลชุดนี้ หากไม่ได้รับสัญญาณไฟเขียว ย่อมผ่านไปไม่ได้

ดูแล้วหาก “พลังประชารัฐ” ไม่เอาด้วยอย่างไรก็แก้ไขไม่ได้ เพียงแต่ว่า “ผลการศึกษา” ฉบับนี้จะเป็นชนวนทางการเมืองในอนาคตได้ เพราะจะมีคนนำมาอ้างเพี่อสร้างความชอบธรรมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทว่า หากไม่ใช่ “อภิสิทธิ์” แต่ก็ต้องเป็นคนที่ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์ยอมรับกันได้ ไม่เช่นนั้นจะคุมเสียงใน กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่อยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น