MGR Online - ตัวแทนลิขสิทธิ์ตัวจริง “ริลัคคุมะ” เข้าพบรอง ผบ.ตร. ยืนยันกระทงเด็ก 15 ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์หรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนบริษัท เวอริเซ็ค ที่ “ประจักษ์” อ้างนั้นถูกยกเลิกสัญญาการเป็นตัวแทนไปนานแล้ว ขณะที่ “วิระชัย” ชี้ตำรวจร่วมจับกุมไม่ผิด เตรียมยกร่างระเบียบปฏิบัติป้องกันมิจฉาชีพแอบอ้างกรรโชกทรัพย์ ปชช.
วันนี้ (8 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ตัวแทนลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เพื่อหารือหลังเกิดเหตุเด็กหญิง อายุ 15 ปี ถูกชายอ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ล่อซื้อจับกุมกระทงอาหารปลาพิมพ์ลายตัวการ์ตูนริลัคคุมะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบกระทงของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากตรวจสอบแล้ว กระทงดังกล่าวมีรูปทรงใบหน้า ใบหู ไม่มีความเหมือนหรือคล้ายตัวการ์ตูนริลัคคุมะ ลิขสิทธิ์ของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ได้รับการยืนยันว่าขั้นตอนการดำเนินการของบริษัท ที.เอ.ซี. ก่อนที่มีการจับกุมใคร หากได้รับแจ้งว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์จะตรวจสอบว่ามีการละเมิดจริงหรือไม่ หากมีจริงจะออกจดหมายเตือนก่อน 2 ครั้ง ให้หยุดการกระทำดังกล่าว และหากไม่มีการแก้ไขจึงจะส่งตัวแทนดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะไม่เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่ปรากฏในข่าว
“เมื่อตรวจสอบแล้วเด็ก 15 ไม่ได้กระทำผิด การเสียค่าปรับไปก่อนหน้านี้ เมื่อการกระทำใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เยาวชนต้องจ่ายเงินค่าชดใช้ในการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นลาภมิควรได้ ที่คนได้ไปต้องเอามาคืน แต่การได้ไปหากเข้าองค์ประกอบกรรโชกทรัพย์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย” รอง ผบ.ตร.ระบุ
ส่วนกรณีนายประจักษ์ โพธิ์ผล ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัท บริษัท เวอริเซ็ค จำกัด เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ ยืนยันว่ามีอำนาจในการดำเนินการจับกุม พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า บริษัท ซาน-เอ็กซ์ จำกัด ระบุเป็นเอกสารชี้แจงว่า บริษัท เวอริเซ็ค จำกัด ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว ไม่มีอำนาจไปจับ ปรับ เรียกค่าเสียหาย ส่วนจะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ หรือแจ้งความเท็จหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน และจะเรียกนายประจักษ์ รวมถึงผู้บริหารของบริษัท เวอริเซ็ค มาสอบสวน รวมถึงตรวจสอบขบวนการทั้งหมด ว่า นายประจักษ์ ได้แบ่งเงินค่าปรับให้ใครบ้าง ตนได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนการสอบสวนคดีนี้
พล.ต.อ.วิระชัยยังได้กล่าวถึงการตรวจสอบพฤติการณ์ของตำรวจที่ร่วมกับตัวแทนลิขสิทธิ์ในการจับกุมเด็กหญิงอายุ 15 ปี ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง แต่ผู้มาแจ้งความกลับแจ้งในสิ่งที่ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ หลังจากนี้ตนได้ยกร่างระเบียบปฏิบัติให้ตำรวจทั่วประเทศได้ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้ที่มีลิขสิทธิ์ และป้องกันไม่ให้ผู้ที่เป็นมิจฉาชีพแอบอ้างเรื่องนี้ไปกรรโชกทรัพย์ประชาชน โดยกำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานตัวแทนลิขสิทธิ์ให้ถี่ถ้วน ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีตำรวจไปตีกินในลักษณะนี้อีก แต่หากใครพบเห็นให้แจ้งมาที่ตนได้
