(Police Focus)
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ประชุมมอบนโยบายตำรวจนครบาล โดยมี รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 ผบก.จร. ผบก.สส.บช.น. ผบก.สปพ.(191) ผบก.อคฝ. ผบก.อก.บช.น. และ ผกก.ทั้ง 88 สน.เข้าร่วมกว่า 236 นาย ทั้งด้านงานป้องกันปราบปราม สืบสวน สอบสวน จราจร ยาเสพติด รวมถึงนโยบายของทาง ตร.และสิ่งสำคัญที่มุ่งเน้นคือ พิทักษ์ ปกป้อง และเทิดพระเกียรติ เพื่อความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เรื่องการปราบปรามยาเสพติด “บิ๊กอู๊ด” สั่งการให้ใช้ยุทธวิธีทุกรูปแบบภายใต้กฎหมาย ห้ามตำรวจเข้าไปพัวพันยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หากตรวจพบให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด หัวหน้าสถานีหรือผู้บังคับบัญชาต้องสอดส่องดูแลอย่างจริงจัง โดยมอบหมายให้มือสืบสวนอย่าง พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น.รับผิดชอบด้านงานยาเสพติด (ปส.) มะเร็งที่ลุกลามสร้างความเสียหายให้ประเทศมาช้านาน
น.1-2 บอกว่า ยาเสพติดเป็นหน้างานของตำรวจอยู่แล้ว มีหน่วยรับผิดชอบโดยตรง คือ ป.ป.ส.แต่ความรู้สึกของประชาชนจะนึกถึงตำรวจ เป็นงานที่เราทำกันตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ กัญชา กระท่อม เฮโรอีน ฝิ่น ยาบ้า ไอซ์ ยาเค ส่งผลกระทบต่อประชาชนมหาศาล เพราะเป็นต้นตอของอาชญากรรมอย่างอื่น กรุงเทพฯเป็นทั้งจุดหมายปลายทาง และแหล่งพักยาสำหรับกระจายไปที่อื่น บางครั้งแทบจะเป็นแหล่งผลิตเองอยู่แล้ว
นครบาลมีความหลากหลายแฝงด้วย ผู้เสพ ผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้ารายกลาง ผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า กลายเป็นสถานที่เอื้อในด้านยาเสพติด ทั้งในชุมชนแออัด ชุมชนแออัดลอยฟ้า เช่น แฟลต คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ แม้กระทั่งสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเล็ก กลาง และใหญ่ เป็นปัญหายิ่งใหญ่ที่จะต้องช่วยกันแก้ ถ้าไม่ทำไม่จริงจังก็เป็นเรื่องยาก ทุกคนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกันหมด รวมถึงสื่อมวลชนเพื่อสะท้อนให้สังคมรับรู้
สิ่งสำคัญคือมีความท้าทายอยู่ 2 เรื่อง 1. ปราบปรามให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ให้หมดไปจากประเทศหรือโลกเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์ยังคงต้องการ แม้ผ่านไป 2,500 กว่าปี พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถดึงคนมาถือศีล 5 ได้หมด พวกแก๊งค้ายาผลิตมา 100 ล้านเม็ด เราจับไป 90 ล้านเม็ด ในส่วน 10 ล้านเม็ดที่เหลือ หากเล็ดลอดออกไปมันก็ได้กำไรแล้ว จึงเกิดวงจรลักษณะแบบนี้วนเวียนไม่มีสิ้นสุด
"ขณะเดียวกัน เราต้องตัดโอกาสเด็กและผู้เสพรายใหม่ โครงการต่างๆ ที่ทำอยู่เยอะแยะมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว เพียงแต่เราไปควบคุมกำกับดูแล ให้มาตรการเป็นไปอย่างจริงจัง มาตรการที่ได้ผลมากที่สุดคือ ครูแดร์ ตำรวจที่ลงไปโรงเรียนให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนให้ทราบถึงโทษและพิษภัยยาเสพติด ผมว่าลูกหลานเราตัวเท่านั้นยังไม่รู้จัก เหมือนกับวิชาเพศศึกษาคือสิ่งที่จะต้องให้เด็กเรียนรู้ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงป้องกัน"
2. ตำรวจของเราขาวสะอาดจริงไหม เสพ ขาย รู้เห็นเป็นใจ จับตีเงินตีทอง คุ้มครอง หรือเข้าไปเกี่ยวพัน ฉะนั้นต้องเริ่มจากตำรวจเราก่อน ผมอยู่อีสานมา 6 ปี จับและไล่ออกจากราชการนับไม่ถ้วน ตั้งแต่รับราชการเป็น ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ผบก.สส.ภ.4 และ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เรื่องอื่นสามารถผิดพลาดกันได้ แต่เรื่องนี้ผมไม่ยอมไม่เอาไว้เลย สำหรับในนครบาลก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเข้าไปมีส่วนร่วมไม่รอดอยู่แล้ว
รองฯเผือก พูดถึงความสำเร็จของงานว่า ตัวชี้วัดบางอย่างบอกได้บางอย่างก็ไม่ได้ สิ่งที่เจ้าหน้าที่พยายามดำเนินการคือ ยาเสพติดต้องหายากและราคาแพง ถ้าถูกเมื่อไหร่แสดงว่ามาตรการหย่อนยาน ผลการจับกุม 3 ปี ย้อนหลังของนครบาลลดลงปีละ 1 พันคดี แต่ในความรู้สึกของประชาชนยังคิดว่ายาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง หลังจากนี้เชื่อว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน พี่น้องประชาชนจะเป็นคนให้คำตอบเรา
"หัวใจหลักของงานผมมองว่าอยู่ที่ “ใจ” คนเสพจะเลิกได้ไหม คนค้าที่เห็นแก่ตัวจะสำนึกไหม คนในชุมชนจะช่วยกันดึงคนเสพออกมาอย่างไร ตำรวจจะจริงจังกับการแก้ปัญหาอย่างไร หน่วยงานรัฐทุกภาคส่วนจะดำเนินการอย่างไร ผู้ต้องหาหนีคดีไปต่างประเทศจะตามจับอย่าง สารตั้งต้นอยู่ต่างประเทศจะประสานงานอย่างไร ผู้ที่หลงผิดทุกคนมีโอกาสกลับตัว คนติดคุกยังออกมาทำประโยชน์ได้ ผมว่าทุกอย่างยังทันไม่สายเกินแก้"
เส้นทางการทำงานกว่าจะมาเป็น พล.ต.ต.พีระพงศ์ เท้าความสมัยอากงเป็นผู้นำชุมชน สืบจนถึงลูกชายคนโต (ลุง) มารับช่วงต่อ ได้เป็นหัวหน้าเฉพาะกิจของฝ่ายมหาดไทย อยู่ในยุคปราบโจรผู้ร้ายภาคกลางภายใต้ชื่อ “กองปราบโจร” ฝ่ายตำรวจได้ส่ง ขุนพันธ์ฯ ฝ่ายมหาดไทยก็ได้ส่งตัวแทนไป ลุงของเขาอยู่ในชุดนั้นด้วย จึงมีเทือกเถาเหล่ากอทำงานปราบโจรผู้ร้าย ทำให้เขามีความตั้งใจอยากเป็นนักสืบ
เริ่มทำงานตำแหน่งรอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน จากนั้นเป็น รอง สว.จร.สน.ยานนาวา โบกรถอยู่สักพักพบว่าไม่ใช่ทางของตัวเอง จึงหาจังหวะไปเป็นนักสืบ โชคดีที่ พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น.เพื่อนร่วมรุ่น นรต.38 ตอนนั้นเป็นตำรวจหน้าห้อง พล.ต.ท.ธนู หอมหวล อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ สมัยเป็น รอง ผบช.น.จึงมีโอกาสได้พบเจอ โดยส่วนตัวอยากเป็นลูกศิษย์ “เชอร์ล็อกนู” ตำนานปรมาจารย์สืบสวนของวงการตำรวจไทยอยู่แล้ว
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เล่าว่า ได้สัมผัสตั้งแต่ท่านเป็น “ผู้การใต้” ได้ตั้งชุดปราบปรามอาชญากรรมขึ้นมา โดยมี พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง อดีต รอง ผบช.ภ.1 เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร่วมงานกับทั้งสองท่านตั้งแต่นั้นมา ทำงานสายบู๊มากว่า 25 ปี ปิดฉากคดีสำคัญมากมาย ที่ประทับใจคือ คดีคนร้ายเช่ารถตู้จากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด แล้วฆ่าเจ้าของเพื่อชิงรถเอาไปขาย สามารถจับกุมได้ก่อนที่เขาจะฆ่า
"เรากำกับดูแลให้ลูกน้องทำงานได้ แล้วสามารถเป็นที่พึ่งของสังคมได้ โดยยึดหลักใช้สติอย่างเดียวเลย ไว้คอยเตือนไม่ให้เราออกนอกลู่นอกทาง และเตือนถึงความไม่ประมาท สุดท้ายการทำงานจะประสบผลสำเร็จได้"
ผมมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจแขวนคออยู่ 3 องค์ คือ “หลวงพ่อโสธร” เป็นรุ่นแรกของตำรวจสร้าง โดย พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ, “พระกริ่ง” สร้างโดย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีต รอง จตช.ออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ “หลวงพ่อรวย” รุ่นชนะจน พระเกจิที่ผมนับถือ และเป็นลูกศิษย์เอก ไว้ป้องกันและเป็นมงคงต่อชีวิต