xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนประหาร “อาเธอร์” ฆ่าหั่นศพเพื่อนหนุ่มสเปนทิ้งน้ำเจ้าพระยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนประหารชีวิต “อาเธอร์” ฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนเพื่อนชาวสเปนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อปี 2559 เชื่อแรงจูงใจเพื่อลักเงินในบัญชีผู้ตาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (13 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีฆ่าหั่นศพชาวสเปน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอาเธอร์ เซการา พรินเซป หรืออาร์ตู (Mr.Segarra Princep Artur) อายุ 39 ปี สัญชาติสเปน เป็นจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ, ลักทรัพย์ และข้อหาอื่นๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4), 199, 310 ในชั้นพิจารณาจำเลย แถลงให้การปฏิเสธทุกกล่าวข้อหา โดยระบุว่าได้อาศัยอยู่ในพีจี คอนโดมิเนียม แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2559 พบชิ้นส่วนของนายเดวิด เบอเนต โมราด ชาวสเปน ลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ติดบริเวณอู่ต่อเรือเอกชนแห่งหนึ่งใกล้วัดคฤหบดี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด และอีกหลายชิ้นลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตรับผิดชอบ สภ.เมืองนนทบุรี, สภ.ปากเกร็ด และ สภ.เมืองจังหวัดปทุมธานี โดยการสืบสวนสอบสวนพบว่าจำเลยพาผู้เสียชีวิตเข้าไปในห้องพัก พีจี คอนโดมิเนียม พระราม 9 อสมท แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จากนั้นได้ฆ่าผู้เสียชีวิตก่อนหั่นศพ และนำชิ้นส่วนทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยาตามจุดต่างๆ ก่อนหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้ตาย จำนวน 734,940 บาท ไปอยู่ที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

ในวันนี้ศาลเบิกตัวนายอาเธอร์ อายุ 38 ปี สัญชาติสเปน จำเลย มาจากฑัณสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยนายอาเธอร์มีรูปร่างแข็งแรงขึ้น ตัดผมทรงวินเทจ มีรอยสักที่คอ นายอาเธอร์ตีสีหน้ายิ้มแย้ม พูดและเข้าใจภาษาไทยได้ เช่น พูดว่าสบายดีครับ ขณะที่ในห้องพิจารณาคดี มีล่ามสาวภาษาสเปนที่ขึ้นทะเบียนต่อศาล และมีสื่อมวลชนจากประเทศสเปนมาร่วมทำข่าว

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2560 ให้ประหารชีวิตนายอาเธอร์ เห็นว่าคดีนี้แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยกระทำความผิด แต่เมื่อพิจารณาจากพยานแวดล้อม ประกอบคำเบิกความจากตำรวจที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่คอนโดมิเนียมฯ และพื้นที่ใกล้เคียงพบภาพนายอาเธอร์พานายเดวิดผู้เสียชีวิตเข้าไป แต่ไม่ปรากฏภาพว่านายเดวิดออกมาจากคอนโดฯ ดังกล่าว และยังพบภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานเบิกความว่า นายอาเธอร์ขี่จักรยานยนต์บรรทุกถุงดำออกจากคอนโดฯ จนมีผู้พบชิ้นส่วนศพในภายหลัง และยังพบหลักฐานว่านายอาเธอร์ซื้อตู้แช่แข็ง เครื่องเจียรลูกหมู และใบเลื่อยขนาดต่างๆ ช่วงก่อนเกิดเหตุ อีกทั้งการตรวจพิสูจน์ห้องพักในคอนโดฯ จำเลยพบคราบเลือดที่ผนังห้องน้ำ โดยมีดีเอ็นเอตรงกับนายเดวิด รวมถึงพบดีเอ็นเอในเครื่องเจียรลูกหมูซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีความถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้

ส่วนมูลเหตุจูงใจนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารฯ เบิกความเชื่อมโยงกันว่า พบการโอนเงินจากบัญชีของนายเดวิด ผู้เสียชีวิตจากประเทศสิงคโปร์ เข้าบัญชีของนายอาเธอร์ จำเลย และยังมีแฟนสาวของจำเลยเบิกความว่านายอาเธอร์ให้บัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน ซึ่งนายเดวิดมีเงินฝากหลายสิบล้านบาท เชื่อว่าเป็นเหตุจูงใจฆ่าเพื่อเอาเงินของนายเดวิด ผู้เสียชีวิต โดยนำตัวมากักขัง บังคับเอาข้อมูลส่วนตัว รหัสธนาคารฯ ก่อนฆ่าโดยนำศพแช่แข็งแล้วใช้เครื่องเจียรลูกหมูเลื่อยหั่นศพแล้วนำชิ้นส่วนไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา

จึงพิพากษาประหารชีวิตนายอาเธอร์, ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ฐานนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปใช้ จำคุก 5 ปี, ฐานนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จำคุก 10 ปี, ฐานปลอมแปลงข้อมูลอีเมล์ จำคุก 4 ปี และฐานทำลาย ซ่อนเร้น อำพรางศพ จำคุก 2 ปี แต่เมื่อศาลลงโทษประหารชีวิตแล้วจึงไม่อาจรวมโทษจำคุกในข้อหาอื่นได้ พร้อมให้คืนเงินกว่า 7 แสนบาท แก่ญาติผู้เสียชีวิต ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว เชื่อว่านายอาเธอร์จำเลยฆ่าผู้ตายเพื่อลักเอาเงินในบัญชีธนาคารของผู้ตาย โดยจำเลยรู้จักกับผู้ตายแล้วชักชวนผู้ตายมาเข้าพักที่ห้องพักพีจี คอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 ที่จำเลยเปิดไว้ ต่อมาได้กักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับให้ผู้ตายบอกข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่านและจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต เข้าบัญชีเงินฝากของจำเลย และนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเบิกเงินจากบัญชีของผู้ตาย ก่อนฆ่าผู้ตายแล้วนำศพมาแช่แข็ง หั่นเป็นท่อน ทยอยนำไปทิ้งตามสถานที่ต่างๆ เพื่อซ่อนเร้น อำพรางและปกปิดการกระทำความผิด แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยาน แต่โจทก์มีพยานแวดล้อมเบิกความสอดคล้อง มีเหตุผลเชื่อมโยงกันตั้งแต่ก่อนและหลังเกิดเหตุ มีน้ำหนักมั่นคงรับได้ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดจริง กรณี เช่นแม่บ้านทำความสะอาด กล้องทีวีวงจรปิด เพื่อนหญิงของจำเลย ประกอบกับพยานวัตถุ เช่น คราบเลือด เหงื่อ ที่อุปกรณ์เจียรหินไฟฟ้า ตู้แช่ ตรงกับดีเอ็นเอของผู้ตาย โดยเห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าโดยวางแผน กับซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปกปิดเหตุแห่งการตาย และผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกฆ่า จึงพิพากษายืนประหารชีวิตตามศาลชั้นต้น ให้คืนเงิน 7 แสนบาทเศษ และให้ออกหมายขังส่งตัวไปเรือนจำกลางบางขวาง


กำลังโหลดความคิดเห็น