xs
xsm
sm
md
lg

สองหัวโจกแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่มอบตัวแล้ว แจ้ง 6 ข้อหาหนักแต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - สองหัวโจกแก๊งกระชากหัวอุ้มสาวไปเรียกค่าไถ่เข้ามอบตัวแล้ว แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างถูกจ้างมาทวงหนี้ที่เหยื่อยืมมา ไม่ได้เป็นเงินติดค้างยาเสพติด ด้านตำรวจแจ้ง 6 ข้อหาหนัก

จากกรณีกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์รถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลตขับตามเข้ามาปาดหน้ารถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ซึ่งมากับเพื่อนชายอีก 2 คน ก่อนที่จะมีชาย 2 คน สวมเสื้อสีแดง คนหนึ่งถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต พยายามลงทำทำร้ายเหยื่อ และกระโดถีบกระจกรถ จากนั้นได้มีรถกระบะขับตามมาสมทบก่อนที่จะมีชาย 1 คน ลงมากระชากผม น.ส.เอ แล้วนำไปขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป และนำตัว น.ส.เอ.ไปกักขังไว้ที่โกดังร้างข้างถนนทางเข้าตัว อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ และโทรศัพท์ไปหาพ่อ แม่ และญาติของน.ส.เอ เพื่อแลกกับการไถ่ตัว โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สามารถจับกุมตัวนายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือเปรี้ยว อายุ 23 ปี, นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง หรือ แป๋ม อายุ 20 ปี และนายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือ โชค อายุ 23 ปี ซึ่งเป็น 3 ใน 5 คนที่ร่วมกันก่อเหตุ และคุมตัวไปทำแผนตรงจุดเกิดเหตุ

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (13 ก.ค.) พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์คุมตัวนายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นชายในคลิปกล้องวงจรปิดที่ดึงกระชากผม น.ส.เอลงจากรถ และนายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง

โดยทั้งสองคนอยู่บ้านเลขที่ 135 ม.2 ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด และเป็นญาติกันเข้าไปพบนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เพื่อทำการสอบถามเหตุการณ์ในเบื้องต้น หลังติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกดดันและไล่ล่าตัวอย่างหนักตลอดช่วง 2 วัน ตั้งแต่ร่วมกันก่อเหตุเมื่อช่วงเวลา 22.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา

เบื้องต้นผู้ต้องหาสองคนที่เข้ามอบตัวครั้งนี้ได้มาพร้อมทนายความซึ่งได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยเฉพาะข้อหาเรียกค่าไถ่ แต่ยอมรับว่าได้เข้าไปอุ้มตัว น.ส.เอ จริงตามคลิป แต่เป็นการทำงานตามใบสั่งจากนางปู (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่จังหวัดมหาสารคาม โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท ให้มาทวงหนี้ที่ น.ส.เอ ที่กู้ยืมมา แต่ไม่ทราบว่าเป็นเงินค่าอะไร และปฏิเสธที่ถูก น.ส.เอ อ้างว่าเป็นการทวงเงินในขบวนการค้ายาบ้า เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้นำตัวทั้งสองคนไปชี้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากผู้ต้องให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงนำตัวมาสอบปากคำ

นายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนางปู เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่จังหวัดมหาสารคาม เป็นเงิน 10,000 บาท ไม่รู้ว่าเป็นการทวงเงินค่าอะไรเพราะมีหน้าที่ทำงานให้เสร็จ แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับหนี้สินที่ค้างทั้งสิ้น

ด้าน พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับตัวผู้ต้องหาได้ก่อนหน้าที่พร้อมกับนำตัวไปทำแผนแล้ว 3 คน และในวันนี้ก็มีนายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นชายในคลิปกล้องวงจรปิดที่ดึงกระชากผม น.ส.เอ ลงจากรถ และนายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีแดงได้ติดต่อเข้ามามอบตัว หลังจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก โดยเบื้องต้นทั้งสองคนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยเฉพาะการเรียกค่าไถ่ พร้อมอ้างว่าสาเหตุที่อุ้ม น.ส.เอนั้นได้รับการว่าจ้างให้มาทวงหนี้ ไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไร แต่ไม่ใช่เป็นค่าติดค้างยาเสพติด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่าให้น้ำหนักไปที่พฤติกรรมในการเรียกค่าไถ่ซึ่งมีโทษสูงถึงขั้นประหารชีวิต

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทั้ง 5 คน กระทำความผิดฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันพยายามหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น