หัวหน้าแก๊งอุ้มรีดทวงหนี้ยาบ้าติดต่อมอบตัว คดีอาจพลิกเหยื่อสาวอาจเป็นจำเลยร่วมค้ายานรก

กาฬสินธุ์ - หัวหน้าแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่ยาบ้าหน้าจวนผู้ว่าฯ ติดต่อมอบตัวแล้ววันนี้ คาดผลคดีอาจพลิกสาวถูกอุ้มจากผู้เสียหายอาจะตกเป็นจำเลยเนื่องจากมีส่วนไปพัวพันยาเสพติด ส่วนยุทธการฟ้าแดดสงยางล่าสุดบุกทลายเครือข่ายยาบ้าในป่าดงระแนงได้ของกลางยาบ้าและอาวุธปืนจำนวนมาก

จากกรณีคนร้าย 5 คนก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ขับรถปาดหน้าและชนพร้อมกับบุกเข้าทำร้ายคู่กรณีแล้วทำการอุ้มตัว น.ส.เอ (นามสมมติ) ไป โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ เหตุเกิดใกล้กับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ สามารถตามแกะรอยและจับกุม 3 ใน 5 ผู้ต้องหาไว้ได้โดยได้นำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้ว เหลือคนร้ายอีก 2 คน

ล่าสุดวันนี้ (13 ก.ค.) พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรันท์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้เตรียมที่จะออกหมายจับ แต่ล่าสุดคนร้ายอีก 2 คน คือ นายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี และนายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ แต่ผลการสืบสวนมีความชัดเจนว่าการอุ้มตัว น.ส.เอ ครั้งนี้เกิดขึ้นจากการทวงเงินค้างค่ายาเสพติด และในขณะนี้ชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ทำการควบคุมตัวและสอบปากคำ

นอกจากนี้ มีรายงานว่าผลจากการขยายผลในเครือข่ายนี้ตำรวจยังสามารถตรวจพบยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด และมีการซัดทอดไปถึง น.ส.เอ ซึ่งเป็นไปได้ว่าผู้เสียหายในคดีนี้อาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติดด้วย

ล่าสุดมีรายงานว่า ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ยังได้ร่วมกันติดตามเครือข่ายยาบ้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กว่า “มันทุกเม็ด” ซึ่งตำรวจภูธรภาค 4 ระบุว่าเป็นเครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่และกำลังทำให้ยาบ้า เสมือนกับร้านสะดวกซื้อ โดยจะมีการวางยาบ้าไว้ในทุกชุมชนหมู่บ้านที่ทางจังหวัดได้เร่งทำการปราบปรามอยู่

ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ อำเภอยางตลาดได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นภายในป่าดงระแนง ที่สายสืบระบุว่าเป็นจุดพักยาบ้า เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายสมพงษ์ ภูเรียนศรี พร้อมยาบ้าจำนวน 398 เม็ด อาวุธปืนลูกซองได้ ขณะนี้กำลังเข้าทำการตรวจค้นในพื้นที่ดังกล่าว กรณีนี้เป็นการขยายผลระหว่างเครือข่ายซึ่งได้เข้าสู่ชุมชน

นายไกรสรกล่าวว่า ขณะนี้เครือข่ายยาบ้าได้ปรับวิธีการส่งยาโดยจะนำไปวางไปเป็นจุดและจะให้นักค้ารายใหม่ หรือนักเสพ ไปรับยาบ้าแล้วนำมาจำหน่าย สิ่งเดียวที่จะสามารถป้องกันได้นั่นคือความร่วมมือจากทุกองค์กร ไม่เช่นนั้นยาบ้าจะทำให้ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ต้องประสบปัญหาอย่างหนักในอนาคต