“บิ๊กอวบ” เตรียมลุยกาฬสินธุ์สางคดีอุ้ม “โอปอ” ผู้ต้องหาค้ายาบ้าล่องหน

กาฬสินธุ์ - งานงอก “บิ๊กอวบ“ ลุยกาฬสินธุ์สางคดี “โอปอ” ผู้ต้องหาค้ายาบ้าถูกอุ้มหายไปแล้ว 9 วันยังไม่เจอแม้แต่กลิ่น ซ้ำยังไม่มีคำสั่งเด้งตำรวจชุดสืบสวนที่เผลอปล่อยหนี ขณะที่แนวทางการสืบสวนวันนี้ตำรวจเบิกสำนวนคลี่คลายรวม 3 คดี

กรณี น.ส.ประภาพรรณ หรือโอปอ ภูอุทา อายุ 26 ปี เป็นผู้ต้องหาคดียาบ้าตามหมายศาลจังหวัดมหาสารคาม และเป็นผู้เสียหายคดีเรียกค่าไถ่ในท้องที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งให้น้องชายพาหลบหนีจากการควบคุมตัวของตำรวจชุดสืบสวนฯ และหายไปอย่างไร้ร่องรอยครบ 9 วันในวันนี้

ล่าสุดเมื่อวันนี้ (27 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้เรียกประชุมตำรวจ ชุดสืบสวน ชุดสอบสวนที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมดให้รายงานผลความคืบหน้าถึงแม้ในวันนี้จะเข้าสู่วันที่ 9 ในการติดตามตัวภายหลังจากที่ น.ส.ประภาพรรณหลบหนีไปเมื่อเย็นวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา

พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดี น.ส.ประภาพรรณ หรือโอปอ ภูอุทา นั้นคดีในส่วน สภ.เมืองกาฬสินธุ์แยกออกเป็น 3 เรื่อง คือ สำนวนการสอบสวนที่ น.ส.ประภาพรรณตกเป็นผู้เสียหายคดีเรียกค่าไถ่ ซึ่งตำรวจได้จับคนร้ายได้ 5 คนและดำเนินคดีไปแล้ว แต่หากกรณีการร้องว่าไปเกี่ยวพันกับยาเสพติด มีสองทางในการดำเนินการคือตำรวจก็จะต้องรอหนังสือจากศูนย์ดำรงธรรม และต้องรอให้ น.ส.ประภาพรรณ ในฐานะผู้เสียหายคดีเรียกค่าไถ่ มาให้การเพื่อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป

แต่เมื่อ น.ส.ประภาพรรณหลบหนีจากการควบคุมตัว สำนวนที่สองคือผู้ต้องหาหลบหนีหมายศาลจังหวัดมหาสารคามจำนวน 4,000 เม็ด ตำรวจก็ต้องเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีและออกหมายจับแล้ว ทั้งนี้ ส่วนคดีที่ 3 ก็เป็นการดำเนินคดีต่อ นายอดิศร ภูอุทา อายุ 24 ปี น้องชายแท้ๆ ของ น.ส.โอปอ ที่ได้พาผู้ต้องหาหลบหนี ซึ่งได้เรียกมาสอบปากคำและให้ประกันตัวออกไป ซึ่งทั้งหมดเมื่อครบถ้วนกระบวนการก็จะทำการส่งต่อให้พนักงานอัยการฟ้องดำเนินคดีต่อไป

“ในส่วนการดำเนินการทางวินัยจากความประมาทเลินเล่อปล่อยให้ผู้ต้องหาหนีไปได้โดยง่ายนั้น ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยแล้ว ซึ่งก็อยู่ในกระบวนการสอบสวน หากพบว่ามีความจงใจปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนี ก็จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาด้วย” พ.ต.อ.รัชพลกล่าว

อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ถือเป็นวันที่ 9 และเป็นวันหยุด ผู้สื่อข่าวได้ติดตามคำสั่งย้าย หลังจากก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เตรียมที่จะย้ายยกชุดหากชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นการคาดโทษไว้หากไม่สามารถตามเอาตัว น.ส.ประภาพรรณมาดำเนินคดีให้ได้ แต่จนถึงเย็นวันเดียวกันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการโยกย้ายใคร

ทั้งนี้มีรายงานทางลับว่า การหายตัวไปของ น.ส.ประภาพรรณ ในทางสืบสวนเชื่อว่า น.ส.โอปอยังมีชีวิตอยู่และอยู่แบบปลอดภัยและเชื่อว่าญาติเป็นคนพาหลบหนี อีกทั้งเชื่อว่า นายตำรวจยศพันตำรวจโท ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ จะต้องรู้เห็น เนื่องจากการกดดันเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกวันแต่กลับไม่สามารถหาตัวมาได้ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ จึงขอให้นำมามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี

ขณะที่มีรายงานว่าสาเหตุการเกิดขึ้นของคดีนี้ ซึ่งเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ผู้เสียหายถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ แต่ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีค้ายาบ้า ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรมว่าต้นเหตุนั้นเกิดจากยาเสพติดและมีตำรวจร่วมด้วยหลายนาย จนภายหลังได้หายตัวไปอย่างลึกลับซึ่งอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จนทำให้แม่และญาติไปร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า น.ส.ประภาพรรณที่หายไปอาจจะได้รับอันตราย แต่คดีนี้ไม่คืบหน้า

ล่าสุดแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้แจ้งว่า ในวันอังคารที่ 31 กรกฎาคม 2561 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามคดีนี้ด้วยตนเองด้วย