รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 ตอน เปิดลึก ชีวิตลับ เสธ.แอ๊ว ก็อดฟาเธอร์เมืองไทยที่ล่วงลับ
การเสียชีวิตของ พล.อ.อัครเดช ศศิประภา อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ด้วยวัย 78 ปีเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา สังคมให้ความสนใจกับข่าวนี้อยู่ไม่น้อย ทั้งๆ ที่ พล.อ.อัครเดช ได้เกษียณอายุราชการไปนานเกือบยี่สิบปี เป็นทหารแก่คนหนึ่ง ซึ่งไม่มีบทบาทหน้าที่อะไรในกองทัพแล้ว
แต่เป็นเพราะเหตุใดสื่อทุกสำนักจึงให้ความสำคัญในการเสนอข่าวการจากไปของ พล.อ.อัครเดช เป็นข่าวใหญ่กันอย่างถ้วนหน้า เรื่องนี้ย่อมมีคำตอบอย่างแน่นอน
สิ่งที่สังคมสนใจและสื่อให้ความสำคัญกับการเสียชีวิตของ พล.อ.อัครเดช ก็คงมีเหตุผลเดียวคือชีวิตของ พล.อ.อัครเดช อยู่ในฐานะคนเหนือคน เรื่องราวในชีวิตของ พล.อ.อัครเดชนั้นไม่ธรรมดา ซึ่งต้องจัดว่าพิสดาร เป็นตำนานบทหนึ่งในยุทธจักรนักเลงเมืองไทย
นั่นก็เพราะว่า พล.อ.อัครเดชเป็นผู้สร้างตำนาน “ทหารนักเลง” หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “ทหารมาเฟีย”เพื่อให้ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นดุดันมากกว่า
พล.อ.อัครเดช หรือ เสธ.แอ๊ว หรือ พี่แอ๊ว ของมิตรสหาย เป็นทหารบก จบ จปร.11 อยู่ในสายทหารวงศ์เทวัญ เติบโตในสายคุมกำลัง ขณะเดียวกันก็มีชื่อเสียงเป็นเซเลบในสังคมชั้นสูงเพราะเป็นนายทหารรูปหล่อหน้าตาดี หุ่นสมาร์ท และเคยคว้ารองนางสาวไทยคนสวยในยุคนั้นเป็นภรรยาคนแรก
อีกด้านหนึ่ง เสธ.แอ๊วดำเนินชีวิตอย่างโลดโผนบนเส้นทางนักเลงเมืองกรุงด้วย จนเป็นขาใหญ่ที่เจ้าพ่อทุกย่านให้ความนับถือ ด้วยความเป็นคนใจถึงพึ่งได้จึงเริ่มเป็นองค์กรทหารนักเลง กระทั่งวันนี้ทหารนักเลงหรือทหารมาเฟียเป็นมรดกที่ เสธ.แอ๊วสร้างขึ้น แตกหน่อเติบโตเป็นองค์กรหนึ่งที่มีอิทธิพล ทั้งทางด้านมืดและสว่างอยู่คู่กับสังคมไทย
เมื่อสามสิบปีก่อน หลังจากที่ เสธ.แอ๊วเป็นเบอร์หนึ่งของทหารนักเลงที่แผ่อิทธิพลอยู่ในเมืองหลวง และสยายปีกไปทั่วประเทศ มีบารมีเป็นที่เกรงขาม เสธ.แอ๊วเป็นคนยึดถือในเรื่องคุณธรรมน้ำมิตรมาโดยตลอด ถือมั่นในกฎคุณธรรมยิ่งชีวิต
เขาจะไม่ใช้อิทธิพลไปเที่ยวรังคราญคนที่อ่อนแอกว่า แต่จะโอบอุ้มทุกคนที่เข้ามาขอความช่วยเหลือทุกราย โดยว่ากันว่าแทบจะไม่มีใครได้รับการปฏิเสธจาก เสธ.แอ๊ว และไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เสธ.แอ๊วเช่นกัน
ความที่เป็นทหารเป็นสุภาพบุรุษ และอีกด้านหนึ่งเป็นคนที่มีความเด็ดขาดพูดคำไหนคำนั้น และไม่เคยหักหลังใคร เสธ.แอ๊วจึงได้รับยกย่องมาก ได้สมญานามเป็น “ก็อดฟาเธอร์เมืองไทย” ที่นักเลงเรียก “พ่อ มาเฟียเรียกพี่” โดย เสธ.แอ๊วก็สามารถประคองตัวเองอยู่เหนือใจคนในยุทธจักรนักเลงเมืองไทยได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
การเข้าถึงจนบรรลุความเป็นก็อดฟาเธอร์ที่แท้จริง ในวงการนักเลง ที่ทุกย่างก้าวเดิมพันด้วยเลือดเนื้อชีวิต และผลประโยชน์มหาศาล จึงจำเป็นต้องเข้าไปมีอิทธิพลแทรกซึมอยู่ในทุกวงการ ไม่ว่าจะในส่วนราชการ การเมือง เศรษฐกิจ และศาสนา ดูเหมือน เสธ.แอ๊วเป็นนักเลงคนเดียวในเมืองไทยที่มีอิทธิพลแผ่เข้าไปทุกวงการ
ดังนั้น เสธ.แอ๊วเป็นที่ยอมรับและครั่นคร้ามเสมอมา เมื่อใครมีปัญหาก็จะมาปรึกษา เสธ.แอ๊ว อย่างเช่นกรณีปัญหาความขัดแย้งที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลเมื่อเร็วๆ นี้ ที่อาจารย์และนักเรียนรวมตัวกันขับไล่ผู้บริหารชุดเก่าโดยไม่พอใจกับการทำงานที่ไม่มีความโปร่งใส เรื่องนี้ใครจะรู้ว่า เสธ.แอ๊วเป็นคนอยู่เบื้องหลังของการยุติปัญหา
เสธ.แอ๊วเข้าไปส่งเสียงไกล่เกลี่ยในเซนต์คาเบรียลได้ก็เพราะทำงานรับใช้โรงเรียนเก่าในฐานะนายกสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียลมาหลายสมัย สร้างคุณงามความดีให้โรงเรียนและบรรดาอาจารย์มากมาย จึงมีบารมีเป็นที่เกรงใจของทุกฝ่าย
อิทธิพลในธุรกิจวงการนักเลงคงไม่ต้องพูด ในสนามม้าสนามมวยล้วนแต่มีลูกน้องระดับน้อยใหญ่ของ เสธ.แอ๊วยึดพื้นที่ที่มีอยู่ทั้งหมด แต่ เสธ.แอ๊วไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่เคยเข้าไปเล่นม้าหรือดูมวย แต่ พล.อ.อัครเดชกลับไปนั่งเป็นประธานกรรมการให้กับ บริษัท NEP และ นวนคร ที่ทั้งสองเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
เช่นเดียวกับกรณีที่ พล.อ.อัครเดช ไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมืองแม้แต่ตำแหน่งเดียวในชีวิต แต่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานใหญ่ทางการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย ไล่มาตั้งแต่ยุคป๋าเปรม เป็นนายกรัฐมนตรี เสธ.แอ๊วเป็นคนหนึ่งที่เป็นมือไม้ของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ และ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิษฐ์ ที่นายทหารใหญ่ทั้งสองมีหน้าที่เป็นกองหนุนให้กับรัฐบาลป๋าเปรม
มาถึงการเมืองยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และนายชวน หลีกภัย ตอนนั้น เสธ.แอ๊วซึ่งมีความสนิทสนมกับ เสธ.หนั่น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เสธ.แอ๊วได้กระโดดมาช่วยงานการเมืองให้ เสธ.หนั่น อย่างใกล้ชิด มีงานสำคัญหลายเรื่องที่ทำให้ เสธ.หนั่น
โดยที่เด่นชัด เสธ.แอ๊วคือมือประสานให้เจ้าพ่อที่จะผันตัวมาเป็นนักการเมืองเข้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเข่นคนดังนายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี้ยะ เมืองกาญจน์ ก็มาเพราะพี่แอ๊วจูงมือมา
หมดยุค เสธ.หนั่น ในช่วงยุครัฐบาลทักษิณเรืองอำนาจ เสธ.แอ๊ว ก็เป็นคนหนึ่งที่ทักษิณไม่กล้าแตะต้องแม้จะมีนโยบายปราบปรามเจ้าพ่ออย่างแข็งขัน เวลานั้น เสธ.แอ๊วก็มาเป็นเงาอยู่เบื้องหลังให้กับสุวัจน์ ลิมปตพัลลภ
ระหว่าง เสธ.แอ๊วเป็นกองหนุนให้สุวัจน์ มีผลงานมากมาย แต่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เสธ.แอ๊วเป็นคนดึง “น้องแบม” จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ เข้ามาเล่นการเมือง หมายใจว่าจะให้อยู่กับสุวัจน์ แต่งานนี้เกิดความผิดพลาด เพราะถูกมังกรสุพรรณบุรี นายบรรหาร ศิลปอาชา ปาดหน้าเอาตัวน้องแบมไปเป็นสีสันทางการเมืองของพรรรคชาติไทย
เหล่านี้คือบางส่วนของบทบาทก็อดฟาเธอร์เมืองไทย พล.อ.อัครเดช ผู้ล่วงลับที่มีอำนาจแผ่กระจายเข้าไปทุกวงการ แม้วันนี้ลาจากโลกไปแล้วแต่ชีวิต พล.อ.อัครเดชจะเป็นตำนานให้เล่าขานต่อไปอีกนาน