เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ผู้ช่วยโฆษกทำเนียบขาวออกมาอ้างกับสื่อสหรัฐฯล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการไล่ เจมส์ โคมีย์ (James Comey) ผู้อำนวยการ FBI นับตั้งแต่ที่รู้ว่า ชนะการเลือกตั้ง แต่เลือกเก็บไว้ หวังปล่อยเวลาให้แก้ตัว สื่อทั่วโลกเปิด โคมีย์ช็อกทันทีหลังรู้ถูกไล่ออกผ่านหน้าจอทีวี จับเจ็ตส่วนตัวบินด่วนจากลอสแองเจลีสกลับเข้าวอชิงตันทันที ด้านปูติน ให้สัมภาษณ์อารมณ์ดี "เป็นสิทธิ์ของทรัมป์ที่ไล่บอส FBI ออก" ก่อนลงสนามแข่งไอซ์ฮอกกี้ในโซชิ
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(10 พ.ค)ว่า ล่าสุดหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ทรัมป์ ได้อ้างผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเป็นครั้งแรกต่อสาธารณะว่า เหตุผลในการต้องสั่งปลดผู้อำนวยการ FBI ออกฟ้าผ่า ช็อกวงการสื่อและการเมืองทั่วสหรัฐฯนั้นเป็นเพราะ เจมส์ โคมีย์ (James Comey) ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาตัดสินใจไล่อดีตผู้อำนวยการรายนี้ออก
การออกคำสั่งปลดโคมีย์นั้นถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการสั่งปลดออกอย่างกะทันหัน ทำให้สื่อการเมืองทั่วอเมริกา และเดอะแคปิตอลฮิล รัฐสภาคองเกรส ต่างตื่นตกใจ ซึ่งพบว่า โคมีย์ทราบคำสั่งการปลดออกในระหว่างที่เขากำลังพบกับเจ้าหน้าที่ FBI ประจำสาขาลอสแองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย และทราบจากการรายงานผ่านสื่อโทรทัศน์ซึ่งเขาและบรรดาลูกน้องได้เห็นการขึ้นเบรกกิ้งนิวส์ ข่าวทรัมป์ปลดตัวโคมีย์ออก และทำให้อดีตผู้อำนวยการ FBI ต้องนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวตรงดิ่งกลับไปกรุงวอชิงตัน ดีซีทันที อ้างอิงจากสื่ออังกฤษ เดลีเทเลกราฟ
ซึ่งในขณะนั้น พบว่า โคมีย์ ตัวผู้อำนวยการ FBI เชื่อว่าอาจจะเป็นแค่มุขตลกที่รายการทีวีทำขึ้น อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ได้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ CNN และสื่อไทม์ส และทำให้โคมีย์รีบเดินทางไปยังสำนักงาน FBI อีกแห่งที่อยู่ใกล้สุด และได้ทราบว่า ข่าวการถูกสั่งให้ออกนั้นเป็นเรื่องจริง
โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ FBI ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เปิดเผยกับ ABC NEWS สื่อสหรัฐฯว่า “ผู้อำนวยการ FBI โคมีย์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก โดยที่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ตั้งตัวมาก่อนเพื่อรับรู้ข่าวนี้"
เดลีเทเลกราฟชี้ว่า ก่อนที่ข่าวการปลดเจมส์ โคมีย์จะถูกรายงานผ่านสื่อโทรทัศน์ มีสมาชิกรัฐสภาคองเกรสอย่างน้อย 3 คนรับรู้เรื่องนี้ โดยพบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯได้โทรศัพท์แจ้งให้ สว.พรรครีพับลิกัน ลินด์เซย์ เกรย์แฮม ประธานชุดคณะอนุกรรมาธิการยุติธรรมประจำสภาสูงสหรัฐฯ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนคดีรัสเซียเข้ามีข้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมไปถึง สว.พรรคเดโมแครต ไดแอน ไฟน์สไตน์ ประจำคณะกรรมาธิการยุติธรรมสภาสูงสหรัฐฯ และหัวหน้าเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตประจำสภาสูงสหรัฐฯ สว.ชัค ชูเมอร์
NBC NEWS รายงานต่อว่า ในวันพุธ(10 พ.ค)ซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส( Sarah Huckabee Sanders) ผู้ช่วยโฆษกประจำทำเนียบขาวออกมาเปิดเผยกับสื่ออ้างว่า ในความเป็นจริงแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ ต้องการให้โคมีย์ออกนับตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขารับทราบว่า ได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง โดยเธอกล่าวว่า“ทรัมป์พิจารณาที่ต้องการให้ผ.อโคมีย์ออก ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขาทราบผลการเลือกตั้ง”
และผู้ช่วยโฆษกยังอ้างเหตุผลเพื่อให้น้ำหนักโดยชี้ว่า “ในความเป็นจริงแล้ว ทรัมป์ได้สูญเสียความไว้ใจในตัวโคมีย์ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา” ทั้งนี้สื่อสหรัฐฯชี้ว่า เจมส์ โคมีย์ ยังมีเวลากุมอำนาจนั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของสำนักงาน FBI สหรัฐฯอีก 6 ปี ในสัญญาการจ้างงาน 10 ปีของเขา
แต่อย่างไรก็ตาม NBC NEWS ระบุว่า คำอ้างของแซนเดอร์ส นั้นดูขัดแย้งกับการออกมาแถลงของโฆษกประจำทำเนียบขาว ณอน สไปเซอร์ ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยสไปเซอร์อ้างว่า เขาเชื่อว่าโคมีย์ยังคงได้รับการไว้ใจจากทรัมป์ รวมไปถึงตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯเองที่ออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดในเดือนที่ผ่านมากับสื่อขวาจัด ฟ็อกซ์นิวส์ กล่าวแสดงความชื่นชมในตัว โคมีย์ และอีกหลายครั้งบนเวทีหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ซึ่งในการให้สัมภาษณ์วันพุธ(10 พ.ค) แซนเดอร์สยืนยันว่า ***สถานะของคนทำให้สถานการณ์เปลี่ยน*** โดยระบุว่า “ในขณะนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯสวมหมวกคนละใบ” และกล่าวต่อว่า “สถานการณ์เปลี่ยนเมื่อต้องทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
และล่าสุดในรายการทีวีมอร์นิงโจส์ทางสถานีโทรทัศน์ แซนเดอร์สได้ทำให้รายการคุยข่าวสถานีสื่อลิเบอร์รัลดุเดือด โดยเธออ้างว่าหากเกิดขึ้นในกรณีที่ฮิลลารี คลินตัน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และไล่โคมีย์ออก ทางพรรคเดโมแครตคงเต้นรำอย่างรื่นเริง ไม่ทำตัวตีโพยตีพายเหมือนที่เป็นอย่างทุกวันนี้
ทั้งนี้ถึงแม้จะมีรายงานถึงปฎิกริยาที่ออกมาจากโคมีย์ในภายหลัง แต่ทว่า 1 วันหลังจากคำสั่งปลดฟ้าผ่า คนในสำนักงาน FBI รู้สึกไม่พอใจต่อคำสั่งปลดที่ดูเหมือนหยามอดีตผู้อำนวยการแห่งนี้ โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อาวุโสสำนักงาน FBI ออกมาให้ความเห็นกับสื่อ NBC NEWS ว่า “การกระทำที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าจะเป็นการหยาม ผมคิดว่า นี่เป็นการส่งข้อความไปหาตัวของ FBI เอเจนต์ แบบลับหลังไม่ให้ได้รู้” และกล่าวต่อว่า “นี่ไม่ใช่การแค่ไล่ออกเท่านั้น แต่เป็นการใช้ไม้หน้าสามตีซึ่งหน้า และหยามสุดๆ ไม่มีการส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้รู้ ไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่เป็นคำสั่งลงมาแบบฟ้าผ่าทันที”
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง FBI ยังกล่าวต่อด้วยแรงความรู้สึกว่า “ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวมายื่นหนังสือถึงสำนักงานใหญ่ ที่ผมคิดว่านี่เป็นการถูกออกแบบเพื่อเป็นการส่งข้อความ แบบว่า "เอาไอ้คนนี้ออกไป นี่เหมือนกับว่าหัวม้าอยู่บนเตียง" "ซึ่งหัวม้านี้ แหล่งข่าวระดับสูงอาจโยงไปถึงฉากหนึ่งในภาพยนต์ก็อดฟาเธอร์ชื่อดัง ที่พบว่าในฉากหนึ่งของเรื่อง มีหัวม้าที่ถูกตัดแล้ววางอยู่บนเตียง เป็นสัญลักษณ์ในวงการมาเฟียเพื่อข่มขู่
สื่อสหรัฐฯรายงานต่อว่า ตัวเลือกของผู้อำนวยการ FBI คนใหม่นั้นมีถึง 5 คน ซึ่งรวมไปถึงรักษาการผู้อำนวยการ FBI คนปัจจุบัน แอนดรูว์ แม็คเคบ(Andrew McCabe) เปิดเผยจากแหล่งข่าวในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในขณะที่แหล่งข่าวทำเนียบขาวให้ข้อมูลว่า ทรัมป์ได้พบกับแม็คเคบแล้วในช่วงเช้าวันพุธ(10 พ.ค)
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(9 พ.ค) ทำเนียบขาวได้อ้างว่า เหตุผลในการตัดสินใจปลดโคมีย์ออกนั้นเกี่ยวข้องกับฝีมือการจัดการคดีอีเมลฉาวของฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครพรรคเดโมแครต คู่แข่งทรัมป์ โดยทำเนียบขาวยืนยันว่า ทรัมป์ได้สูญเสียความมั่นใจในตัวโคมีย์ และกล่าวว่า เป็นเพราะเขาทำงานไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน
NBC NEWS รายงานว่า การออกมาทวีตของทรัมป์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่เขามีกำหนดต้องคุยเป็นการส่วนตัวครั้งแรกกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลรัสเซียเป็นครั้งแรก รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า เป็นไทม์ไลน์แบบสุดบังเอิญ อย่างไรก็ตามสำหรับการไล่ผู้อำนวยการ FBI ออกฟ้าผ่านั้น เจ้านายของลาฟรอฟให้สัมภาษณ์อย่างใจเย็นกลางสนามไอซ์ฮอกกี้ผ่านล่าม โดย CBS News รายงานว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ให้ความเห็นในเชิงปัด โดยชี้ว่าเป็นอำนาจทางบริหารตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯของทรัมป์ที่จะสามารถทำได้
โดยปูตินกล่าวว่า “เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้” และกล่าวต่อในขณะที่เขาอยู่ในชุดเครื่องแบบนักกีฬาไฮซ์ฮ็อกกี้สีแดงขาวที่กำลังจะลงสนามฮ็อกกี้ในเมืองโซชิ รัสเซีย ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์กระทำไปตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯและกฎหมาย” ปูตินยังกล่าวกับนักข่าวอเมริกันอย่างติดตลกต่อว่า “เห็นไม้ ผมกำลังจะไปเล่นไอซ์ฮอกกี้” และกล่าวอีกว่า “ผมขอให้คุณทำเช่นเดียวกัน” ก่อนเดินลงสู่สนามไปอย่างใจเย็น