xs
xsm
sm
md
lg

ปิดตำนาน “เสธ.แอ๊ว” ทหารมาเฟีย พ่ออดีตสามี “หมิว ลลิตา” สิริอายุ 77 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.อัครเดช ศศิประภา หรือ เสธ.แอ๊ว(ภาพจากแฟ้ม)
พล.อ.อัครเดช ศศิประภา หรือ “เสธ.แอ๊ว” อดีตรอง ผบ.สส. พ่ออดีตสามี “หมิว-ลลิตา ปัญโญภาส” เสียชีวิตอย่างสงบในวัย 77 ปี ญาติตั้งศพบำเพ็ญกุศล วัดโสมนัสฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 28 มี.ค.

วันนี้ (24 มี.ค.) มีรายงานว่า พล.อ.อัครเดช ศศิประภา หรือ “เสธ.แอ๊ว” อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และประธานกรรมการบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) ได้เสียชีวิตแล้ว ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยโรคไตวาย สิริอายุได้ 77 ปี ญาติตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร ศาลา 9 กำหนดพระราชทานน้ำหลวงอาบศพวันที่ 28 มี.ค. หลังจากนั้นสวดพระอธิธรรมศพ 7 วัน พระราชทานเพลิงศพวันที่ 3 เม.ย.

สำหรับ พล.อ.อัครเดช ศศิประภา เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2484 มีชื่อเล่นว่า แอ๊ว เป็นบุตรของ พล.ท.อรรถ ศศิประภา อดีตแม่ทัพกองทัพภาคที่ 1 กับ นางจำรูญ ศศิประภา และเป็นน้องชายของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

พล.อ.อัครเดชรับราชการในตำแหน่งสูงสุดเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และยังเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท นวนครฯ และกลุ่มทุนอีกหลายกลุ่ม ทำให้มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ในช่วงวัยหนุ่ม ก่อนปี 2507 ร.ท.อัครเดช (ยศในขณะนั้น) เคยคบหากับอาภัสรา หงสกุล ตั้งแต่ก่อนได้เป็นนางงามจักรวาลคนแรกของประเทศไทย และเมื่ออาภัสราได้แต่งงานกับ ม.ร.ว.เกียรติคุณ กิติยากร ทำให้คนไทยทั้งประเทศถึงกับช็อก

ในภายหลัง ร.ท.อัครเดช ได้แต่งงานกับนางพนารัตน์ พิสุทธิศักดิ์ รองนางสาวไทยอันดับ 1 ปี พ.ศ. 2512 มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกเกิดปี พ.ศ. 2514 คือ นรบดี ศศิประภา หรือก้อง อดีตสามีของ “หมิว” ลลิตา ปัญโญภาส ดาราชื่อดัง

หลังแยกทางกับนางพนารัตน์ ต่อมาได้แต้งงานกับ พ.อ.หญิง กรรณิกา ศศิประภา มีบุตรด้วยกัน 3 คน

บทบาทที่สำคัญของ เสธ.แอ๊ว ในช่วงรับราชการถือได้ว่าได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในกองทัพ ในช่วงบ้านเมืองเกิดเหตุการณ์วุ่นวายจากการตั้งกลุ่มนักเลง แก๊งกวนเมือง ก่อเหตุรุนแรงขึ้น ช่วงที่ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ มีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจ 123 (สายตรวจร่วมปฏิบัติการพิเศษทหารตำรวจ 123) ที่เป็นกำลังพลของกองพันทหารสารวัตรที่ 1 คัดกำลังพลที่มีความเข้มแข็ง สุภาพ อ่อนน้อม ซื่อสัตย์ เพื่อไว้ปราบนักเลง กลุ่มกวนเมือง โดยหน่วยดังกล่าวมีอำนาจการปราบปรามอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงกองกำลังขนาดเล็กติดอาวุธ มีอำนาจสั่งการได้โดยตรง ทำให้ “เสธ.แอ๊ว” ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าชุด

ต่อมาได้มีการริเริ่มจัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ กองพันทหารสารวัตรที่ 1 ขึ้น โดยคัดเลือกทหารที่มีร่างกายแข็งแรง ลักษณะทหารที่ดี มีปฏิภาณไหวพริบ เข้ารับการอบรมการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามหลักสูตรการต่อต้านการก่อการร้ายสากล (A.T.) ใช้เวลาฝึก 6 สัปดาห์ จัดเป็นกำลังพิเศษเพื่อปฏิบัติภารกิจในการอารักขาบุคคลสำคัญ ทำให้ “เสธ.แอ๊ว” กลายเป็นทหารผู้กว้างขวางที่ถูกจับตามองมากที่สุดในยุคนั้น

ด้วยความที่เขาเป็นทหารในราชการที่มีตำแหน่ง หน้าที่ อำนาจ และมีเครื่องมือพิเศษในการปฏิบัติราชการ อีกทั้งมีความก้าวหน้าในชีวิตรับราชการตามลำดับ เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 และรับราชการอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีถึง 6 ปี จึงมีความใกล้ชิดกับอดีตกำนัน และเจ้าพ่อท้องถิ่น และมีนักการเมืองเข้ามาเชื่อมความสัมพันธ์ในทุกสาย

หลังจาก “เสธ.แอ๊ว” เกษียณอายุราชการ ในปี 2544 บารมีในแวดวงกองทัพก็ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ อีกทั้งช่วงหลังก็ยังมีอาการป่วยไปตามอายุขัย และตามสภาพร่างกายที่ใช้มาอย่างโชกโชนในวัยหนุ่ม ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ชอบดื่มไวน์ สูบบุหรี่ แต่ก็ยังคงมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท นวนครฯ และกลุ่มทุนอีกหลายกลุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น