“สมชัย” ยังไม่หยุดโต้ คสช.ทุกเม็ด ขู่แฉเรื่องเด็ดต้นเหตุเด้งฟ้าผ่าพรุ่งนี้

“สมชัย” ยังแรงส์ไม่หยุด ตอบโต้ทุกเม็ดยันไม่ใช่คนทำให้สังคมสับสน จนต้องสั่งปลดจาก กกต. ยก 6 เรื่องคาดการณ์ล้วนเป็นจริง เตรียมเผยเรื่องที่ 7 เชื่อเป็นสาเหตุคำสั่งปลดฟ้าฝ่า

วันนี้ (22 มี.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ถูก คสช. สั่งปลดออกจากตำแหน่ง โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า สิ่งที่ตนเองเคยอธิบายและคาดการณ์ในขณะทำหน้าที่ กกต. เป็นสิ่งที่ถูก ไม่ได้ก่อให้เกิดความสับสนต่อสังคม โดยได้ยกตัวอย่างเรื่องใหญ่ที่ได้แสดงความเห็นหรือทักท้วงในลักษณะของการคาดการณ์ 6 เรื่อง ประกอบด้วย 1. ก่อนการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557 ตนได้บอกกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า หากเดินหน้าจัดการเลือกตั้งทั้งๆ ที่ 28 เขต ไม่สามารถรับสมัครได้ ท้ายสุดการเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ

สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ว่า การเลือกตั้ง เป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นการจัดการเลือกตั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญ คือ ไม่ใช่วันเดียวกันทั้งประเทศ

2. ฝ่ายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนที่เหลือ และ การเลือกตั้ง ส.ว. ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 30 มี.ค. 2557 แต่ กกต. ไม่เห็นด้วย เห็นควรเลือก ส.ว. อย่างเดียว การเลือก ส.ว. จึงจะประสบความสำเร็จ ผลก็คือการเลือกตั้ง ส.ว. ในวันที่ 30 มี.ค. 2557 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

3. หัวหน้า คสช. ตั้งคำถามต่อประชาชนว่า คสช. มีสิทธิสนับสนุนพรรคการเมืองหรือไม่

ตนได้ให้คำตอบต่อสาธารณะ ว่า หาก คสช. หมายถึงตัวบุคคล ย่อมสนับสนุนพรรคใดก็ได้ แต่หาก คสช. เป็นองค์กรที่เป็นหลักในกลไกการบริหารประเทศ การสนับสนุนพรรคการเมืองอาจไม่เหมาะสม 4. ตนให้ข้อเท็จจริงว่า การเลือก กกต. จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ไม่เป็นไปตาม กม. คือ ไม่เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย ที่สุด สนช. ลงมติไม่รับรองชื่อ กกต. 7 ท่าน ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาต้องมีการคัดเลือกใหม่โดยยอมแก้ไขข้อบังคับการประชุมให้เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผย และผู้ผ่านการคัดเลือก 2 คนเดิม ยังสมัครในรอบนี้อีก แปลว่า เห็นว่า สนช. มิได้ลงคะแนนไม่รับจากคุณสมบัติ แต่เป็นกังวลในเรื่องกระบวนการลงคะแนนที่ขัดกับกฎหมาย

5. ตนคาดการณ์ว่า หาก สนช. เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พรป.ส.ส. โรดแมปจะเคลื่อนออก 2 เดือน ซึ่ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ประธาน สนช. และ วิป สนช. สมชาย แสวงการ ออกมาให้สัมภาษณ์ตรงกันว่า หากยื่น พรป.ส.ส. ต่อศาลรัฐธรรมนูญ โรดแมปจะเคลื่อน 2 - 3 เดือน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้ายืนยันว่าโรดแมปไม่เคลื่อน

6. ตนคาดการณ์ว่า หาก สนช. มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็น พรป.สว. โรดแมปจะเคลื่อน 0 - 6 เดือน กล่าวคือ ในกรณีที่ ศาลมีคำวินิจฉัยโดยเร็วและไม่เป็นการแก้ไขในสาระสำคัญ สามารถเสร็จในช่วงเวลา ไม่เกิน 90 วัน โรดแมปจะไม่เคลื่อน แต่หากศาลชี้ว่า ประเด็นที่ขัดหรือแย้งเป็นสาระสำคัญของ พรป. จะทำให้ พรป. ดังกล่าวตกไป ต้องเริ่มกระบวนการยกร่างใหม่ ใช้เวลารวมประมาณหกเดือน. โดยตนให้น้ำหนักต่อแบบไม่เคลื่อน มากกว่า เคลื่อน ผลก็คือ มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญไปแล้ว ต้องรอดูผลว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

“ตัวอย่าง 6 เรื่องที่ผมอธิบายและคาดการณ์ต่อสังคม กลายเป็นเรื่องที่เป็นจริง 5 เรื่อง ส่วนเรื่องที่ 6 ต้องรอดูว่าจะเกิดผลอย่างไร ทั้งหมดหากใครว่าสับสน คนว่า คงสับสน พรุ่งนี้ ผมจะเล่าให้ฟังว่า การอธิบายในเรื่องที่ 7 เรื่องใด ที่ผมยังไม่ได้พูด และอาจเป็นเหตุให้ คสช. หวั่นไหว จนต้องออกคำสั่ง ม.44 ให้ผมพ้นจากหน้าที่”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่ถูก คสช. สั่งปลดออกจากตำแหน่ง ก็ยังคงเดินทางมาเก็บของที่ห้องทำงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.)

ขณะเดียวกัน ในช่วงเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 15 ของการเปิดให้กลุ่มการเมืองเข้าจดจัดตั้งพรรคการเมือง ยังคงมีกลุ่มการเมืองทยอยเข้าจดจัดตั้งพรรค 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของ นายธีรพงษ์ พริ้งกลาง ขอจดในนาม “พรรคพันปีธรรมดีเพื่อแผ่นดิน” ซึ่งเป็นลำดับที่ 69 โดยเป็นการรวมกลุ่มของนักการเมืองท้องถิ่น ครู โดยชูนโยบายที่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เน้นสร้างโอกาสให้เกษตรกร ซึ่งเป็นรากฐานใหญ่ของประเทศ ยอมรับว่า แม้พรรคการเมืองเก่าจะมีความได้เปรียบ แต่เชื่อว่านโยบายของพรรคจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนตัดสินใจได้

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มของ พลเอก อธิชาติ เจริญยิ่ง ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นแกนนำในการขอจดแจ้งชื่อ “พรรคสยามพัฒนา” เป็นลำดับที่ 70 เน้นนโยบายส่งเสริมให้มีการเพิ่มค่าครองชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ