MGR Online - ป.ป.ส. ประชุมรับฟังความคิดเห็นยกร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้สอดคล้องกับกาลสมัย และ วิวัฒนาการ ตามมติ ครม. เม.ย. 2559 โดยมีภาคเอกชน เครือข่ายนักวิชาการ รวมถึงภาคประชาชนเข้าร่วม
วันนี้ (9 พ.ย.) ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านการสังคมสงเคราะห์ ด้านความมั่นคงและการบังคับใช้กฎหมาย และจากหน่วยงานภาคเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย เครือข่ายนักวิชาการต่างๆ รวมถึงภาคประชาชน จำนวน 200 คน เข้าร่วมประชุม
สืบเนื่องมาจาก สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ยกร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... และร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้มีความเหมาะสมเป็นธรรม สอดคล้องกับกาลสมัยและวิวัฒนาการของเทคโนโลยี โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2559 เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว และได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ซึ่งในขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีการปรับปรุงแก้ไขในรายละเอียดจากฉบับที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ
ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้ก่อนการตรากฎหมายทุกฉบับ รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้กำหนดให้มีการรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2560 จนถึงวันที่ 9 พ.ย. 2560 โดยมีวิธีการแสดงความคิดเห็นหลายช่องทาง อาทิเช่น ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ส. หรือนำส่งทางไปรษณีย์หรือโทรสารมายังสำนักงาน ป.ป.ส. รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นผ่านการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในวันนี้
ด้าน นายวิชัย กล่าวว่า ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ได้ปรับปรุงแก้ไขในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น นอกจากจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้รัฐพึงกำหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง และพึงใช้ระบบคณะกรรมการในกฎหมายเฉพาะกรณีที่จำเป็นแล้ว ยังได้ทำการปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับทิศทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามมติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก ค.ศ. 2016 โดยมีสาระสำคัญคือ การกำหนดให้มีนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การปรับปรุงระบบการควบคุมและกำกับดูแลยาเสพติดโดยกำหนดให้มีมาตรการพิเศษต่างๆ เช่น การเปิดกว้างให้มีการศึกษาวิจัยและการใช้พืชเสพติดเพื่อการศึกษาวิจัยและการบำบัดรักษา การปรับปรุงการกำหนดความผิดและบทกำหนดโทษในคดียาเสพติดให้มีความเหมาะสมได้สัดส่วนกับการกระทำความผิด และการปรับปรุงระบบการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด