MGR Online - กองปราบปรามรวบแล้ว! ผู้ต้องสงสัยบงการฆ่ายกครัว 8 ศพ พบปมก่อนตายผู้ใหญ่บ้านโทร.หาเพื่อนสนิทหุ้นส่วนโรงโม่หิน ก่อนถูกยิง 10 นาที สอบเส้นทางการเงินผู้ตายนำที่ดินจำนองกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล 5 แสน ถูกข่มขู่ทวงถาม
วันนี้ (14 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายเป็นชาย 6-7 คน แต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหารพร้อมอาวุธ อ้างตัวเป็นเจ้าที่มาขอตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ บ้านของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ก่อนจับคนในบ้าน 11 คน คุมตัวใส่กุญแจมือและปิดบังใบหน้า และใช้อาวุธปืนยิงอย่างโหดเหี้ยมทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ว่าหลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ลงมาควบคุมการสืบสวนคลี่คลายคดีด้วยตัวเอง ตั้งแต่เมื่อเย็นวันที่ 13 ก.ค. มีรายงานว่าเมื่อค่ำวันดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งหมด เช่น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) โดยการประชุมมีการแบ่งงานการสืบสวนอย่างชัดเจน โดยกำหนดให้ตำรวจสันติบาลมีหน้าที่ในการแกะรอยหาข้อมูลของบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับคดี ตำรวจสืบสวนนครบาลดำเนินการแกะรอยทางด้านเทคนิค ในขณะที่ตำรวจกองปราบปรามได้เน้นให้สืบสวนหาตัวพยานและกล้องวงจรปิดในพื้นที่
มีรายงานแจ้งต่อว่า ชุดสืบสวนได้ให้ความสนใจไปยังกลุ่มทหารนอกแถวกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มทหารนอกพื้นที่เข้ามารับจ้างเฝ้าสวนปาล์มให้นายทุนในพื้นที่ จ.กระบี่ และ จ.พังงา เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านมาขโมยตัดปาล์ม โดยทหารกลุ่มนี้ติดอาวุธครบมือ นอกจากนี้ พบว่าทหารนอกรีตบางกลุ่มยังคอยเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากเจ้าของสวนด้วย และหากเจ้าของสวนไม่จ่ายเงินก็จะเข้าทำลายสวนจนได้รับความเสียหาย ซึ่งมีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ ทั้งนี้ ชุดสืบสวนกำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับทหารกลุ่มนี้อยู่เพราะเชื่อว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุหรืออาจจะมีเบาะแสสำคัญที่จะนำไปสู่การติดตามตัวคนร้ายได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนกองปราบปรามได้นำชุดลายพรางของทหารบก และรองเท้าคอมแบต รวมทั้งหมวกเหล็กมาจำลองเหตุการณ์ เพราะเป็นชุดที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุตามคำให้การของพยาน และนำไปให้พยานดูเพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่าง เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวคนร้ายด้วย
ด้านการสอบปากคำพยานซึ่งได้รับบาดเจ็บ เริ่มได้ข้อมูลคืบหน้ากว่าเดิม โดยพยานที่รอดชีวิตคนหนึ่งให้การว่า หลังจากที่ถูกจับอยู่ในบ้านกระทั่งนายวรยุทธมาถึง คนร้ายได้เจรจากับนายวรยุทธในห้องเป็นการส่วนตัว เหมือนกับว่าตกลงผลประโยชน์กันไม่ลงตัว จากนั้นคนร้ายที่มีอยู่ 5-6 คนได้ทยอยยิงผู้เสียชีวิตทีละคนโดยใช้เวลาเพียง 2 นาที ปืนก็มาจ่ออยู่ที่หัวตัวเองแต่กระสุนพลาดประกอบกับตนเองเป็นลมหมดสติไป ทั้งนี้ยังคงยืนยันว่าคนร้ายพูดภาษากลาง และมีเพียงคนเดียวที่สวมหมวกไหมพรม จึงคิดว่าคนที่สวมหมวกนั้นน่าจะเป็นคนในพื้นที่จึงกลัวว่าจะถูกจำหน้าได้
แหล่งข่าวในชุดสืบสวนระบุว่า ขณะนี้การสืบสวนเริ่มแคบเข้ามาเรื่อยๆ โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่น่าจะเป็นกลุ่มที่รับงานมาทวงเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย หากเป็นเช่นนี้น้ำหนักของคดีจะมุ่งไปสู่ปมความขัดแย้งเรื่องการก่อสร้างโรงโม่หิน ที่มีข้อมูลว่านายวรยุทธไปรับเงินจากกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่งเพื่อนำมาเคลียร์ใกับชาวบ้านที่ต่อต้านโรงโม่ แต่นายวรยุทธไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้จึงเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มทุนขึ้น ส่วนที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้นเป็นเพราะมีคนอื่นเดินทางเข้าไปในบ้านของนายวรยุทธโดยที่ไม่คาดคิดว่ามีเหตุร้าย จึงทำให้กลุ่มมือปืนตัดสินใจฆ่าปิดปากเพราะกลัวว่าจะจำหน้าได้
ล่าสุดมีรายงานว่า ชุดสืบสวนของตำรวจกองปราบปรามนำโดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยบงการฆ่าไว้ได้แล้ว 1 ราย โดยนำไปสอบปากคำที่สถานที่แห่งหนึ่ง ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนและตรวจสอบทางเทคนิคพบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เกี่ยวข้องในระดับผู้จ้างวานบงการฆ่านายวรยุทธ นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่าชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ได้นำกำลังลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของมือปืนทีมสังหาร โดยคาดว่าจะมีการเข้าค้นจุดต้องสงสัยภายในเย็นวันนี้
ทั้งนี้ แหล่งข่าวชุดสืบสวนระบุว่าได้เรียกตัวเพื่อนคนหนึ่งของนายวรยุทธมาสอบปากคำ จนทราบว่าในระยะแรกนายวรยุทธมีฐานะที่ร่ำรวยผิดปกติ แต่ในช่วงที่ผ่านมานายวรยุทธติดหนี้สินโดยนำที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในพื้นที่เพราะมีปัญหาด้านการเงินอย่างรุนแรง และก่อนตายมีการติดต่อยืมเงินจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งจำนวน 5 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีความเครียดเพราะถูกข่มขู่ให้นำเงินมาไถ่ถอนที่ดินอีกด้วย จากกรณีนี้ชุดสืบสวนจึงได้ขยายผลสอบปากคำพยานที่รอดชีวิตในที่เกิดเหตุให้การว่านายวรยุทธได้กลับเข้ามาที่บ้านพักเวลาประมาณ 20.00 น.และถูกควบคุมตัวไว้ ชุดสืบสวนกองปราบปรามจึงตรวจสอบทางเทคนิคพบว่า หลังถูกควบคุมตัวแล้วเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันเดียวกัน นายวรยุทธได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เป็นหุ้นส่วนโรงโม่หินและมีการพูดคุยกันนานเกือบ 10 นาที ชุดสืบสวนจึงเชื่อว่าเพื่อนของนายวรยุทธคนนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารโหดอย่างแน่นอนจึงควบคุมตัวไว้สอบปากคำให้เบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถามนายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา กรรมการบริหาร บริษัท กระบี่ ภูทรัพย์อนันต์ จำกัด หรือโรงโม่หิน ที่เป็นเพื่อนสนิทและมีความขัดแย้งกับนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้านหนึ่งในผู้เสียชีวิต เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่กลับไม่สามารถติดต่อนายเชษฐ์ดนัยได้ตั้งแต่เมื่อ 3 ทุ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา
