MGR Online - ชุดสืบสวนคดีฆ่ายกครัวผู้ใหญ่บ้านอ่าวลึก 8 ศพ พบประเด็นใหม่คนตายรับเงินกลุ่มนายทุน-นักการเมือง-ผู้มีอิทธิพล เคลียร์ชาวบ้านหยุดต่อต้านสัมปทานโรงโม่หิน แต่กลับไม่เป็นผล ชาวบ้านเมินหวั่นเกิดมลพิษ พยานรอดตายระบุวันเกิดเหตุคนร้ายขู่ทวงเงินที่เคยมอบให้
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกระบี่ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก. พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.จ.กระบี่ พ.ต.อ กฤษณัฐ วงษ์กล้าหาญ ผกก.สภ.อ่าวลึก พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป. พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยชัย รอง ผกก.5 บก.ป. ร่วมประชุมคลี่คลายคดีกรณีกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 6-7 คน แต่งกายชุดลายพรางคล้ายทหารพร้อมอาวุธ อ้างตัวเป็นเจ้าที่มาขอตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ บ้านของนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ก่อนจับคนในบ้าน 11 คน คุมตัวใส่กุญแจมือและปิดบังใบหน้า และใช้อาวุธปืนยิงอย่างโหดเหี้ยมทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย หลังเกิดเหตุคนร้ายได้หลบหนีโดยใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน พร้อมทั้งนำรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กค 533 กระบี่ ของเจ้าของบ้านไปด้วย
หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ยัง สั่งการให้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ พล.ต.ท.รณศิลป์ เป็นหัวหน้าชุดในการคลี่คลายคดีในครั้งนี้ โดยแบ่งหน้าที่ให้กองบังคับการปราบปรามดูแลด้านการสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมรวมทั้งหาวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ส่วนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดกระบี่ ทำหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและเส้นทางการหลบหนี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางทั้งตำรวจสันติบาล และ บก.สืบสวน บช.น.จะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ตรวจสอบในส่วนของประเด็นหลักคือความขัดแย้งเรื่องโรงโม่หิน รวมทั้งประเด็นการขัดแย้งกับข้าราชการในพื้นที่ ที่ผู้ตายได้มีการยื่นเรื่องร้องเรียนไว้
ทั้งนี้ ก่อนประชุม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป.ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยกระจายกำลังกว่า 20 นาย ออกไปสอบปากคำชาวบ้านในละแวกดังกล่าว พร้อมทั้งเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จากส่วนกลาง พร้อมอุปกรณ์ได้เข้ามาตรวจหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งหลังจากเมื่อวานนี้ได้ตรวจสอบไปแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนชาวบ้านโดยรอบบริเวณบ้านนายวรยุทธซึ่งยังอยู่ในอาการผวา กล่าวว่า ในคืนวันเกิดเหตุไม่พบว่ามีใครได้ยินเสียงปืนเนื่องจากบ้านผู้ตายอยู่ลึกเข้าไปในสวนปาล์ม อีกทั้งมีกำแพงรั้วรอบขอบชิด นอกจากนี้ในส่วนของตัวบ้านประตูหน้าต่างติดกระจกทึบทำให้ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
อย่างไรก็ตาม พยานรายหนึ่งให้การว่า ช่วงสายของวันเกิดเหตุพบกลุ่มคนร้ายสวมชุดลายพรางคล้ายเจ้าหน้าที่ใช้รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับเข้ามาในหมู่บ้านก่อนที่หนึ่งในคนร้ายได้เปิดกระจกรถสอบถามชาวบ้านว่าบ้านของนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 อยู่ที่ไหน คนร้ายยังได้อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมโชว์หมายศาลให้ชาวบ้านดูทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อบอกที่ตั้งไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังกลุ่มคนร้ายก่อเหตุแล้วได้ขับหลบหนีไปไปอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับคำให้การของชาวบ้านบางรายที่ยืนยันว่าได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งออกจากบ้านที่เกิดเหตุด้วยความเร็ว
ในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีพบว่า รถของกลุ่มคนร้ายได้วิ่งออกจากหมู่บ้านแล้วกลับรถมุ่งหน้า อ.ปลายพระยา เข้าทางหลวงหมายเลขสาย 41 สำหรับถนนเส้นนี้สามารถออกไป จ.สุราษฎร์ธานี จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราชได้ โดยเจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อหาจุดหมายปลายทางในการหลบหนี
รายงานข่าวแจ้งต่ออีกว่า ในส่วนสาเหตุการสังหารนั้นเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นหลักในเรื่องของโรงโม่หิน เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตมีการรับเงินจำนวนหลักสิบล้านบาทมาจากกลุ่มนายทุนโรงโม่หินที่มีนักการเมืองท้องถิ่นและผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง ตกลงว่าจะช่วยดำเนินการในเรื่องการขอสัมปทานโรงโม่หิน รวมทั้งเกลี้ยกล่อมชาวบ้านยอมให้มีโรงโม่หินให้เปิดได้สำเร็จตามที่ตกลง แต่ชาวบ้านไม่ยอมเพราะกลัวว่าจะเกิดมลพิษขึ้นในหมู่บ้านจึงรวมตัวคัดค้าน กระทั่งโรงโม่หินไม่สามารถเปิดได้ จึงมีการทวงเงินที่กลุ่มนายทุนได้มอบให้ผู้ใหญ่บ้าน และเป็นชนวนเหตุแห่งความตายครั้งนี้ก็เป็นได้
สำหรับกลุ่มนายทุนโรงโม่หินนั้นมีผู้ร่วมลงทุนหลายกลุ่ม ทั้งนายทุนจาก จ.กระบี่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช โดยแต่ละกลุ่มมีนักการเมืองท้องถิ่นให้การสนับสนุน แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนประเด็นการสังหารอื่นๆ จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นหนึ่งประเด็นใดทิ้ง ทั้งปมขัดแย้งกับนักการเมืองท้องถิ่นซึ่งเป็นถึงระดับนายก อบต.แห่งหนึ่งใน อ.อ่าวลึก, ปัญหาความขัดแย้งเรื่องการบุกรุกที่ดิน ที่ทางนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้าน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องไล่ที่ชาวบ้านจำนวน 8 ราย ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นศาล และประเด็นสุดท้ายคือการขัดแย้งเรื่องยาเสพติด เนื่องจากมีพยานในพื้นที่ให้การว่าคนร้ายได้เข้ามาและอ้างว่ามาตรวจค้นยาเสพติด ประกอบกับในทางข้อมูลของผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตได้มีการนำรถยนต์ส่วนตัวขับขึ้นไปทางภาคเหนือบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งความร่ำรวยผิดปกติที่ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหู
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า จากการสอบปากคำหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ให้การว่า ตนสามารถจดจำใบหน้าและลักษณะของคนร้ายได้ 4 คน อีกทั้งยังได้ยินคนร้ายพูดถึงเรื่องเงินที่เคยมอบให้ผู้ใหญ่บ้านโดยเสียงนั้นเป็นเสียงของคนภาคกลาง ทั้งนี้ยังจำได้อีกว่ามีคนร้ายหนึ่งคนมีการสวมไอ้โม่งปกปิดบังใบหน้า ส่วนคนที่เหลือไม่ได้ใส่ไอ้โม่ง ตนเชื่อว่าคนร้ายที่ใส่ไอ้โม่งน่าจะเป็นคนที่ผู้ใหญ่บ้านหรือคนในบ้านรู้จักหรือคุ้นหน้ามาก่อน นอกจากนี้ ล่าสุดมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ได้รายละเอียดของผู้ต้องสงสัย 1 รายซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนทำธุรกิจกับผู้ตายมาสอบปากคำโดยเชื่อว่าจะมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.ภ.8 กล่าวภายหลังประชุมกว่า 1 ชั่วโมงว่าขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นหนึ่งประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องโรงโม่หิน เรื่องขัดแย้งที่ดิน และยาเสพติด ในส่วนอาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามาจากปืนของคนร้ายหรือของผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งรอผลการตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานต่อไป ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดกับเส้นทางหลบหนียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนภาพสเกตช์ที่เผยแพร่ในข่าวว่าเป็นคนร้ายนั้นขอยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่ภาพสเกตช์คนร้าย ถ้ามีภาพสเกตช์คนร้ายออกมาจะแจ้งให้ทราบอย่างแน่นอน