xs
xsm
sm
md
lg

รู้แล้วจะหนาว“ตำรวจแต่งหญิง”อดีตนาวิกฯ เคยดวลปืนจับตายแก๊งยาบ้ามาแล้ว 2 ศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
“ดาบวิเวก-ตำรวจนะยะ”เคยวิสามัญฯ “จับตาย”แก๊งยาบ้ามาแล้ว 2 ศพ ก่อนสอบเข้าตำรวจเคยเป็นนาวิกฯ มาก่อนถึง 5 ปี “เปิดใจ”สุดแค้นแทนประชาชน วันเดียวโจรระยำจี้เหยื่อบนถนนรัตนาธิเบศร์ 4 รายซ้อน แถมใช้มีดแทงเหยื่อเจ็บสาหัส หลังเป็นข่าวประชาชนแห่ชื่นชมล้นหลาม รายการโทรทัศน์ดังรุมตอม เจ้าตัวยืนยันภูมิใจมีส่วนกู้ภาพลักษณ์ตำรวจ ขอทำหน้าที่เพื่อประชาชนตลอดไป

กลายเป็นคนดังภายในเวลาแค่ข้ามคืน...เขาเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดาบตำรวจวิกเวก กมลวิบูลย์ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศน์ จ.นนทบุรี ที่มีเลือดตำรวจเข้มข้นยอมลงทุนเปลี่ยนโฉมจากตำรวจมือปราบมาเป็นสาวใหญ่ในคืนเปลี่ยว เพื่อล่อตาล่อใจมิจฉาชีพกระทั่งมาติดกับ

หลังปฏิบัติการ “ตำรวจนะยะ”พิชิตไอ้เสือร้ายคะนองเมืองกลายเป็นเรื่องกล่าวขวัญในสังคมโซเชียลฯทีมข่าวอาชญากรรม MGR ออนไลน์ มีโอกาสได้สัมภาษณ์ ดาบตำรวจวิเวก แบบเปิดใจกันทุกแง่ทุกมุมก็ต้องยอมรับว่าเขาดังจริงเพราะตลอดทั้งวันพฤหัสฯที่ผ่านมารายการโทรทัศน์ จำนวนมากต่างขอติดต่อขอสัมภาษณ์อย่าล้นหลามอาทิไทยรัฐ ทีวี. ไบร์ซ ทีวี. อัมรินทร์ ช่อง 9 อสมท.รายการวู๊ดดี้ พีพีทีวี. ประเด็นเด็ด 7 สีเป็นต้น

“ผมเคยเป็นนาวิกโยธินมาก่อน ประจำอยู่ค่ายเทวาพิทักษ์ จ.จันทบุรี ก่อนลาออกมาสอบเข้าเป็นพลตำรวจ รุ่น 4 สระบุรี เคยผ่านการวิสามัญฆาตกรรมมา 2 ครั้งซึ่งในแต่ละครั้งเฉียดเป็นเฉียดตาย ต่างกับภาพลักษณ์ที่เห็นกันในตอนนี้” ดาบวิเวก ตอบคำถามอย่างทันควันเมื่อขอให้เล่าประสบการณ์เรื่องบู๊

 
ครั้งแรกเหตุเกิด พ.ศ.2551 เป็นการปิดล้อมชุมชนมุสลิม ซอยสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตามนโยบายกวาดล้างยาบ้า ระหว่างตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหารายย่อยๆ ได้ 2-3 คนสังเกตเห็นนายจรูญ หรือซีน ดีขาย อายุ 38 ปีเจ้าของบ้านเช่าในชุมชนดังกล่าวท่าทีมีพิรุธ ดาบวิเวก กับ จ.ส.ต.วิสายันต์ หิรัญรัตน์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.นนทบุรี จึงเข้าขอตรวจค้นแต่นายจรูญ ไม่พูดพล่ามทำเพลงควักอาวุธปืนที่ซ่อนอยู่ในโสร่งยิงใส่ จ.ส.ต.วิสายันต์ อย่างเผาขนเข้าบริเวณใบหน้า 2 นัดซ้อน จากนั้นยังใช้ปืนกระบอกเดียวกันหันไปสับไกยิงใส่ ดาบวิเวก อีก 2 นัดแต่เดชะบุญกระสุนเกิดด้านในวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเอง ดาบวิเวก ยังยิงสวนป้องก้นตัวไปบ้างกระสุนถูกที่โคนขาขวา และซ้ายอย่างละนัด นอนร้องโอดโอยไปไหนไม่รอด หลังจากนำคนเจ็บทั้งตำรวจ และโจรส่งรักษาตัวที่ รพ.นนทเวช ปรากฏว่าตำรวจรอดแต่นายจรูญ ซึ่งโดนกระสุนเข้าที่ไม่สำคัญแท้ๆ แต่คราวซวยไปตัดเส้นเลือดใหญ่จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ครั้งที่สองราว พ.ศ.2553 ได้ออกปฏิบัติการล่อซื้อยาบ้ากับ พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ ศรีประเสริฐ สว.สส.สภ.นนทบุรี และทีมสืบสวนโดยนัดหมายส่งของกันที่หลังสนามไดร์ฟกอล์ฟ ซอยนนทบุรี 20 ปรากฏว่าคนร้ายขับ จยย.มากัน 2 คน หลังจากจอดรถคนซ้อนหิ้วกระเป๋าลงมาส่งให้ทีมสืบสวน จึงแสดงตัวเข้าจับกุมปรากฏว่าคนที่ค่อม จยย.อยู่ได้ชักอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่กระสุนทะลุกระจกข้างคนขับ ดาบวิกเวก ซึ่งนั่งคุมเชิงอยู่หลังรถจึงยิงสวนออกไป มีการดวลปืนในระยะประชิดประมาณ 5 นาที ปรากฏว่าฝ่ายคนร้ายตายไป 1 เป็นชาวต่างด้าวไม่มีหลักฐานและหนีไปได้ 1 ปฏิบัติการครั้งนั้นสามารถยึดของกลางเป็นยาบ้ามากถึง 3 หมื่นเม็ด

นั่นคือผลงานในด้านปราบปราม ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างกับบท “ตำรวจนะยะ”ที่กำลังสร้างความชื่นชมให้กับสังคมไทยอยู่ในขณะนี้อย่างสิ้นเชิง

 
“ผมเคยปลอมตัวเป็นพนักงานเซเว่น มาก่อน รู้สึกว่าตั้งแต่ปี 2556 ตอนนั้นมีคนร้ายชอบเข้าไปจี้ร้านเซเว่น ทางเจ้านายก็เรียกพวกเรามาประชุมหาทางแก้ปัญหากัน สุดท้ายคือต้องปลอมตัวกระจายในจุดล่อแหลม และต้องมียุทธวิธีด้วยนะครับคือมีบัดดี้ของเรา และสมัครพรรคพวกดักอยู่ด้านนอก ผลการปลอมตัวจับคนร้ายมาได้ 2-3 ราย มาช่วงหลังโจรปล้นจี้เซเว่นฯ ในพื้นที่นนทบุรี หายไปเลย....ส่วนที่ผมยอมปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพราะเจ็บใจครับ...เจ็บใจจริงๆ วันที่ 8 ธันวาฯ ที่ผ่านมาเพียงวันเดียวมันชิงทรัพย์ชาวบ้านไป 4 ราย เป็นหญิง 3 น้องนักเรียนชายอีก 1 ทรัพย์สินที่ได้ไปมีโทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก กีตาร์และเงินจำนวนหนึ่ง และสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยคือคนร้ายมันยังใช้มีดแทงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บด้วย”

ดาบวิกเวก ระบายความรู้สึกในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก่อนเล่าต่อไปว่าฝ่ายสืบสวนจึงเร่งประชุมหามาตรการ จนในที่สุดที่ประชุมขอให้มีการล่อจับโจรโดยมีแนวคิดว่าต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิง “ภารกิจนี้มาตกที่ผมเพราะผมเต็มใจ อยากแก้แค้นให้ประชาชน อีกอย่างผมเป็นคนผิวขาว ขนไม่มี ดูดีกว่าเพื่อนๆ ผู้กำกับ จึงโอเค “

 
กับคำถามว่าอุปกรณ์การแต่งกาย และแรกที่เห็นตัวเองรู้สึกอย่างไร ดาบวิเวก บอกว่าทั้งกระโปรง เสื้อผ้า วิกผมจัดหาเองหมด การแต่งหน้าก็แต่งเองไม่มีใครแต่งให้ ส่วนชุดที่กำหนดต้องเป็นกระโปรงอย่างเดียวเพราะนี่คือผู้หญิง “ผมไม่กล้าแต่งที่ห้องกลัวลูกเมียเป็นห่วง ก็หลบมาแต่งที่ห้องสืบสวนประมาณตี 3 ตี 4 แต่งเสร็จเพื่อนมันหัวเราะกันใหญ่ ผมเองก็รู้สึกขำแต่ต้องเอาล่ะ ต้องทำหน้าที่ให้สำเร็จ ตอนไปเฝ้าจุดก็ลองคิดไปว่าต้องทำท่าอย่างไร อ่อยอย่างไรโจรมันถึงจะสนใจ เช่นมัวแต่ดูจอโทรศัพท์ ทำเป็นว่าฉันไม่สนใจใคร ลั้นล๊าที่สุด กระทั่งสามารถจับตัวคนร้ายได้ในที่สุด”

ช่วงสุดท้ายของการสนทนา ดาบวิเวก ฝากไปยังเพื่อนตำรวจโดยเฉพาะฝ่ายสืบสวนว่าต้องคิดหาแนวทางใหม่ๆ แปลกๆ ทุกวิถีทางในการจับกุมโจรผู้ร้าย ตอนนี้เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็ต้องนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ต้องปรับตัวให้ทัน

ตนรู้สึกภูมิใจที่ทำหน้าที่ และมีประชาชนรู้สึกดีๆ กับตำรวจ “ตอนนี้ตำรวจมีภาพลบมากมาย ผมสามารถทำสิ่งดีๆ สร้างภาพดีๆ ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ หลังมีข่าวออกไปมีเพื่อนๆ ประชาชนแสดงความชื่นชม ให้กำลังใจเข้ามามาก รวมทั้งท่าน ผบช.ภ.1 ท่าน ผบก.นนทบุรี และท่านผู้กำกับ ผมรู้สึกภูมิใจมาก ภูมิใจที่ได้ทำและจะทำตลอดไป”

กำลังโหลดความคิดเห็น