MGR Online - ดีเอสไอแถลงโต้ “องอาจ ธรรมนิทา” โฆษกศิษย์ธรรมกาย ยืนยันดำเนินคดี “ธัมมชโย” ด้วยความเป็นธรรม ไม่เคยตั้งข้อหาเรี่ยไร มีแต่ข้อหาฟอกเงิน หากต้องการความสงบจริงต้องรีบออกมามอบตัว เผยขออนุมัติหมายค้นจากศาลแล้ว 4 ฉบับ เพื่อค้นวัดต่อเนื่อง 13-16 ธ.ค. แต่ยังติดเรื่องช่วงเวลา เหตุต้องใช้กำลังจำนวนมาก
วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริการร่วมคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และรองโฆษก ดีเอสไอ แถลงตอบโต้กรณี นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษย์ยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงงจุดยืน 9 ข้อวานนี้ กล่าวหาว่าดีเอสไอดำเนินการโดยไม่เป็นธรรมว่า 1. นายองอาจกล่าวหาว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และคดีอื่นไม่เป็นธรรม โดยได้ตั้งข้อหาคณะศิษยานุศิษย์ที่ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ ในฐานความผิดข้อหาเรี่ยไร ทั้งที่เงินเป็นของศิษยานุศิษย์แต่ละคนที่เสียสละมาเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ ตามข้อตกลงในศาล และศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องทั้งวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโยนั้น กรณีดังกล่าวดีเอสไอไม่เคยมีการดำเนินคดีความผิดฐานเรี่ยไร มีแต่การดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน และรับของโจร อันเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ และมีการร่วมกันกระทำความผิดต่อกลุ่มบุคคลอื่นด้วย ซึ่งมีผู้ต้องหารายอื่นได้ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีนี้พร้อมมีความเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย ผู้ต้องหาตามหมายจับไปยังพนักงานอัยการฯ ซึ่งเป็นทนายความแผ่นดินและมีความเห็นสั่งฟ้องสอดคล้องกับความเห็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชอบที่พระธัมมชโยควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2. นายองอาจอ้างว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้ดำเนินคดีพระเทพญาณมหามุนีในข้อหาบุกรุกป่า และข้อหาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับลำรางสาธารณะ ที่สวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย และที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์ พีซ วัลเล่ย์ จ.นครราชสีมา ตามลำดับ โดยอ้างอิงความเห็นของนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของศาล ที่เคยเป็นอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้และถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เพราะทำความผิดฐานวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศบิดเบือนความจริง และสำนักงานศาลยุติธรรมไม่ต่อทะเบียนการเป็นผู้เชี่ยวชาญฯ ซึ่งทางวัดพระธรรมกายได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญฯ ของศาลที่แท้จริง วิเคราะห์ตรวจสอบด้วยแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร ปรากฏผลการตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตป่า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.กลับเลือกที่จะเชื่อผลการวิเคราะห์ของนายวิฑูรย์ และไปขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนีนั้น ดีเอสไอยืนยันว่านายวิฑูรย์ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาล ได้รับการพิจารณาคัดเลือกโดยประธานศาลฎีกา ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ตามใบอนุญาตเลขที่ 6/2555 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 2555 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอต่อใบอนุญาตผู้เชี่ยวชาญของศาล กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวน ปทส.มีหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทั้งความผิดและความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา ฉะนั้น ความเห็นของนายวิฑูรย์เป็นเพียงหลักฐานชิ้นหนึ่งในพยานหลักฐานทั้งหลายเท่านั้น หากพบว่าความเห็นดังกล่าวเป็นไปโดยไม่สุจริตก็อาจถูกดำเนินคดีได้กรณีหากมีการให้ข้อเท็จจริงที่เป็นเท็จและเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญศาลเท่านั้น
3. ดีเอสไอได้ขอให้ กสทช.สั่งหยุดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DMC โดยไม่มีการไต่สวน ทั้งที่เนื้อหามีแต่การสวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนธรรมะให้ประชาชนเป็นคนดีนั้น กรณีดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่าการออกอากาศอาจมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ กสทช. หากการออกอากาศไม่มีผลกระทบก็จะอนุญาตให้ออกอากาศตามเดิม
4. พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. โดยการนำของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำให้คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายพิจารณาแล้วเห็นว่าพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรมนั้น ดีเอสไอยืนยันว่า การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย มิได้มีการกลั่นแกล้งหากมีการดำเนินการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจักต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี
5. นายองอาจอ้างว่า ขณะนี้มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนว่าทางดีเอสไอและตำรวจได้สนธิกำลังกับทหารและฝ่ายปกครองรวมกว่า 3,000 คน พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์ สุนัขตำรวจ รถคลื่นเสียงแรงสูงทำลายแก้วหู รถฉีดน้ำความดันสูง หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เตรียมบุกเข้าวัดพระธรรมกายต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วัน โดยได้ประสานสั่งการให้โรงพยาบาลใกล้เคียงทุกแห่งเตรียมแพทย์พยาบาลไว้ให้พร้อม ส่อให้เห็นว่าจะใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามจับกุมคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่มาสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ในวัดจำนวนหลายหมื่นคนจะทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ประเทศชาติในสายตาชาวโลกอย่างยิ่งนั้น ดีเอสไอยืนยันว่าในการปฏิบัติการครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอ และตำรวจบางส่วนเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่งได้จัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลพี่น้องประชาชนกรณีมีเหตุการณ์ที่มิอาจคาดหมายได้เท่านั้น
6. ทำไมเจ้าหน้าที่ต้องยกกำลังกันหลายพันคนราวกับจะทำสงคราม เพียงเพื่อจะจับกุมพระภิกษุชราที่อาพาธหนัก และทำความดีมาทั้งชีวิต เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ แต่เวลาพระใน 4 จังหวัดภาคใต้ถูกฆ่า วัดถูกเผา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและตำรวจเคยทุ่มเทกำลัง 3,000 นาย เพื่อเข้าคลี่คลายคดีหรือไม่นั้น ขอตอบว่า ตามที่ได้ชี้แจงถึงเหตุในการประกอบกำลังในการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปเพื่อปกป้องพี่น้องประชาชน เนื่องจากในการเข้าปฏิบัติการเราเน้นการหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบหากพระเทพญานมหามุนีเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายก็จะเป็นการไม่สิ้นเปลืองทั้งทรัพยากรบุคคลและงบประมาณ ส่วนกรณีเรื่องเหตุการณ์ 4 จังหวัดชายแดนใต้นั้น เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายรวมทั้งดีเอสไอ ได้เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอยู่แล้ว
7. ช่วงเวลานี้ชาวไทยทั้งประเทศรวมถึงคณะศิษย์ยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ร่วมใจกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นประจำทุกวัน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นโอกาสมหามงคลอันประเสริฐที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย ควรจะเป็นห้วงเวลาที่ชาวไทยทุกคนได้สมานฉันท์เป็นหนึ่งเดียวกัน รักษาสังคมบ้านเมืองที่สงบสันติสุขเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่ควรที่จะมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น หากเมื่อวัดธรรมกายและศิษยานุศิษย์เห็นเป็นอย่างนั้นยิ่งควรนิมนต์ให้พระธัมมชโยมอบตัวและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนในห้วงโอกาสพิเศษนี้และให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเสมอภาค
8. นายองอาจอ้างว่าคณะศิษย์ยานุศิษย์วัดพระธรรมกายนับล้านคน คณะสงฆ์และชาวพุทธทั่วโลก ได้จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด องค์กรพุทธนานาชาติจำนวนมากได้ทำหนังสือทักท้วงไปยังนายกรัฐมนตรีขอให้ระงับยับยั้งการใช้ความรุนแรงต่อพระสงฆ์ ชาวพุทธ และวัดในพระพุทธศาสนานั้น ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ เราได้เชิญสื่อมวลชนทุกแขนงมาร่วมเป็นสักขีพยานในการปฏิบัติงานครั้งนี้ และได้เน้นย้ำให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังโดยไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ
และ 9. นายองอาจแถลงว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนหมู่ใหญ่หลายล้านคน โดยเฉพาะเป็นเรื่องความเชื่อศรัทธาทางศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ขอให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแสดงออก อย่าให้มีลักษณะข่มขู่คุกคาม แต่แสดงให้เห็นถึงความเป็นกลาง ยุติธรรมอย่างแท้จริงจนได้รับความเชื่อถือจากประชาชน ปัญหาก็จะสามารถคลี่คลายไปได้ด้วยดีในที่สุดนั้น เราเชื่อว่าสื่อมวลชนทุกแขนงจะเป็นสักขีพยานในการปฏิบัติงานของดีเอสไอในครั้งนี้ โดยได้มอบนโยบายและแนวทางให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกคนทราบว่าจะไม่มีการใช้กำลัง ไม่มีการติดอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมทั้งได้กำชับให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด เพื่อมิให้เกิดความเสียหายใดๆ จากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้โดยให้ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นลำดับแรก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดำเนินคดีต่อนายองอาจ ธรรมนิทา กรณีพูดจายุยงปลุกปั่นมวลชนหรือไม่ พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลหากพบว่าใครกระทำความผิดเข้าข่ายกรณีดังกล่าวจะดำเนินการตามมาตรา 116 ทุกราย
รายงานข่าวแจ้งว่า ดีเอสไอได้ขอยื่นหนังสือต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายค้นวัดพระธรรมกายจำนวน 4 ฉบับ เพื่อเข้าปฏิบัติการตรวจค้นต่อเนื่องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในหมายค้นได้กำหนดวันเข้าตรวจคือทั้งสิ้น 4 วัน คือ วันที่ 13-16 ธ.ค.นี้ แต่ติดปัญหาเรื่องเวลาที่เข้าค้นไม่สอดคล้องกับภารกิจ เนื่องจากมีกำลังคนจำนวนมากที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะดำเนินการเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายอย่างแน่นอนเพื่อปฏิบัติการนำตัวพระธัมมชโยมาส่งตัวฟ้องศาลตามที่อัยการมีคำสั่ง