xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งรัสเซียรูดบัตรเครดิตปลอมพักรีสอร์ตหรูเกาะช้าง 11 วันกว่า 1 แสนบาท ก่อนเผ่นแน่บ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
MGR Online - แก๊งชาวต่างชาติรัสเซียแสบใช้บัตรเครดิตปลอมรูดเข้าพักรีสอร์ตหรูบนเกาะช้าง 11 วัน ความแตกธนาคารแจ้งไม่ใช่เจ้าของบัตร ไหวตัวหลบหนีทัน สูญเกือบ 1 แสนบาท ตร.ออกหมายจับข้อหาฉ้อโกงผู้อื่น ตม.สั่งทุกด่านเฝ้าระวัง วอนผู้ประกอบการใช้ ม.38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยเคร่งครัด ตรวจหลักฐานให้ครบถ้วน

วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.รณรงค์ บัวเย็น รองสารวัตสอบสวน สภ.เกาะช้าง จ.ตราด ว่าเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.มุกดา เจริญประสิทธิ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/3 ม.3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด แจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.มีกลุ่มต่างชาติประเทศรัสเซีย ประกอบด้วย 1. น.ส.วีโรนิกา ซัมโมตินา 2. นายดัมทรีอาร์เกียร์ 3. ดาเรีย เฮติชินา 4. น.ส.ชามนา กรอสติโกวา 5. น.ส.วราดิสราวา ซีมาร์ 6. นายวาเซโวลอด เซมโมวาย ได้เข้ามาพักที่โรงแรมเกาะช้างแกรนด์ออร์คิด รีสอร์ต 7 ห้อง 16 คน โดยนายาเซโวลอด เซมโมวาย เป็นคนใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าห้องพักทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 9-19 พ.ย. 59 และได้เช็กเอาต์ออกไปเป็นจำนวนเงิน 99,000 บาท โดยหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ทางโรงแรมได้รับแจ้งจากธนาคารเจ้าของบัตรว่าเจ้าของบัตรตัวจริงไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว แต่ถูกสวมรอย ทางโรงแรมจึงต้องคืนเงินให้ธนาคารและได้มาร้องทุกข์ต่อตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อกลุ่มชาวต่างชาติดังกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.รณรงค์ บัวเย็น กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการรวบรวามหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว และขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มชาวต่างชาติโดยแจ้งข้อหาฉ้อโกงผู้อื่น คาดว่าไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศตามช่องทางปกติได้ เนื่องจากมีหมายจับติดตัว

ทางด้าน พ.ต.อ.ชูฉัตร ธารีฉัตร รรท.ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.สส.สตม. ควบคุมพื้นที่จังหวัดในภาคตะวันออกทั้งหมด (ภาค 2) กล่าวว่า ในส่วนความรับผิดชอบของตำงชาติและอำนาจหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยว่า ในเคสนี้ผู้ถูกกล่าวหามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยมีการจองที่พักล่วงหน้าและใช้เลขที่บัตรเครดิตของผู้อื่นในการลงทะเบียนจองที่พักเพื่อแสดงว่าจะมีการเข้าพักไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ในบัตร และบัตรมีวงเงินและใช้ได้ตามปกติ แต่อาศัยว่ามีการอนุมัติตามยอดเงินที่ขอเข้าพักล่วงหน้าและเมื่อพักเรียบร้อยแล้วก็ให้เจ้าของบัตรซึ่งน่าจะเป็นพวกกันมาโวยวายแจ้งว่าไม่ได้เป็นคนทำธุรกรรมในการจองที่พักและไม่ได้เข้าพักแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องดูต่อไปว่าเหตุใดจึงเข้าพักได้ ทั้งๆ ที่เจ้าของบัตรไม่ได้มาด้วย และไม่ได้มาแสดงตัวและยืนยันตัวบุคคลเพื่อตรวจสอบในการทำธุรกรรมเข้าจองที่พัก ซึ่งเป็นวิธีการรูปเเบบใหม่ของแก๊งนี้ ต่อไปทางผู้ประกอบการจะต้องขอตรวจสอบตัวบุคคลและบัตรโดยละเอียด และมีการโทร.ไปสอบถามเจ้าของบัตรทุกตรั้งที่มีความสงสัยหรือการจองมีมูลค่าสูงๆ ผิดปกติ หรือใช้ระบบ SMS ในการแจ้งเตือน หากไม่สามารถติดต่อเจ้าของบัตรได้กรณีเป็นชาวต่างชาติหรือไม่มีโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใดๆ ติดต่อได้ก็ไม่ควรรับเข้าพักโดยการจองผ่านบัตรเครดิต อาจสร้างความเสียหายในการเรียกเก็บเงินไม่ได้

โดยหากประชาชนท่านใดพบการกระทำของแก๊งต่างชาติที่เข้ามากระทำความผิดหรือมีเบาะแสแจ้งการกระทำความผิดของคนต่างชาติหรือต่างด้าว สามารถแจ้งเบาะแสการเข้าตรวจสอบและจับกุมได้ที่สายด่วน สตม.1178 หรือที่ทำกการ ตม.จว.ที่รับผิดชอบนั้นๆ ได้ทันที หรือเข้าเว็บไซต์ชื่อ “สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” แจ้งเบาะแสการกระทำความผิด ทั้งนี้เป็นไปตามการสั่งการของ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภาคภูมิ สัจจพันธ์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วิทยา เนียมน้อย รอง ผบช.สตม.ที่ให้เข้มววดกวดขันการเข้ามากระทำความผิดของคนต่างชาติในรูปแบบกลุ่มแก๊งต่างๆ รวมถึงการกระทำความผิดคนเดียวทุกรูปแบบซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยและคนไทย ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทย ตามนโยบายของ ผบช.สตม. คือ “คนดีอยู่ง่าย คนร้ายอยู่ยาก”

เบื้องต้นทาง ตม.จะตรวจสอบกับทางโรงแรมให้แจ้งที่พักตาม ม.38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดยเคร่งครัด หากพบตัวที่ใดหรือไปเข้าพักที่ใดต่อจะได้แจ้งให้ ตม. หรือร้อยเวรเจ้าของคดีนำตัวไปสอบปากคำ หรือกรณีออกหมายจับเมื่อไหร่จะได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น