xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ปรับระเบียบองค์การเอกชน หวังช่วยสอบเลือกตั้ง ไม่รอศาล ปค.ลุยหาเลขาฯใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (แฟ้มภาพ)
รองเลขาฯ กกต. เผย กกต. ปรับปรุงระเบียบองค์การเอกชน หวังให้เข้าช่วยตรวจสอบเลือกตั้งได้ง่าย ตั้งเป้า 1 จว. ต้องมีหนึ่งองค์กร พร้อมไฟเขียวเดินหน้าสรรหาเลขาฯคนใหม่ หลังศาล ปค. ยังนิ่งไม่มีคำสั่งกรณีผู้สมัครฟ้องถูกตัดสิทธิ์

วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ กกต. ว่า ที่ประชุม กกต. ได้พิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยองค์การเอกชน พ.ศ. ... เพื่อเป็นการสนับสนุน และขยายเครือข่ายองค์การเอกชน รวมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานขององค์การเอกชนให้เข้ามาเป็นกลไกช่วยเหลือตรวจสอบการเลือกตั้งเมื่อมีการเลือกตั้งทุกระดับ โดยที่ประชุม กกต. มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงแก้ไขระเบียบดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญ คือ 1. ความง่าย ทั้งในเรื่องการจดทะเบียนองค์การเอกชนที่ง่ายขึ้น มีการลดจำนวนสมาชิกจากเดิมต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 50 คน ให้เหลือไม่น้อยกว่า 15 คน และในการรับรององค์การเอกชนนั้น กกต. สามารถมอบอำนาจให้ เลขาธิการ กกต. หรือรองเลขาธิการ กกต. ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน และอนุกรรมการไม่เกิน 6 คน มีอำนาจรับรองแทน กกต. ได้รวมทั้งมีการขยายอายุการรับรององค์การเอกชน ให้มีอายุครั้งละ 5 ปี 2. การทำงานยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งการเสนอโครงการขอตรวจสอบการเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งได้ จากเดิมต้องเสนอเมื่อมี พ.ร.ฎ. ให้มีการเลือกตั้งแล้ว รวมทั้งการรับรองบัญชีโครงการโดยไม่ต้องจัดให้มีการรับรองบัญชีจากผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตเป็นโครงการวงเงินไม่เกิน 2 แสนบาท

3. กลไกการทำงานมีประสิทธิภาพ โดยให้องค์การเอกชนที่มีขนาดเล็กสามารถเสนอโครงการตรวจสอบเฉพาะบางพื้นที่ได้ ตามความเหมาะสม และ 4. อาสาสมัครองค์การเอกชนมีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์ความคุ้มครองหากอาสาสมัคร ประสบอุบัติเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรองรับต่อไป อย่างไรก็ตาม กกต. มีเป้าหมายว่าหลังจากมีระเบียบดังกล่าว จะมีองค์การเอกชนตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างน้อยจังหวัดละ 1 องค์การ และมีอาสาสมัครตรวจสอบการเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด โดยจะสามารถเข้าไปนั่งในหน่วยเลือกตั้งเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. คนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาอยู่ในชั้นของคณะกรรมการการสรรหาที่ต้องเสนอเข้ามาให้ กกต. พิจารณา ส่วนสาเหตุที่ดำเนินการไปได้ช้านั้น อยู่ที่ประเด็นคุณสมบัติของผู้สมัครที่มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ทำให้มีการชะลอกระบวนการสรรหาไปก่อน เพราะเกรงว่าศาลปกครองจะสั่งยกเลิกกระบวนการสรรหา แต่ขณะนี้เห็นว่าเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว ทางคณะกรรมการสรรหา จึงส่งเรื่องเข้ามาให้ กกต. พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนตามประกาศ เพราะศาลปกครองยังไม่มีการสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่ง กกต. มีมติให้คณะกรรมการสรรหาดำเนินการสรรหาตามประกาศต่อไป โดยจะเหลือขั้นตอนการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร ก่อนที่คณะกรรมการสรรหาจะคัดเลือกและเสนอชื่อคนที่ได้คะแนนเกิน 70 คะแนน ให้ กกต. พิจารณาต่อไป ส่วนจะมีการแสดงวิสัยทัศน์วันไหนนั้นคณะกรรมการสรรหาจะต้องเป็นผู้พิจารณา


กำลังโหลดความคิดเห็น