xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” ค้านเซตซีโร่ กกต. ท้า กรธ.กล้าประกาศไหม โละองค์กรอิสระทุกชุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมชัย ศรีสุทธิยากร
“สมชัย” ไม่เห็นด้วย กรธ.เล็งเซตซีโร่ กกต. ระบุได้น้องใหม่ไม่ทันฝ่ายการเมือง บอกถ้ามองคุณสมบัติไม่เข้าร่าง รธน.ต้องโละทุกองค์กรอิสระ เตือนอย่าลักไก่เลือก 2 กกต.ใหม่จากสายศาลฎีกา เพราะโควตาเต็มแล้ว ขณะที่การประชุม กกต.รื้อร่าง พ.ร.ป.กกต. ให้คง กกต.จังหวัด 5 คน แต่ลดอำนาจวินิจฉัยสำนวน เลิกเงินเดือน ส่วนปมจริยธรรม “ธีรวัฒน์” ประธานฯ ส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.ป ว่าด้วย กกต. ตามที่คณะทำงานเสนอ แต่ได้ให้มีการปรับแก้ คาดว่าร่างฉบับแก้ไขจะแล้วเสร็จในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.นี้ และประธาน กกต.จะลงนามส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่ง กกต.ทั้งคณะขอนัด กรธ.ที่จะหารือร่างดังกล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย.นี้ เบื้องต้นนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวน และนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านมีส่วนร่วม แจ้งที่ประชุมว่าพร้อมเดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง

ทั้งนี้ ในการพิจารณาเบื้องต้นของ กกต.ได้เห็นชอบในหลัก 4 ป.ของร่าง พ.ร.ป.กกต. คือ 1. ประสิทธิผล 2. ประสิทธิภาพ 3. ประหยัด และ 4. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีกลไกที่จะทำให้การทำงานสำเร็จได้ 3 ส่วน คือ กกต.กลาง ให้ยึดตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 273 ที่บัญญัติให้ กกต.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนครบวาระ ส่วนการสรรหา กกต.ใหม่ 2 คน ตามร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 222 เพื่อให้ กกต.มีองค์ประกอบครบ 7 คน ตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดนั้น ต้องมาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหา เนื่องจากขณะนี้สัดส่วนของกกต.ปัจจุบัน มาจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว 3 คน จะมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่ได้ เพราะ 2 คนจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดนั้น เป็นสัดส่วนที่ครบแล้วใน กกต.ชุดปัจจุบัน จึงถือว่าโควต้าจากศาลฎีกาเต็มแล้ว

ส่วนข้อเสนอจาก กรธ.ที่อาจจะให้มีการสรรหา กกต.ใหม่ทั้งหมด 7 คน อยากให้มีการไตร่ตรองให้ดี เพราะการสรรหาใหม่ไม่ทำให้เกิดผลดี เนื่องจากกระบวนการสรรหาต้องใช้เวลา 2 เดือน โดยหลัง พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ จะต้องมีการสรรหา ส.ว.ภายใน 5 เดือน ถ้าให้มีการสรรหาใหม่หมด กกต.ชุดใหม่ก็จะมีเวลาเตรียมงาน 2-3 เดือนซึ่งไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง เพราะ กกต.มือใหม่ ก็จะไม่ทันกับฝ่ายการเมือง หรือถ้าจะอ้างว่าคุณสมบัติของ กกต.ชุดเก่าแตกต่างกับร่างรัฐธรรมนูญกำหนด หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ด้วย เพราะใช้หลักคุณสมบัติในข้อเดียวกัน

“อยากถามกลับ กรธ.ว่า กล้าพูดดังๆ ไหมว่าจะเซตซีโร่องค์กรอิสระเหล่านี้ด้วย ที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญต้องการให้วาระ กกต.หมดพร้อมกัน การเหลื่อมการพ้นวาระเป็นผลดีมากกว่าที่จะออกแบบให้หมดวาระพร้อมกัน เพราะจะทำให้เหลือคนที่รู้งานมีประสบการณ์เอามาส่งต่อให้กับ กกต.ที่มาใหม่ รูปแบบเดิมที่กำหนดให้ กกต.ซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนคนเก่าที่หมดวาระ โดยให้วาระการดำรงตำแหน่งเหลือเท่าวาระ กกต.ที่มีอยู่ ไม่จูงใจให้คนมาเป็นกรรมการองค์กรอิสระ”

นายสมชัยกล่าวว่า ส่วน กกต.จังหวัดยังคงยืนยันให้มี 5 คน และแม้กฎหมายนี้บังคับใช้แล้วก็จะไม่มีการโละทิ้ง กกต.จังหวัดเดิม แต่จะสรรหาใหม่ใน 14 จังหวัดที่ครบวาระ และมีการเปลี่ยนอำนาจหน้าที่ เช่น ไม่ต้องมีการพิจารณาสำนวนคดีเลือกตั้ง โดยส่งตรงให้ กกต.กลางพิจารณาเลย และเปลี่ยนจากให้เงินเดือนมาเป็นการจ่ายเบี้ยประชุม ทำให้ลดงบประมาณ 3- 4 เท่า ซึ่งจะกำหนดประชุม 2 ครั้งต่อเดือน นอกจากนี้จะมีการเสนอให้มีร่าง พ.ร.บ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยจะทำคู่ขนานกับการเสนอร่าง พ.ร.ป.กกต.

นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดอำนาจสืบสวนสอบสวนเพื่อทำให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น ลดขั้นตอนการพิจารณาใบเหลือง ใบแดงระดับจังหวัด โดยให้สำนวนส่งตรงถึงส่วนกลางซึ่งมีการกำหนดเกณฑ์พิจารณาใบเหลืองและใบส้มต้องเสร็จก่อนประกาศผล และสำหรับใบแดงหลังการประกาศผลต้องแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนหลังเลือกตั้ง และกำหนดโทษข้าราชการที่ไม่ให้ความร่วมมือกับ กกต.จนส่งผลให้การเลือกตั้งเสียหาย มีโทษผิดทางอาญาทันที ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดภาพการไม่ให้ใช้สถานที่ของหน่วยราชการ สำหรับการป้องปราบการทุจริต มีการจัดตั้งกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยให้รัฐสนับสนุนงบประมาณและประชาชนบริจาคเงิน เพื่อเป็นเงินรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส และช่วยเหลือผู้แจ้งเบาะแส กรณีถูกฟ้องกลับ มีกลไกการคุ้มครองปกป้องพยาน กลไกลให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน มีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ปากคำได้

นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งหนังสือให้กกต.ตรวจสอบพฤติกรรมขัดจริยธรรมของนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ว่าที่ประชุมวันนี้ประธาน กกต.ได้แจ้งว่าได้รับเอกสารของผู้ตรวจฯแล้ว และได้ส่งเอกสารให้กับสำนักกฎหมายของสำนักงาน กกต.ไปดูในรายละเอียดว่าประเด็นที่ร้องเข้ามาเป็นอย่างไร มีข้อเท็จจริงที่จะตรวจสอบอย่างไร และมีประเด็นทางข้อกฎหมายที่จะต้องดำเนินการอย่างไร คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการพิจารณา ก่อนส่งกลับมายังประธาน กกต. เพื่อเสนอเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณาอีกครั้ง โดยการพิจารณาของ กกต.ในเวลานั้นจะไม่มีนายธีรวัฒน์ร่วมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ใช่ กกต.ไม่เร่งรีบในการพิจารณา แต่อยากให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เป็นไปตามกฎหมาย และไม่มีการปกป้องใคร ทุกอย่างว่าไปตามข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้อยากให้งานเฉพาะหน้าคือการออกกฎหมายลูกให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพราะนายธีรวัฒน์ก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวข้อกฎหมายค่อนข้างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น