ปปง.แถลงยึดทรัพย์ 3 คดีสำคัญ ยึดเงินในบัญชีพร้อมที่ดิน 200 แปลง มูลค่ากว่า 7 พันล้าน “สยามอินดิก้า” และ “ก๊วนเสี่ยเปี๋ยง” เอี่ยวทุจริตขายข้าวจีทูจีสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยึดทรัพย์เครือข่ายบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญจากจีนกว่า 13,000 ล้าน และยึดเงินในบัญชีแก๊งพนันออนไลน์อีก 25 ล้าน
วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง. นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย สำนักงาน ปปง. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมแถลงข่าวคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งหมด 3 คดี
คดีแรกเป็นคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามที่คคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายบุญทรง กับพวกรวม 21 คน กระทำความผิดด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำงานโดยช่วยเหลือมุ่งหมาย และเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทและไม่ต้องแข่งขันราคากับผู้เสนอรายอื่น แล้วนำข้าวที่ซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายในประเทศ หรือต่ำกว่าราคาที่รับจำนำ นำไปขายต่อให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมการค้าต่างประเทศ และประเทศชาติ คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
จากการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบธุรกรรมการทางการเงินดังกล่าวพบว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ทุจริตโดยการปลอมสัญญาให้ดูเสมือนมีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐจริง รวมถึงการตรวจพบการได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดกับการทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า, บริษัท สิราลัย (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา) และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายอภิชาติ จันทร์ สกุลพร (เสี่ยเปี๋ยง) โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มบริษัทและบุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวน 51 บัญชี มูลค่าประมาณ 921 ล้านบาท และที่ดินใน กทม. ลำพูน ภูเก็ต พังงา พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง จำนวน 611 รายการ มูลค่าประมาณ 5,970 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 662 รายการ มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท
พล.ต.อ.ชัยยะกล่าวต่อว่า ส่วนคดีที่ 2 สำนักงาน ปปง.บูรณาการร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กรมการพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการขนส่งทางบก และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมดำเนินการเข้าตรวจค้นบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด เป็นบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศไทยต่ำกว่าทุน หรือบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ ที่มีนางถวัล แจ่มโชคชัย และนายสมเกียรติ คงเจริญ (ชาวจีนที่ลักลอบสวมบัตรประชาชนของนายสมเกียรติ คงเจริญ คนไทยซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา) เป็นกรรมการผู้จัดการและมีหุ้นอยู่ในบริษัทฝูอัน
“จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวใช้บริการรถบัสโดยสารของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด มี นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี, นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี กับพวก เป็นประธานกรรมการและกรรมการ โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารถบัสโดยสาร แต่มีข้อตกลงและเงื่อนไขจะต้องพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าตามร้านหรือสถานที่ตามที่บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด กำหนดไว้ 4 แห่ง คือ 1. บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 2. บริษัทรอยัล พาราไดซ์ จำกัด 3. บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด 4.บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด รวมถึง มัคคุเทศก์ใช้วิธีบังคับ ล่อลวง ขู่เข็ญนักท่องเที่ยว ให้ซื้อสินค้าในราคาสูงเกินจริง โดยบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด จ่ายเงินค่าตอบแทนจำนวน 20-30 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายที่นักท่องเที่ยวซื้อสินค้า และหากไม่เป็นไปตามข้อตกลง บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และบริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด จะต้องถูกปรับค่าเสียหาย” พล.ต.อ.ชัยยะกล่าว
พล.ต.อ.ชัยยะกล่าวอีกว่า โดยที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 เงินฝากในบัญชีธนาคารของผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท ฝูอัน รวม 25 รายการ รวมกว่า 28 ล้านบาท ครั้งที่ 2 เงินฝากในบัญชีธนาคารของผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท ฝูอัน สลากออมสิน รวม 2 รายการ รวม 3.1 ล้านบาท และครั้งที่ 3 เงินฝากในบัญชีธนาคารของผู้เกี่ยวข้องกับบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต รวม 2,247 รายการ แบ่งเป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร 92 บัญชี เป็นเงิน 4,200 ล้านบาท และรถบัสโดยสารจำนวน 2,155 คัน มูลค่า 9,000 ล้านบาท รวมทรัพย์สินทั้งหมด 2,274 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 13,000 ล้านบาท
คดีสุดท้าย คดีลักลอบเล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (การพนันออนไลน์) รายใหญ่สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และรัฐบาล มีนโยบายด้านการปราบปรามการพนันเพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคมและประเทศชาติ มีคำสั่งและประกาศให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และให้เพิ่มมาตรการกำกับดูแลไม่ให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะบ่อนการพนัน ตู้ม้า หวยใต้ดิน การพนันฟุตบอล การพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นสาเหตุสร้างปัญหารุนแรงเรื้อรังในสังคมไทยมานาน
สำนักงาน ปปง.ได้รับการประสานงานจากกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 6 และ สน.ตลิ่งชัน พร้อมทั้งได้รับการเรียนร้องว่ามีการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอล และบาคาร่าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จึงได้ทำการสืบสวนธุรกรรมเส้นทางการเงินผู้ที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีเว็บไซต์ที่เปิดลักลอบให้เล่นการพนันดังกล่าว จำนวน 5 เว็บไซต์ คือ 1. http://fifaclub24.com 2. http://gclubslot.com 3. http://sbobettrue.com 4. http://www1.sbothai8.com 5. http://www.sbo777.com จากผลการตรวจสอบดังกล่าว พบว่ามีบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวน 98 บัญชี จึงได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวไว้ เป็นเงินรวมประมาณ 25 ล้านบาท และจะได้ขยายผลการตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดของผู้เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ยังตรวจพบว่ามีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกฎหมายอาญาฟอกเงินอีกกว่า 10 คน ซึ่งจะได้มอบหมายให้ไปกล่าวโทษดำเนินคดีต่อไป
ในวันนี้สำนักงาน ปปง.ได้ลงพื้นที่เข้าทำการตรวจค้นสมาร์ทคอนโด ห้องเลขที่ 12/222 และห้องเลขที่ 12/98 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พบทรัพย์สินเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 10 เครื่อง และจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบเปิดให้มีการเล่นการพนันจำนวน 8 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และปัจจุบันสำนักงาน ปปง.ยังตรวจพบเว็บไซต์ที่ลักลอบเปิดให้เล่นการพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (การพนันออนไลน์) อีกกว่า 100 เว็บไซต์ ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบธุรกรรม ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป