xs
xsm
sm
md
lg

ยกฟ้อง “ศักดาพินิจ” อดีตรอง กก.ผจก.ธอส. พร้อมพวกคดีเปลี่ยนสินเชื่อโครงการเงินกู้ ชี้เป็นไปตามระเบียบ(มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลพิพากษายกฟ้อง “ศักดาพินิจ” อดีตผู้ช่วยและรอง กก.ผจก.ธอส.กับพวก คดีเปลี่ยนสินเชื่อโครงการเงินกู้ส่งผลให้ ธอส.เสียหายกว่า 218 ล้านบาท พยานเบิกความสอดคลองเป็นไปตามระเบียบ ด้านอธิบบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีความเห็นแย้งในคดีเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อัยการจ่อยื่นอุทธรณ์



วันนี้ (8 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.1342/2555 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ฟ้องนายโอฬาร เกตุพันธุ์, นายปิยะรัตน์ อุศุภรัตน์, นายปัญญา สุดใจ พนักงาน ธนาคาร ธอส. และนายศักดา หรือศักดาพินิจ ณรงค์ชาติโสภณ อดีตผู้ช่วยกรรมการและรองกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมกันเป็นจำเลย 1-4 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11

กรณีเมื่อระหว่างเดือน พ.ค. ธ.ค. 2540 นายศักดาณรงค์ได้สั่งการให้จำเลยอื่นๆ ไปตรวจสอบโครงการก่อสร้างของนายจุนเกียรติ หรือจิรพัฒน์ เบ้าสุวรรณ แต่ราคาประเมินที่ดินในโครงการมีราคาประเมินมีหลักประกันต่ำ นายศักดาจึงเปลี่ยนสินเชื่อเป็นโครงการแหล่งเงินกู้ระยะยาวซึ่งไม่ต้องใช้ราคาประเมิน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตนเองกับพวก ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้เห็นชอบรับเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาวทั้งที่จำเลยทั้งสาม ทราบความผิดปกติของโครงการ ทำให้ ธอส.ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 218,916,621 บาท เหตุเกิดที่แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.และที่อื่นเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามความผิดด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์มีพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ต่างเบิกความสอดคล้องกันว่าการปล่อยสินเชื่อของจำเลยที่ 1-4 เป็นไปตามระเบียบของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และพวกจำเลยก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว จากพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่เพียงพอว่าจำเลยที่ 1-4 ร่วมกันกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

อย่างไรก็ตาม อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตรวจสำนวนแล้วได้มีความเห็นแย้งไว้ในคดีว่าการกระทำของจำเลยทั้งหมดเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เห็นควรให้จำคุกนายศักดาพินิจ จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 1, 2 และ 3 ให้จำคุกคนละ 3 ปี

ภายหลังนายศักดาพินิจเปิดเผยว่า คดีนี้มีปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งภายในองค์กรซึ่งตนถูกกลั่นแกล้งเพื่อลดความน่าเชื่อถือขณะลงแข่งขันเป็นประธานกรรมการ ธอส. โดยมีการฟ้องร้องตนเป็นจำเลยถึง 10 คดี ตนอดทนต่อสู้นานถึง 20 ปีจนศาลพิพากษายกฟ้อง โดยคำพิพากษาทุกศาลแม้จะปรากฏว่ามีการทุจริตในระดับเจ้าหน้าที่ แต่เห็นว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าได้อนุมัติสินเชื่อตามที่ผู้บังคับบัญชาได้อนุมัติไว้ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ และไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มาเป็นพยานเบิกความว่าตนได้รับประโยชน์จากการอนุมัติสินเชื่อครั้งนี้

เมื่อถามว่า คดีนี้อธิบดีศาลอาญาได้ทำความเห็นแย้งว่าจำเลยทั้งสี่กระทำความผิดจะเป็นประเด็นที่อัยการจะนำมายื่นอุทธรณ์หรือไม่ นายศักดาพินิจกล่าวว่า อำนาจพิจารณาคดีเป็นของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน แม้อธิบดีศาลอาญาสามารถทำความเห็นแย้งได้ แต่ก็ไม่มีผลต่อคำพิพากษา จึงไม่กังวลว่าอัยการจะอุทธรณ์คดีหรือไม่








กำลังโหลดความคิดเห็น