“ศุภชัย” เมินถก กรธ.ปมบิดเบือนรัฐธรรมนูญ ไม่มีหนังสือเชิญ “สมชัย” ออกหน้าเอง

ประธาน กกต.ระบุทางการข่าวยังไม่พบเหตุการณ์ไม่ปกติในห้วงประชามติ กำชับทุกจังหวัดเร่งติดป้ายประชาสัมพันธ์ ส่วน กรธ.จะหารือกับ กกต.คงไม่ไปเพราะไม่มีหนังสือทางการ แถมยังไม่ได้ส่งเรื่องปัญหาเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ ย้ำเป็นโจทก์ร่วมฟ้องไม่ได้ พบประสานกับเลขาฯ หน้าห้อง “สมชัย” ไม่มีส่งหนังสือเชิญ เจ้าตัวออกหน้าเอง

วันนี้ (12 ก.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการออกเสียงประชามติครั้งที่ 1 ร่วมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า หน่วยงานของรัฐและเอกชนยืนยันให้การสนับสนุนการออกเสียงประชามติอย่างเต็มที่ ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติก็ได้รายงานว่า ในทางการข่าวยังไม่พบว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น ไม่พบความพยายามสร้างกระแสในโซเชียลมีเดีย หรือในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีการป่วนประชามติ ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาก็แสดงออกปกติ ทุกอย่างคาดว่าจะเรียบร้อยดี ทำให้มั่นใจว่าการออกเสียงประชามติจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ขณะที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้จัดพิมพ์เอกสารร่างรัฐธรรมนูญ 2 ภาษา เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติของ กกต.ค่อนข้างน้อย กกต.ก็ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งติดป้ายประชาสัมพันธ์ ไม่ได้อยู่นิ่ง การตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 80 ก็เพื่อกดดันตัวเองให้ไปถึงเป้าหมายเพื่อให้มีการใช้สิทธิคุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไป

นายศุภชัยยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุว่าจะมีการหารือกับ กกต.เกี่ยวกับมีการบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 14 ก.ค.ว่า คงไม่ไป เพราะไม่มีหนังสือมาเป็นทางการ แล้วตนจะไปได้อย่างไร ตนเป็นประธานองค์กรอิสระ ต้องมีเกียรติ และยังไม่ทราบเชิญไปที่ไหน อย่างไร จู่ๆ จะเดินเข้าไปได้อย่างไร หน้าที่เราคือรณรงค์การทำประชามติ สำหรับปัญหาเอกสารความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าเขียนผิดจากร่างรัฐธรรมนูญถือเป็นการบิดเบือน แต่ถ้าคำว่าความเห็นแย้งนั้นส่วนตัวจากประสบการณ์ที่เป็นผู้พิพากษามาความเห็นแย้ง คือมีศาลมีคำพิพากษาแล้วผู้พิพากษาในองค์คณะไม่เห็นด้วยก็จะมีความเห็นแย้ง กรณีความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ ก็คือเขาไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการแสดงความเห็น แต่ต้องไม่มีการบิดเบือน โน้มน้าวจิตใจใคร

“ถ้า กรธ.บอกว่าบิดเบือนก็ส่งมาให้ กกต. ก็จะดำเนินการให้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการส่งมา เราต้องมาดูข้อเท็จจริงว่า ขัดมาตรา 61 วรรคสองของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2559 หรือไม่ จากนั้นก็จะส่งให้พนักงานสอบสวนต่อไป ส่วนที่ กรธ.อยากให้ กกต.เป็นโจทก์ร่วมคงไม่ได้ เพราะ กกต.จะฟ้องเองก็ไม่ได้ ซึ่งกรณีเป็นอาญาแผ่นดินถ้าใครเห็นว่ามีความผิดเกิดขึ้นก็ไปดำเนินการได้เลย กกต. เองก็ต้องให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ เรากับ กรธ.ยังไม่มีความเห็นอะไรที่ไม่ตรงกัน” นายศุภชัยกล่าว

เมื่อถามว่า หาก กกต.ไม่ดำเนินการจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ตอนนี้งานของ กกต. แต่ละท่านมีงานเยอะ ถ้าเรื่องเข้ามาค่อยคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราว จู่ๆ จะหยิบมาวินิจฉัยเองคงไม่ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีที่ กรธ.จะหารือกับ กกต.นั้น ไม่ได้มีการส่งหนังสือเชิญมาอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการประสานผ่านฝ่ายเลขานุการของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง โดยนายศุภชัยเห็นว่าถ้าจะมีการเชิญเป็นทางการควรจะทำหนังสือเชิญมา นายสมชัยจึงขอเป็นตัวแทนในการหารือดังกล่าว