MGR Online - ผบ.ตร.ย้ำทำคดีเสียชีวิต “ธวัชชัย” อดีต พนง.ที่ดินพังงา ตามกฎหมาย ไม่หนักใจสอบ จนท.ดีเอสไอ ส่วนกรณีเหตุระเบิดหน้าโรงเรียนตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับมีกลุ่มต้องสงสัยขอเวลาตรวจสอบ ขณะที่เหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้หวังผลทางการเมืองหรือไม่นั้นยังไม่ตัดประเด็นทิ้ง เผยประสานมาเลเซียล่าตัวคนร้ายแล้ว
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บกว่า 10 ราย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นได้รับรายงานเหตุดังกล่าวแล้วซึ่งก็พอคาดเดาได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนสักระยะ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นที่พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้จะต้องดูความเชื่อมโยงกันทั้งลักษณะการก่อเหตุ การประกอบระเบิด และองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ส่วนในเดือนหน้าจะเป็นวันครบรอบวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม ผบ.ตร.เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้มีการเน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยทุกช่วงวันสำคัญอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุใน 3 จังหวัดภาคใต้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า หาก พล.อ.ประวิตรพูดอย่างนั้นก็เป็นไปตามนั้น ส่วนผู้ก่อเหตุหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวน ยืนยันตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องความเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองภาคใต้ และกลุ่มการเมืองที่มีเครือข่ายในต่างประเทศทิ้ง
ส่วนการประสานงานกับตำรวจมาเลเซียเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ในกรณีที่คนร้ายหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย พล.ต.อ.จักรทิพย์ระบุว่า ได้มีการประสานงานกันตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนสถานที่ซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ ตำรวจมีข้อมูลแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงคดีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงใน จ.ภูเก็ต และพังงา ที่เสียชีวิตในห้องคุมขังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการที่ญาติติดใจการเสียชีวิตนั้นตำรวจมีขั้นตอนในการตรวจสอบซึ่งทางนิติเวชได้ผ่าพิสูจน์ศพไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในเมื่อญาติผู้เสียชีวิตต้องการให้มีการผ่าพิสูจน์ศพซ้ำอีกครั้ง ตำรวจก็มีหน้าที่ทำให้กระจ่าง ส่วนกรณีที่กระทรวงยุติธรรมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ และไม่หนักใจว่าการสอบสวนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะทำให้เกิดปัญหากันระหว่างหน่วยงาน เพราะตำรวจดำเนินการไปตามพยานและหลักฐาน ตำรวจไม่มีส่วนได้เสียต่อกรณีดังกล่าวอยู่แล้ว
