MGR Online - รอง ผบ.ตร. แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงการออกเสียงประชามติ ช่วงวันที่ 11 ก.ค.- 10 ส.ค. จับกุมผู้ต้องหาในความผิดคดีต่าง ๆ กว่า 3,000 ราย พร้อมจับชาวอิหร่านร่วมลักทรัพย์
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงการออกเสียงประชามติ สรุปผลการระดมตั้งแต่ 11 กรกฎาคม - 10 สิงหาคม 2559 สามารถจับกุมผู้ต้องหารวมทุกคดี 3,440 คน ผู้ต้องหาอาวุธปืนจำนวน 125 คน ผู้ต้องหายาเสพติด จำนวน 2,329 คน ผู้ต้องหาค้ามนุษย์ จำนวน 49 คน พ.ร.บ. ออกเสียงประชามติจำนวน 3 คน อาวุธปืนจำนวน 123 กระบอก กระสุนจำนวน 1,200 นัด วัตถุระเบิดจำนวน 1 ลูก อาวุธสงคราม จำนวน 2 กระบอก
นอกจากนี้ ยังมีคดีที่น่าสนใจ โดยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 00.00 น. พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิศิษฐ์ สังขนันท์ รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี และ ร.ต.อ.เพิ่มสกุล. นิลขำ รอง สว.สส.สน.ลุมพินี ร่วมกันจับกุม นายอาลี วาฟาอี (Mr.ALI VAFAEI) อายุ 42 ปี ชาวอิหร่าน ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.528/2559 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2559 และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยจับกุมได้บริเวณชั้นดาดฟ้า ญาดา คอนโด แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ นายอาลี วาฟาอี พักอาศัยอยู่ที่ ญาดา คอนโด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวได้ จากนั้นได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องหา ปรากฏว่า ได้รับอนุญาตให้เข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรไทย แต่เป็นการอยู่เกินกำหนด เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่า นายอาลี วาฟาอี ผู้ต้องหา มีพฤติการณ์หลอกลวงชาวต่างชาติ โดยจะเลือกผู้เสียหายที่เป็นชาวต่างชาติ จากนั้นจะทำการยื่นบัตร ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสากล ก่อนที่จะขอเข้าตรวจค้นผู้เสียหาย และเมื่อตรวจค้นผู้เสียหายแล้วพบธนบัตรดอลลาร์จำนวนหนึ่ง นายอาลี วาฟาอี จะอ้างว่าธนบัตรดังกล่าวนั้นเป็นธนบัตรปลอม และทำการตรวจยึดก่อนจะหลบหนีไป กระทั่งมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเคยกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนหลายครั้ง