นครพนม - รวบสาวใหญ่ขณะรอซื้อยาบ้าจากเครือข่ายชาวลาว พร้อมยึดของกลางเป็นแบงก์ปลอม 1.5 แสนบาท ขยายผลตามจับเพิ่มเพื่อนร่วมแก๊งที่เป็นเจ้าของเงินปลอม เผยเลียนแบบได้เหมือนมาก เร่งสืบต่อหาแหล่งผลิต
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (13 พ.ค.) นายมนตรี จารุธำรงค์ ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดน ที่ 1 นครพนม ประสานงานร่วมกับ นายทวีศักดิ์ คำบรรจง ปลัดอำเภองานป้องกัน นายวุฒิไกร สีสัน ปลัดอำเภองานป้องกัน ร่วมกับ นายปารถนา ไชยศล อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาหนองบก ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กำลังอาสารักษาดินแดน และผู้นำชุมชนท้องถิ่นระดมกำลังเข้าวางแผนจับกุม น.ส.วิลัยพร ฟองแก้ว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 5 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมของกลางเป็นธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท รวม 1.5 แสนบาท
ทั้งนี้ จับกุมได้ภายหลังสืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องต่อยาเสพติด จึงติดตามแกะรอยจนกระทั่งสามารถจับกุมได้ ขณะผู้ต้องหาเดินทางไปรอติดต่อซื้อยาบ้าจากชาวลาว บริเวณสถานีสูบน้ำ บ้านาหนองบก หมู่ 4 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบจับกุมได้พร้อมเงินธนบัตรปลอม จำนวน 1.5 แสนบาท ควบคุมตัวมาสอบสวน
เบื้องต้น สารภาพว่าปกติมีอาชีพขายเนื้อหมูในตลาดสด แต่ไม่มีเงินไม่มีรายได้หลังเลิกกับสามีมาหลายปี แต่ไม่มีบุตร จึงหันมารับจ้างส่งยาบ้าแทน ได้เงินครั้งละ 4,000-5,000 บาท จนมีการทดลองเสพ และติดยาบ้า จึงต้องตกเป็นทาสยาบ้า และรับจ้างส่งยาเพื่อหาเงินซื้อเสพ
ส่วนธนบัตรปลอมมีเพื่อนร่วมแก๊งนำมาให้เพื่อไปติดต่อซื้อยาบ้าจากชาวลาว จำนวนประมาณ 6,000 เม็ด เป็นเงินประมาณ 3.5 แสนบาท แต่จ่ายก่อนครึ่งหนึ่งคือ 1.5 แสน และมาถูกจับกุมได้
ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลตามคำให้การของ น.ส.วิลัยพร ผู้ต้องหา พร้อมเข้าตรวจค้นจับกุม นายสุราช ไกยะฝ่าย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/2 หมู่ 2 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ที่ระบุว่า เป็นเจ้าของเงิน และยังเป็นแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติรายสำคัญที่มีพฤติกรรมรับจ้างติดต่อซื้อยาบ้าจากชาวลาวมาส่งให้เอเยนต์ฝั่งไทย
นายสุราช ไกยะฝ่าย อายุ 34 ปี สารภาพว่า ธนบัตรปลอม จำนวน 1.5 แสนบาท เป็นคนนำไปให้ น.ส.วิลัยพร เพื่อนำไปติดต่อซื้อยาบ้าจากชาวลาว โดยใช้วิธีนำแบงค์ปลอมไปหลอกซื้อเพื่อรับค่าจ้างเป็นเงินแ ละยาบ้าไปเสพ โดยมีนายทุนในพื้นที่เป็นคนว่าจ้าง แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลชัดเจน อีกทั้งยังอ้างทำงานเป็นสายตำรวจในการเอาธนบัตรปลอมไปล่อซื้อ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ
ทั้งนี้ คาดว่าจะเป็นขบวนการค้ายาบ้ารูปแบบใหม่ที่จะใช้ธนบัตรปลอมไปหลอกซื้อจากชาวลาว เพื่อนำยาบ้ามาขาย ที่จะต้องเร่งสืบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี พร้อมขยายผลไปหาที่มาแหล่งผลิตธนบัตรปลอม ป้องกันการแพร่ระบาดนำมาใช้จ่ายส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจการค้า
ส่วนการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ธนบัตรปลอม จำนวน 1.5 แสนบาท ทำมาจากกระดาษถ่ายเอกสารสีที่มีลักษณะคล้ายจริงมาก เป็นธนบัตรชนิดใบละ 1,000 บาท จำนวน 150 ใบ แต่มีจุดสังเกต คือ แถบสีเงิน รวมถึงตัวเลขรหัสแต่ละฉบับจะเหมือนกันทุกใบ เนื่องจากมาจากการถ่ายเอกสารสี ซึ่งหากไม่สังเกตอาจหลงเชื่อว่าเป็นธนบัตรจริง
เจ้าหน้าที่จะได้เร่งตรวจสอบหาที่มาป้องกันการระบาดนำมาใช้จ่าย ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจในพื้นที่ สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) และมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อใช้ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป