ลำปาง - พ่อค้าแม่ขายตลาดสดโต้รุ่งเมืองลำปาง โดนกันระนาว มิจฉาชีพใช้กระดาษถ่ายเอกสารสีทำเป็นธนบัตรฉบับละ 50 บาท และ 100 บาท อาศัยจังหวะคนรุมซื้อของทำให้ไม่ทันสังเกต จนทุนหายกำไรหดกันทั่ว
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในตลาดสดโต้รุ่ง ด้านหลังตลาดเทศบาล 1 เทศบาลนครลำปางลำปาง ว่าขณะนี้มีพ่อค้าแม่ค้าถูกหลอก และได้รับธนบัตรปลอมแบงก์ 50 แบงก์ 100 บาทหลายราย จึงเดินไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายนันธวัฒน์ แช่มช้อย อายุ 26 ปี พ่อค้าขายขนมหวานและเย็นตาโฟในตลาดสดโต้รุ่ง หนึ่งในผู้ที่ได้รับธนบัตรปลอมจากลูกค้าได้นำธนบัตรฉบับละ 100 บาทมาโชว์ให้ดู
นายนันธวัฒน์เล่าว่า ค่ำวานนี้ (31 ก.ค.) หลังจากที่ตนเปิดร้านได้ไม่นานมีกลุ่มวัยรุ่นและลูกค้าทั่วไปเข้ามาซื้อขนมหวานภายในร้านจำนวนมาก ด้วยความวุ่นวายตนได้แต่ตักขนมหวานขายให้ลูกค้าแล้วรับเงินมา และก็ทอนไปโดยไม่ได้สังเกตหรือตรวจสอบธนบัตร ต่อมาเมื่อตนเอามือที่เปียกน้ำล้วงเอาเงินในกระเป๋าด้านหน้าผ้ากันเปื้อนที่สวมใส่อยู่เพื่อจะนำไปจ่ายค่าสินค้าพบว่ามีสีติดมือมาด้วยจึงได้ล้วงธนบัตรซึ่งได้รับจากลูกค้าออกมาตรวจดู พบว่าธนบัตรฉบับละ 100 บาทเป็นกระดาษเปื่อยยุ่ยจึงทราบว่าเป็นธนบัตรปลอม เมื่อเอาธนบัตรที่กลายเป็นเศษกระดาษที่เปื่อยยุ่ยไปให้เพื่อนที่ค้าขายด้วยกันในบริเวณตลาดโต้รุ่งดูต่างคนก็พูดว่าโดนมาเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้พบว่า หลายร้านในตลาดโต้รุ่งมีผู้นำธนบัตรปลอมมาใช้จำนวนมาก แบงก์ที่พบมากที่สุดจะเป็นธนบัตรฉบับละ 50 บาท และ 100 บาท ซึ่งเมื่อพ่อค้าแม่ค้ารับมาแล้วจะไม่ค่อยตรวจสอบดูว่าเป็นธนบัตรจริงหรือไม่เนื่องจากมีมูลค่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับธนบัตรฉบับละ 500 หรือธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ซึ่งธนบัตรปลอมดังกล่าวก็เป็นเพียงกระดาษธรรมดานำมาถ่ายเอกสรสีเท่านั้น
นายนันทวัฒน์ได้ฝากเตือนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดให้เพิ่มความระมัดระวังและตรวจสอบธนบัตรที่รับมาก่อนที่จะเก็บใส่กระเป๋า เพราะสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายขายไม่ได้กำไรอะไรมากนัก หากโดนธนบัตรปลอมวันละใบสองใบก็จะทำให้ทุนหายกำไรหด พร้อมวิงวอนผู้ที่นำธนบัตรปลอมมาใช้ดังกล่าวขออย่าได้นำธนบัตรปลอมมาใช้เลย ควรจะสงสารพ่อค้าแม่ค้าคนหาเช้ากินค่ำบ้าง เพราะที่ผ่านมาการค้าขายก็ไม่ดี กำไรที่ได้ก็ไม่ใช่มาก
นายนันทวัฒน์บอกว่า เบื้องต้นได้นำธนบัตรปลอมเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ที่นำธนบัตรปลอมมาใช้จ่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
