วานนี้ (25ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.พร้อมสื่อมวลชน ได้เดินทางตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการพิมพ์ และการจัดส่งบัตรออกเสียงประชามติ ณ โรงพิมพ์ บริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จำกัด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งการจัดพิมพ์บัตรออกเสียงประชามติ เริ่มพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.–28ก.ค.59 จำนวน 54,600,000 ฉบับ โดยมีคณะกรรมการกำกับ และตรวจสอบการจัดพิมพ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และแบ่งการตรวจรับ และส่งมอบโดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจรับดำเนินการตรวจรับบัตร ตามวันเวลาที่กำหนด แบ่งเป็น 3 งวด คือ
งวดที่ 1 ส่งมอบบัตร 10ล้านฉบับ ตรวจรับเมื่อวันที่ 8 ก.ค.59 โดยจัดส่งบัตรออกเสียง แบบพิมพ์ และวัสดุอุปกรณ์ให้จังหวัดทางภาคใต้ ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค.59 งวดที่ 2 ส่งมอบบัตรออกเสียง25ล้านฉบับ ตรวจรับเมื่อวันที่ 18 ก.ค.59 โดยจัดส่งบัตรออกเสียง แบบพิมพ์และวัสดุอุปกรณ์ ให้จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ค.59 และงวดที่ 3 ส่งมอบบัตรออกเสียง19.6 ล้านฉบับ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.ค.59 ทั้งนี้ได้ดำเนินการตรวจรับ 2 ครั้ง คือวันที่ 25 ก.ค.และวันที่ 27 ก.ค.59 โดยจัดส่งบัตรออกเสียง แบบพิมพ์และวัสดุอุปกรณ์ ให้จังหวัดทางภาคเหนือ ระหว่าง วันที่ 25-27 ก.ค. และจัดส่งให้จังหวัดภาคกลางระหว่างวันที่ 25-28 ก.ค. นอกจากนี้บัตรออกเสียงประชามติแล้ว ยังมีการส่งบัตรตัวอย่างอีก 500,000 ฉบับด้วย
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า ในการพิมพ์บัตรนี้ ได้มีการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยไว้ 5 ขั้น สามารถเปิดเผยกับสื่อฯได้ 3 ขั้น อีก 2 ขั้นเป็นความลับที่ กกต.จะใช้ในกรณีการตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุบัตรปลอม
นายสมชัย ยังชี้แจงเรื่องการนับคะแนน ว่า ยังนับที่หน่วยออกเสียงประชามติ และเปิดเผยผลคะแนนในแต่ละหน่วย ส่วนการรายงานผล มี 2 อย่าง คือ การรายงานอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ การรายงานอย่างเป็นทางการ คือเจ้าหน้าที่จะนำเอกสารที่มีลายเซ็นกำกับของกรรมการประจำหน่วยตามขั้นตอน และระเบียบมาส่งให้กกต. ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ส่วนการรายงานอย่างไม่เป็นทางการ กกต.ได้จัดทำแอพพลิเคชั่น ที่จะรายงานมายังส่วนกลาง เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งเข้ามาจะมีการรวมผลแบบเรียลไทม์ ว่าคะแนนจริงเท่าไร และจะมีการนำโชว์บนหน้าจอ ที่สำนักงาน กกต. อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำประชามติ และยืนยันว่า จะมีการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลขอให้ กกต. จัดเวทีชี้แจงร่างรธน. และการทำประชามติ ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศ โดยให้กกต.ดำเนินการร่วมกับผู้ว่าฯนั้น ทางกกต. ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดว่า ให้ดำเนินการจัดเวทีชี้แจง โดยกกต.ได้จัดงบให้จังหวัดละ1 แสน 5 หมื่นบาท โดยเวทีที่จะจัดให้ทาง กกต.จังหวัด หารือกับผู้ว่าฯ กำหนดในเรื่องการเชิญบุคคล สถานที่ การดูแลความปลอดภัย รวมทั้งวันที่จะจัด ขึ้นอยู่กับจังหวัดนั้นๆ แต่จะต้องจัดให้เสร็จภายในวันที่ 3 ส.ค.
งวดที่ 1 ส่งมอบบัตร 10ล้านฉบับ ตรวจรับเมื่อวันที่ 8 ก.ค.59 โดยจัดส่งบัตรออกเสียง แบบพิมพ์ และวัสดุอุปกรณ์ให้จังหวัดทางภาคใต้ ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ค.59 งวดที่ 2 ส่งมอบบัตรออกเสียง25ล้านฉบับ ตรวจรับเมื่อวันที่ 18 ก.ค.59 โดยจัดส่งบัตรออกเสียง แบบพิมพ์และวัสดุอุปกรณ์ ให้จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 18-22 ก.ค.59 และงวดที่ 3 ส่งมอบบัตรออกเสียง19.6 ล้านฉบับ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.ค.59 ทั้งนี้ได้ดำเนินการตรวจรับ 2 ครั้ง คือวันที่ 25 ก.ค.และวันที่ 27 ก.ค.59 โดยจัดส่งบัตรออกเสียง แบบพิมพ์และวัสดุอุปกรณ์ ให้จังหวัดทางภาคเหนือ ระหว่าง วันที่ 25-27 ก.ค. และจัดส่งให้จังหวัดภาคกลางระหว่างวันที่ 25-28 ก.ค. นอกจากนี้บัตรออกเสียงประชามติแล้ว ยังมีการส่งบัตรตัวอย่างอีก 500,000 ฉบับด้วย
นายสมชัยกล่าวด้วยว่า ในการพิมพ์บัตรนี้ ได้มีการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยไว้ 5 ขั้น สามารถเปิดเผยกับสื่อฯได้ 3 ขั้น อีก 2 ขั้นเป็นความลับที่ กกต.จะใช้ในกรณีการตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุบัตรปลอม
นายสมชัย ยังชี้แจงเรื่องการนับคะแนน ว่า ยังนับที่หน่วยออกเสียงประชามติ และเปิดเผยผลคะแนนในแต่ละหน่วย ส่วนการรายงานผล มี 2 อย่าง คือ การรายงานอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ การรายงานอย่างเป็นทางการ คือเจ้าหน้าที่จะนำเอกสารที่มีลายเซ็นกำกับของกรรมการประจำหน่วยตามขั้นตอน และระเบียบมาส่งให้กกต. ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ส่วนการรายงานอย่างไม่เป็นทางการ กกต.ได้จัดทำแอพพลิเคชั่น ที่จะรายงานมายังส่วนกลาง เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งเข้ามาจะมีการรวมผลแบบเรียลไทม์ ว่าคะแนนจริงเท่าไร และจะมีการนำโชว์บนหน้าจอ ที่สำนักงาน กกต. อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำประชามติ และยืนยันว่า จะมีการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่รัฐบาลขอให้ กกต. จัดเวทีชี้แจงร่างรธน. และการทำประชามติ ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศ โดยให้กกต.ดำเนินการร่วมกับผู้ว่าฯนั้น ทางกกต. ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดว่า ให้ดำเนินการจัดเวทีชี้แจง โดยกกต.ได้จัดงบให้จังหวัดละ1 แสน 5 หมื่นบาท โดยเวทีที่จะจัดให้ทาง กกต.จังหวัด หารือกับผู้ว่าฯ กำหนดในเรื่องการเชิญบุคคล สถานที่ การดูแลความปลอดภัย รวมทั้งวันที่จะจัด ขึ้นอยู่กับจังหวัดนั้นๆ แต่จะต้องจัดให้เสร็จภายในวันที่ 3 ส.ค.
