“มาเลเซีย” ร่วมมือ “ดีเอสไอ” ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนชาวอิหร่านกลับไทย หลังหลบหนีระหว่างประกันตัวตั้งแต่ปี 2555 ในข้อหาปลอมเอกสาร - ทำและจำหน่ายหนังสือเดินทางปลอม - ครอบครองยาเสพติด
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 21.00 น. ที่ห้องรับรองวีไอพี 1 สนามบินสุวรรณภูมิ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ และ นายชัชชม อรรฆภิญญ์ รองอธิบดีอัยการ สำนักต่างประเทศ ร่วมกันแถลงผลดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีพิเศษที่ 84/2555 คือ นายปาค เนจัด ซาเยส รามิน ชาวอิหร่าน ซึ่งหลบหนีการดำเนินคดีไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีประวัติเป็นนักค้าหนังสือเดินทางปลอมรายใหญ่ เครือข่ายองค์กรอาชญากรรม โดยอาศัยและก่อเหตุในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยอำพรางเป็นนักธุรกิจอยู่ในประเทศไทย มากว่า 10 ปี โดยดีเอสไอได้รับข้อมูลเบาะแสจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายพันธมิตรต่างประเทศ ประกอบกับการขยายผลสืบสวนจากคดีพิเศษที่ผ่านมา เกี่ยวกับกลุ่มแก๊งอาชญากรต่างชาติ พบข้อมูลความเชื่อมโยงและหลักฐานการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายนี้ จึงได้เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหารายนี้เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2555
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจค้นพบยาเสพติด หนังสือเดินทางต่างประเทศ และบัตรประชาชนปลอม รวมทั้งคอมพิวเตอร์ เครื่องมือ อุปกรณ์ปลอมเอกสาร ของกลางจำนวนมาก จึงได้ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาต่าง ๆ ประกอบด้วย 1. ข้อหาครอบครองยาเสพติด ประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) น้ำหนัก 0.141 กรัม 2. ข้อหาปลอมเอกสาร (บัตรประชาชน, ใบขับขี่ต่างประเทศ) 3. ข้อหาปลอมและจำหน่าย หนังสือเดินทางต่างประเทศปลอม และ 4. ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร ทั้งนี้ ในทางคดีพบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอ จึงได้ส่งสำนวนพร้อมมีความเห็นควรสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ ต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหารายนี้ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2555 และระหว่างการดำเนินคดี ผู้ต้องหาถูกคุมขังชั่วคราวที่เรือนจำพัทยา ได้ยื่นประกันตัวและหลบหนีระหว่างการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล โดยไม่มารายงานตัวตามเงื่อนไขที่กำหนด
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ต่อมาศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งดีเอสไอได้ทำการสืบสวนต่อเนื่อง จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย จึงประสานความร่วมมือแจ้งข้อมูลหมายจับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2556 ตำรวจมาเลเซียได้จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ประเทศมาเลเซีย และประสานแจ้งมายังดีเอสไอ จึงได้ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดของไทยดำเนินการขอตัวผู้ต้องหารายนี้กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย ตาม พ.ร.บ. ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ต่อทางการมาเลเซีย
“ผู้ต้องหารายนี้ได้ต่อสู้คดีกว่า 3 ปี และอุทธรณ์ เพื่อขอให้ศาลมาเลเซียมีคำสั่งไม่ให้ส่งตัวกลับมายังประเทศไทย แต่ในที่สุดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2559 ศาลสหพันธ์รัฐมาเลเซีย มีคำสั่งถึงที่สุดให้ส่งตัว นายปาค เนจัด ซาเยส รามิน ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาประเทศไทย จากนั้นดีเอสไอจึงส่งคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมกับพนักงานอัยการ เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหารายนี้ โดยมีกำหนดการรับตัวกลับมาประเทศไทยในวันที่ 21 ก.ค. นี้ และจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งยังศาลอาญา เพื่อพิจารณาคดีต่อไป” พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว