ผบก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บุกค้น “ซินหยวน ทราเวล” ย่านพระราม 9 หลังขยายผลพบเกี่ยวข้องกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนสวมบัตรประชาชนคนไทย เปิดบริษัททัวร์ เผย ทำสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ประสาน ปปง.- สรรพากร สอบเส้นทางเงินย้อนหลัง
ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังทหาร กรมการท่องเที่ยว ปปง. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร เข้าตรวจค้น บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด ย่านพระราม 9 หลังจากการขยายผลจับแก๊งทัวร์จีนเถื่อน สวมบัตรประชาชนคนไทยตั้งบริษัทนำเที่ยวก่อนหน้านี้ #theta360 - Spherical Image - RICOH THETA
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรมการท่องเที่ยว กรมการพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมเข้าตรวจค้นบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด ย่านพญาไท พร้อมจับกุมชาวจีนไม่ทราบชื่อ - นามสกุลจริง อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว โดยมีการลักลอบสวมบัตรประชาชนของ นายสมเกียรติ คงเจริญ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศไทย และ นางธวัล แจ่มโชคชัย อายุ 59 ปี ชาวไทย ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทเดียวกัน ซึ่งเป็นผู้มีส่วนช่วยเหลือ และให้การสนับสนุนกับกลุ่มบุคคลต่างชาติที่เป็นคนจีน โดยการสวมบัตรประชาชนคนไทยจำนวนหลายราย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา “กระทำการเป็นสมาชิกอั้งยี่” ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) เวลา 10.30 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. สนธิกำลังร่วมกับ ร.ท.ชนาธิป สุทธิสารากร หัวหน้าชุด ชป.ยก.ร.1 พัน 2 รอ. นายจิตรกร ว่องเขตกร ผอ.กองธรรมาภิบาลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผอ.ฝ่ายสืบสวนทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ นักพัฒนาการท่องเที่ยวชำนาญการ กรมการท่องเที่ยว พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ร่วมกันเข้าตรวจค้นบริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด เลขที่ 370/8 บริเวณ ชั้น 7 ภายในอาคารสุภัทรา ถ.พระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
โดยการตรวจค้นครั้งนี้ เป็นการขยายผลหลังจากสืบสวนสอบสวน ทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมดังกล่าว มีความเชื่อมโยงกับบริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด เนื่องจากผู้ต้องหาชาวจีนที่สวมบัตรประชาชนคนไทย โดยใช้ชื่อว่า นายสมเกียรติ และ นางธวัล เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเช่นกัน โดยจากการตรวจค้นพบเอกสารการประกอบธุรกิจ พร้อมโบรชัวร์สถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นการตรวจหาเอกสารที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก่อนนำไปตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด ขณะเดียวกัน ยังพบว่า นายสมเกียรติ ได้มีการถอนหุ้นจากบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบชื่อจริงของนายสมเกียรติ เนื่องจากยังให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน ทั้ง ดีเอ็นเอ เอกสาร ที่พบว่า นายสมเกียรติ มีการสวมบัตรประชาชนของคนไทย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า บริษัททัวร์ดังกล่าวทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ด้านการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจำนวนเท่าไหร่ หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ ทั้ง ปปง. และเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จะทำการตรวจสอบย้อนหลัง ถึงเส้นทางการเงินทั้งหมด และตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดการฟอกเงินด้วยหรือไม่ ส่วนจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่หากตรวจสอบพบว่ากระทำผิดจริง จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันที นอกจากนี้ ยังพบว่า การเปิดบริษัททัวร์ลักษณะดังกล่าว อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัท ทรานลี่ ทราเวล จำกัด ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
มีรายงานว่า จากการตรวจสอบย้อนหลัง พบว่า ชื่อของนายสมเกียรติ คงเจริญ เป็นชื่อของคนวิกลจริต ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วน นางธวัล พบว่า อยู่ในขบวนการสวมบัตรประชาชนคนไทยให้กับชาวจีนมานานแล้ว เพื่อช่วยให้คนจีนมาเปิดบริษัท ในประเทศไทย นอกจากนี้ นางธวัล ยังมีส่วนเกี่ยวข้องในการสวมบัตรผู้บริหารของบริษัท ยูฟัน แชลูกโซ่รายใหญ่ และยังพบพฤติกรรมว่า มีการโอนย้ายชื่อของคนจีน มาสวมบัตรคนไทยมาแล้วกว่า 100 ราย
มีรายงานว่า จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า ชื่อของ นายสมเกียรติ คงเจริญ เป็นชื่อของคนวิกลจริต ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ส่วน นางธวัล พบว่า อยู่ในขบวนการสวมบัตรประชาชนคนไทยให้กับชาวจีนมานานแล้ว เพื่อช่วยให้คนจีนมาเปิดบริษัท ในประเทศไทย นอกจากนี้ นางธวัล ยังมีส่วนเกี่ยวข้องในการสวมบัตรผู้บริหารของบริษัท ยูฟัน แชลูกโซ่รายใหญ่และยังพบพฤติกรรม ว่า มีการโอนย้ายชื่อของคนจีนมาสวมบัตรคนไทยมาแล้วกว่า 100 ราย