xs
xsm
sm
md
lg

สตม.ตามล็อกนายทุนใหญ่แก๊งยากูซา หลังหนีคดีขู่กรรโชก-ฉ้อโกง ร่วม 180 ล้านบาท กบดานไทย (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - สตม. ตามล็อกตัวการใหญ่กลุ่มทุนแก๊งยากูซ่า “ยามากูจิ” ย่านพระราม 9 พฤติกรรมอ้างเป็น จนท. รัฐ ขู่กรรโชก ฉ้อโกง วงเงินเสียหาย 180 ล้านบาท หลังหนีการจับกุมที่ญี่ปุ่นกบดานไทย



วันนี้ (1 พ.ค.) พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยวุฒิ จันทร์สมบรูณ์ ผกก.1 บก.สส.สตม. นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่น ทำการจับกุมตัว นายชูเฮย์ โยชิซาวา (Mr.Shuhei Yoshizawa) อายุ 34 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโกะ ประเทศญี่ปุ่น และหมายจับตำรวจสากล ในความผิดเกี่ยวกับ ขู่กรรโชก ฉ้อโกง อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ และความผิดในลักษณะองค์กรอาชญากรรม โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณร้านอาหารย่านประชาสงค์เคราะห์ 1 แขวงเขตดินแดง กทม. หลังจากนั้น จึงได้ควบคุมตัวมาตรวจค้นยังอาคารชุด เบ็ล อเวนิว 1 ชั้น 35 ห้อง 131/702 แขวงเขตห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องพักของนายชูเฮย์

พล.ต.ท.ณัฐธร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ สตม. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่น เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ว่า นายชูเฮย์ โยชิซาวา ตัวการใหญ่กลุ่ม ยามากูจิ ซึ่งเป็นแก๊งยากูซาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่น ได้หลบหนีหมายจับมาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย ให้ดำเนินการติดตามหาตัวเพราะเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในการตัดวงจรอาชญากรรมในประเทศญี่ปุ่น

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สตม. ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนทราบว่า นายชูเฮย์ โยชิซาวา มีห้องพักกบดานกับภรรยาชาวไทยอยู่คอนโดมิเนียมหรูย่านพระราม 9 และชอบท่องเที่ยวราตรีย่านสถานบันเทิง RCA จึงวางกำลังเฝ้าติดตาม กระทั่งพบตัว นายชูเฮย์ โยชิซาวา พร้อมภรรยาชาวไทย ขับรถยนต์อยู่บน ถ.พระราม 9 โดยตลอดเวลามีพฤติการณ์ขับขี่แบบระมัดระวัง คอยดูว่ามีคนติดตามหรือไม่ จนมาถึงปากซอยแยกประชาอุทิศ 1 นายชูเฮย์ โยชิซาวา เริ่มรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม จึงจอดรถและวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงรีบตามเร่งตะครุบตัว แต่ผู้ต้องหาขัดขืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ จนเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้อย่างทุลักทุเล

“จากการตรวจสอบพบว่า นายชูเฮย์ โยชิซาวา ได้เดินทางเข้าออกประเทศไทยตั้งแต่ปี 2556 ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโอซากา ได้ทำการปิดล้อมสำนักงานใหญ่ของบริษัทมิยามา จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 25 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกแก๊งยามากูจิ แต่ นายชูเฮย์ โยชิซาวา สามารถหลบหนีไปได้ จนเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 ผู้ต้องหาได้เข้ามาในประเทศไทย ซึ่ง นายชูเฮย์ โยชิซาวา มีพฤติการณ์อุปการะภรรยาชาวไทย มีการย้ายที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ยากในการติดตามตัว ซึ่งชาวต่างชาติที่หลบหนีคดีเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย หรือเข้ามาเพื่อกระทำผิดกฎหมาย มักพยายามหาเหตุเพื่อให้อยู่ในประเทศไทยได้นาน ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบในระบบตรวจคนเข้าเมืองนายชูเฮย์ โยชิซาวา มีการขออนุญาตอยู่ต่อในประเทศประเภทอุปการะภรรยาไทย จนถึงวันที่ 27 ก.ค. 59 โดยทาง สตม. ได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง มาตรา 12 อนุ 7 มีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม และเข้าควบคุมตัวเพื่อดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศ” ผบช.สตม. เปิดเผย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ นายชูเฮย์ โยชิซาวา เป็นหนึ่งในหัวหน้ากลุ่มทุนใหญ่ที่ให้การสนับสนุนเงินให้กับแก๊งยากูซา ยามากูจิ ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีอิทธิพลที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดย นายชูเฮย์ โยชิซาวา กับพวก ร่วมกันเปิดบริษัท มิยามา ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนมีสาขาทั่วประเทศบังหน้า โดยผู้ร่วมเจ้าหน้าที่รัฐ ขบวนการมีการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ข่มขู่กรรโชก ฉ้อโกงด้วยวิธีต่าง ๆ ก่อนให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีรายละ 1 ล้านเยน ซึ่งใน 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียหายกว่า 500 ราย สร้างความเสียหายกว่า 600 ล้านเยน หรือประมาณ 180 ล้านบาท



กำลังโหลดความคิดเห็น