ผู้จัดการรายวัน360-“กานต์ วิภากร” ควงน้องสาว “เก๋” แถลงเล่าวินาที “เสก” คลั่งกระทืบลูกน้องคนสนิทนาม “ทอมบี” ต่อหน้าลูก ยันบีไม่ได้ตั้งเพจแอนตี้-ด่าพ่อแม่เสกอย่างที่ถูกกล่าวหา ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแจ้งความไว้แล้ว 3 ข้อหา ส่วนที่เสกบอกว่าตนไม่ผิดที่กระทืบบีอ้างเหมือนตำรวจจับโจร กานต์จวกกลับอีกฝ่ายใช่ตำรวจหรือเปล่า ซัดไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี รับกลัวโดนเสกกระทืบซ้ำอีก สงสารลูกนอนร้องไห้จนตาบวมเล็งพาไปหาจิตแพทย์ เหลืออดประกาศห้ามไม่ให้ลูกไปเจอเสกที่บ้านอีก
ตกเป็นข่าวใหญ่ช่วงสงกรานต์ สำหรับ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์ชื่อดัง หลังจากก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “น.ส.ชนกชล บุญเพ็ง” หรือ “ทอมบี” ลูกน้องคนสนิทของ “น.ส. วิภากร แสงสายทิม” หรือ “กานต์” อดีตภรรยาจนกรามหัก ต่อหน้า “กวาง” บุตรสาว ซึ่งหลังจากก่อเหตุเสกได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าตั้งใจทำร้ายร่างกายทอมบี เนื่องจากโกรธเคืองที่เคยตั้งเพจแอนตี้และด่าทอถึงบุพการี ซึ่งตนเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเจอจะกระทืบ
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้(19 เมษายน 2559) “นพ.บุรินทร์ นุชนิยม” ผู้ช่วยประทานเจ้าหน้าที่บริหาร “นพ.บริพัตร วงศ์ประชุม” ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้าง พร้อมกานต์ อดีตภรรยาเสก และ “น.ส.วิรังรอง แสงสายทิม” หรือ “เก๋” น้องสาวกานต์ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ร็อกเกอร์ชื่อดังทำร้ายร่างกายทอมบีได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ชั้น 2 อาคาร ตรัยยา หลัง รพ.ปิยะเวท ถ.พระราม 9
โดยนายแพทย์บริพัตรกล่าวถึง น.ส.ชนกชล ว่ามีอาการกระดูกข้อต่อกรามล่างด้านซ้ายหักจึงทำการผ่าตัดเย็บดึงกระดูกฟันทั้งบนและล่างให้ติดกันตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ตอนนี้อยู่ในระยะพักฟื้น อาการปลอดภัยดีแต่ไม่ยืนยันว่าจะกลับมาเหมือนเดิม 100% หรือไม่ เพราะปกติกระดูกจะเริ่มกลับมาติดกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ สภาพจิตใจไม่มีปัญหาเพียงแต่สีหน้าและอารมณ์ค่อนข้างเงียบขรึม โดยอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าอาการนี้ถือว่าสาหัสหรือไม่ ตนไม่อาจลงความเห็นได้ เพราะเป็นหน้าที่ของนิติเวช ตนมีหน้าที่เพียงรักษาไปตามอาการ
ด้าน น.ส.วิรังรองกล่าวถึงวันที่เกิดเหตุว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เวลา 23.00 น. ตนไปแวะรับประทานอาหารกับ น.ส.กรกวี ศุขพิมาย หรือกวาง บุตรสาวคนกลางของเสกและ น.ส. ชนกชล ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนกลับเสก พร้อมผู้ติดตามเดินเข้ามาเจอพอดี จึงหยุดทักทายโอบกอดบุตรสาว จากนั้นก็เข้าตบตี น.ส.ชนกชล ซึ่งตนได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ตนเองก็โดนเสกปิดประตูรถ โดยระหว่างเกิดเหตุบุตรสาวของเสกก็ตะโกนห้ามและร้องไห้ตลอดเวลา
น.ส.วิรังรองกล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับเสกแล้วในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ และข่มขู่โดยการขู่เข็ญ เพราะหลังเกิดเรื่องตนกลัวจะโดนทำร้ายซ้ำ เวลาไปไหนมาไหนจึงต้องระวังมากขึ้น โดยตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วน น.ส.ชนกชล จะดำเนินคดีกับเสกในข้อหาใดบ้างคงต้องรอดูผลอาการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน เพียงแต่ก่อนหน้านี้เวลานักร้องดังและอดีตภรรยาด่าทอกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก น.ส.ชนกชล มักจะคอยปกป้องนางวิภากรจึงทำให้เสกโกรธ
“ทั้งนี้ตนไม่เคยด่าบุพการีของเสก และตอนนี้ สภาพจิตใจน้องกวางคงรู้สึกไม่ได้ พยายามไม่พูดถึงเรื่องนี้กับน้อง น้องยังเด็กและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากพอแล้ว เสกไม่ควรทำร้ายใครต่อหน้าลูก เร็วๆ นี้มีแผนพากวางไปพบจิตแพทย์เพราะเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าจะพูดกับลูกเอง ซึ่งเสกในยุคปัจจุบันไม่มีการรู้ผิดชอบชั่วดี หลังจากนี้คงไม่ให้ลูกๆ ไปนอนค้างบ้านเสกแล้ว ไม่แน่ใจในความปกติทางจิตใจของเสก แต่คงไม่ถึงกับห้ามไม่ให้พ่อลูกเจอกัน เพราะยังไงก็พ่อลูกกัน ตอนนี้น้องกวางยังไม่ได้คุยกับพ่อเขาตั้งแต่เกิดเหตุ สำหรับเรื่องราวที่คนมองว่าไม่จบไม่สิ้นสักที อยากพูดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเสก ว่าทำตามกฎหมายแค่ไหน อย่างกรณีนี้เสกใช้ศาลเตี้ยตัดสินคนบนความเข้าใจผิด ยืนยันว่าบีไม่เคยด่าและให้ความเคารพเสกเสมอ” นางวิภากรกล่าว
ตกเป็นข่าวใหญ่ช่วงสงกรานต์ สำหรับ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์ชื่อดัง หลังจากก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “น.ส.ชนกชล บุญเพ็ง” หรือ “ทอมบี” ลูกน้องคนสนิทของ “น.ส. วิภากร แสงสายทิม” หรือ “กานต์” อดีตภรรยาจนกรามหัก ต่อหน้า “กวาง” บุตรสาว ซึ่งหลังจากก่อเหตุเสกได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าตั้งใจทำร้ายร่างกายทอมบี เนื่องจากโกรธเคืองที่เคยตั้งเพจแอนตี้และด่าทอถึงบุพการี ซึ่งตนเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเจอจะกระทืบ
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้(19 เมษายน 2559) “นพ.บุรินทร์ นุชนิยม” ผู้ช่วยประทานเจ้าหน้าที่บริหาร “นพ.บริพัตร วงศ์ประชุม” ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้าง พร้อมกานต์ อดีตภรรยาเสก และ “น.ส.วิรังรอง แสงสายทิม” หรือ “เก๋” น้องสาวกานต์ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ร็อกเกอร์ชื่อดังทำร้ายร่างกายทอมบีได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ชั้น 2 อาคาร ตรัยยา หลัง รพ.ปิยะเวท ถ.พระราม 9
โดยนายแพทย์บริพัตรกล่าวถึง น.ส.ชนกชล ว่ามีอาการกระดูกข้อต่อกรามล่างด้านซ้ายหักจึงทำการผ่าตัดเย็บดึงกระดูกฟันทั้งบนและล่างให้ติดกันตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ตอนนี้อยู่ในระยะพักฟื้น อาการปลอดภัยดีแต่ไม่ยืนยันว่าจะกลับมาเหมือนเดิม 100% หรือไม่ เพราะปกติกระดูกจะเริ่มกลับมาติดกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ สภาพจิตใจไม่มีปัญหาเพียงแต่สีหน้าและอารมณ์ค่อนข้างเงียบขรึม โดยอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าอาการนี้ถือว่าสาหัสหรือไม่ ตนไม่อาจลงความเห็นได้ เพราะเป็นหน้าที่ของนิติเวช ตนมีหน้าที่เพียงรักษาไปตามอาการ
ด้าน น.ส.วิรังรองกล่าวถึงวันที่เกิดเหตุว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เวลา 23.00 น. ตนไปแวะรับประทานอาหารกับ น.ส.กรกวี ศุขพิมาย หรือกวาง บุตรสาวคนกลางของเสกและ น.ส. ชนกชล ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนกลับเสก พร้อมผู้ติดตามเดินเข้ามาเจอพอดี จึงหยุดทักทายโอบกอดบุตรสาว จากนั้นก็เข้าตบตี น.ส.ชนกชล ซึ่งตนได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ตนเองก็โดนเสกปิดประตูรถ โดยระหว่างเกิดเหตุบุตรสาวของเสกก็ตะโกนห้ามและร้องไห้ตลอดเวลา
น.ส.วิรังรองกล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับเสกแล้วในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ และข่มขู่โดยการขู่เข็ญ เพราะหลังเกิดเรื่องตนกลัวจะโดนทำร้ายซ้ำ เวลาไปไหนมาไหนจึงต้องระวังมากขึ้น โดยตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ส่วน น.ส.ชนกชล จะดำเนินคดีกับเสกในข้อหาใดบ้างคงต้องรอดูผลอาการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีปัญหากันมาก่อน เพียงแต่ก่อนหน้านี้เวลานักร้องดังและอดีตภรรยาด่าทอกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก น.ส.ชนกชล มักจะคอยปกป้องนางวิภากรจึงทำให้เสกโกรธ
“ทั้งนี้ตนไม่เคยด่าบุพการีของเสก และตอนนี้ สภาพจิตใจน้องกวางคงรู้สึกไม่ได้ พยายามไม่พูดถึงเรื่องนี้กับน้อง น้องยังเด็กและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากพอแล้ว เสกไม่ควรทำร้ายใครต่อหน้าลูก เร็วๆ นี้มีแผนพากวางไปพบจิตแพทย์เพราะเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าจะพูดกับลูกเอง ซึ่งเสกในยุคปัจจุบันไม่มีการรู้ผิดชอบชั่วดี หลังจากนี้คงไม่ให้ลูกๆ ไปนอนค้างบ้านเสกแล้ว ไม่แน่ใจในความปกติทางจิตใจของเสก แต่คงไม่ถึงกับห้ามไม่ให้พ่อลูกเจอกัน เพราะยังไงก็พ่อลูกกัน ตอนนี้น้องกวางยังไม่ได้คุยกับพ่อเขาตั้งแต่เกิดเหตุ สำหรับเรื่องราวที่คนมองว่าไม่จบไม่สิ้นสักที อยากพูดว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเสก ว่าทำตามกฎหมายแค่ไหน อย่างกรณีนี้เสกใช้ศาลเตี้ยตัดสินคนบนความเข้าใจผิด ยืนยันว่าบีไม่เคยด่าและให้ความเคารพเสกเสมอ” นางวิภากรกล่าว