“กานต์ วิภากร” ควงน้องสาว “เก๋” แถลงเล่าวินาที “เสก” คลั่งกระทืบลูกน้องคนสนิทนาม “ทอมบี” ต่อหน้าลูก ยันบีไม่ได้ตั้งเพจแอนตี้ - ด่าพ่อแม่เสก อย่างที่ถูกกล่าวหา ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแจ้งความไว้แล้ว 3 ข้อหา ส่วนที่เสกบอกว่าตนไม่ผิดที่กระทืบบี อ้างเหมือนตำรวจจับโจร กานต์จวกกลับอีกฝ่ายใช่ตำรวจหรือเปล่า ซัดไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี รับกลัวโดนเสกกระทืบซ้ำอีก สงสารลูกนอนร้องไห้จนตาบวม เล็งพาไปหาจิตแพทย์ เหลืออดประกาศห้ามไม่ให้ลูกไปเจอเสกที่บ้านอีก
ตกเป็นข่าวใหญ่ช่วงสงกรานต์ สำหรับ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์ชื่อดัง หลังจากก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “น.ส.ชนกชล บุญเพ็ง” หรือ “ทอมบี” ลูกน้องคนสนิทของ “น.ส.วิภากร แสงสายทิม” หรือ “กานต์” อดีตภรรยาจนกรามหัก ต่อหน้า “กวาง” บุตรสาว ซึ่งหลังจากก่อเหตุเสกได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่าตั้งใจทำร้ายร่างกายทอมบี เนื่องจากโกรธเคืองที่เคยตั้งเพจแอนตี้ และด่าทอถึงบุพการี ซึ่งตนเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเจอจะกระทืบ
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 เม.ย. 2559) “นพ.บุรินทร์ นุชนิยม” ผู้ช่วยประทานเจ้าหน้าที่บริหาร “นพ.บริพัตร วงศ์ประชุม” ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้าง พร้อม กานต์ อดีตภรรยาเสก และ “น.ส.วิรังรอง แสงสายทิม” หรือ “เก๋” น้องสาวกานต์ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ร็อกเกอร์ชื่อดังทำร้ายร่างกายทอมบีได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ชั้น 2 อาคารตรัยยา หลัง รพ.ปิยะเวท ถ.พระราม 9
โดยน้องสาวกานต์ เผยว่า ตนได้ไปดูหนังและกินไอศกรีมกับทอมบี และกวาง บุตรสาวร็อกเกอร์ชื่อดัง ก่อนเสกจะเดินมาเจอ เข้ามากอดบุตรสาว และตบทอมบี โดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว
“วันนั้นไปดูหนังกับน้องกวาง กับบี เราไปดูหนัง หนังเลิกตอน 4 ทุ่มครึ่ง และไปกินไอติมในแมคโดนัลด์ เข้าไปถึงเกือบ ๆ 5 ทุ่ม เดินออกมาจากร้านแมค เจอพี่เสกเดินมาพอดีกับผู้ติดตามของเขาอีก 3 คน รวมพี่เสกเป็น 4 คน เราไม่ได้คิดอะไร เพราะมากับลูกเขา”
“พอเจอกันพี่เสกเดินมากอดน้องกวางและตบบีเลย ไม่ได้พูดอะไร ทั้งตบทั้งชกจนบีล้มไปกับพื้น พอบีล้มลงไปการ์ดของเขาก็เอาตัวบีขึ้นมาให้พี่เสกชกต่ออีก เราเลยเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปไว้ แต่ได้เท่าที่เห็นกันเพราะการ์ดเขาจะมาแย่งโทรศัพท์จากเรากลับไป พี่เสกเลยหันมาที่เราเพราะเห็นเสียงดังโวยวาย”
“ซึ่งตอนนั้นเรากำลังเดินไปเปิดประตูรถ เพื่อจะเอากระเป๋ากับโทรศัพท์โยนไปในรถแล้วจะมาช่วยบี พี่เสกก็เดินมาเปิดประตูรถกระแทกแขนเรา ซึ่งเป็นจังหวะที่บีลุกขึ้นมาได้ และเดินมาขึ้นรถเรา ในฝั่งตรงข้ามคนขับ ระยะเวลาเกิดเหตุ 3 - 4 นาที พอไปดูกล้องวงจรปิดระยะเวลาเกิดเหตุประมาณ 4 - 5 นาที ไม่นาน น้องกวางห้ามตลอดเวลาว่าพ่ออย่า ๆ ร้องไห้ตลอด กวางน่าสงสารมาก”
“พี่เสกพอเห็นบีเปิดประตูรถเข้าไป เขาก็ตามไปถีบบีอีกด้วย กวางเดินไปขึ้นประตูข้างหลัง พอปิดประตูรถได้ พี่เสกตะโกนมาว่าอีเก๋ถ้าแม่มึงไม่เลี้ยงลูกกูมา กูฆ่ามึงไปตั้งนานแล้ว เขาพูดอย่างนี้ประมาณ 3 - 4 รอบ ถามว่าเขามีปัญหาอะไรกันมาก่อน คือ บีเป็นแฟนคลับพี่กานต์ แฟนคลับฝั่งของพี่กานต์กับพี่เสก จะด่ากันรุนแรงอยู่แล้ว ซึ่งบีเขามาปกป้องพี่กานต์ตลอด พี่เสกเขาคงโกรธว่าคนนี้ชอบไปด่า หรือไปเถียงอะไรกับใคร”
กานต์ย้ำบีไม่ได้ด่าพ่อแม่เสก ซัดเสกผิดข้อตกลงห้ามทำร้ายร่างกายกันหลังหย่า
“เรื่องที่พี่เสกอ้างว่าบีไปด่าพ่อแม่ของพี่เสก เรื่องนี้เรายืนยันได้ว่าบีไม่เคยด่าพ่อแม่ของพี่เสก คนที่บีด่าคือแฟนคลับกับแฟนคลับด่ากันเอง แล้วที่พี่เสกคิดว่าบีด่าแม่ของเขาให้เขาแคปมาเป็นหลักฐาน คือเขาคิดว่าบีเป็นแอดมินเพจแอนตี้เสกโลโซ ซึ่งจริง ๆ คือไม่ใช่ บีไม่ได้เกี่ยวข้อง เขาคิดไปเอง เพราะเพจแอนตี้เสกโลโซ เคยด่าแม่เขาทีหนึ่ง อันนี้เราเคยเห็นแต่ตัวบีไม่ได้เป็นแอดมินอยู่แล้ว พี่เสกอาจจะเข้าใจผิด หรืออะไรอันนี้เราไม่ทราบ”
“ส่วนเรื่องที่พี่เสกบอกว่าเคยไปแจ้งความเรื่องเพจแอนตี้ไว้แล้ว อันนี้เราไม่ทราบ เราไม่รู้ไม่ได้ตามข่าว เพราะเขาด่ากราดทุกคนเป็นประจำ ซึ่งก่อนหย่ามีข้อตกลงกันว่าห้ามมาทำร้ายร่างกายกันอีก แต่นี่เขามาทำร้ายบี ก็ถือว่าเขาผิดข้อตกลงในการหย่าหลังจากหย่าก็ต่างคนต่างอยู่ ส่วนที่พี่เสกอ้างว่าบีมีคดีฉ้อโกง เป็นคนไม่ดี คือถ้าเขามีเจ้าทุกข์ ก็คงมาดำเนินคดีกับบีเอง นั่นเป็นส่วนของบี แต่ในส่วนที่เรารู้จักบี เขาดีกับเรา ไม่เคยหวังอะไรอยู่แล้ว”
ประกาศขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด กลัวถูกกระทืบซ้ำอีก จวกเละอีกฝ่ายไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
“หลังเกิดเหตุเราขับรถไปส่งกวางที่บ้านก่อน เพราะเขาตกใจมาก ก่อนจะพาบีไปโรงพยาบาล พอบีปลอดภัยเรียบร้อย เราก็ไปแจ้งความ ซึ่งเราแจ้งความที่สน.ลาดพร้าว แจ้งไปตามอาการของบี ส่วนข้อหาต้องเป็นตำรวจตั้ง ซึ่งเราต้องดูผลตรวจอาการของบีก่อน เหตุการณ์นี้เราจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด ซึ่งทางเราก็แจ้งว่าโดนทำร้ายร่างกาย จิตใจ และข่มขู่ ส่วนที่ทางพี่เสกบอกว่าไม่กังวลกับคดีเท่าไหร่ อันนี้เป็นเรื่องของเขา เพราะเขาไม่กังวลสักคดีอยู่แล้ว”
“ส่วนที่เขาบอกว่าเหมือนตำรวจจับโจร อยากถามกลับว่าแล้วเขาเป็นตำรวจหรือเปล่า เราต้องพิจารณาเอาเองว่าจิตใจเขาเป็นยังไง ทำผิดแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองผิด เพราะฉะนั้น สังคมหรือกฎหมายต้องคิดว่าการที่คน ๆ หนึ่งพูดแบบนี้แสดงว่าเขาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ส่วนที่เขาบอกว่าถ้าเจออีกจะกระทืบอีก เรากลัวไหม กลัวสิ ถึงแจ้งข้อหาว่าเขาข่มขู่ มี 3 ข้อ ที่เราแจ้งไป 1. คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2. ทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บและทำร้ายจิตใจ 3. ข่มขู่ ซึ่งทางเราส่งคลิปกล้องวงจรปิดให้ตำรวจอยู่แล้ว
กานต์สงสารลูกสาวร่ำไห้ตะโกนบอก “พ่ออย่าทำ ๆ” ลั่นจะทำร้ายใครก็ไม่ควรทำต่อหน้าลูก เล็งพาลูกพบจิตแพทย์
“น้องกวางเขาคงรู้สึกไม่ดี ตอนนี้เราพยายามจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้เขาเป็นปกติที่สุด เขาเป็นเด็กอายุแค่ 15 เราไม่อยากให้เขามาหมกมุ่นกับเรื่องนี้ แค่นี้เขาก็สะเทือนใจแล้ว เขาตะโกนบอก พ่ออย่าทำ ๆ แล้วร้องไห้ไปด้วยตลอดเวลา คือหนักแล้ว พอเราเจอลูกนอนตื่นขึ้นมาตาบวม มันไม่ใช่แล้ว ซึ่งพี่เสกจะทำร้ายร่างกายใคร เขาไม่ควรทำต่อหน้าลูก”
“ซึ่งน้องกวางเจอหลายครั้งแล้ว ทั้งทำร้ายเรา ทำร้ายคนอื่น มันไม่ยุติธรรมกับเด็ก ส่วนตัวกานต์ไม่ค่อยได้คุยกับลูกว่าเขาเข้าใจยังไง แต่เขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าวัย เขาเห็นกับตาเขารู้อยู่แล้วว่าบีเป็นยังไง พ่อเขาทำพฤติกรรมยังไงกับแม่ หรือกับคนอื่น ๆ กวางเขาตัดสินใจเองได้ กวางกับบีเขาก็สนิทกัน ส่วนที่พี่เสกบอกว่าไม่อยากให้กวางอยู่ใกล้บี คือบีเขาไม่ได้อยู่บ้านกานต์เขาจะมาแค่ทำงาน เขามาดูแลงานในค่ายเพลงเรา ในส่วนของน้องกวางเดี๋ยวกานต์คงพาเขาไปพบจิตแพทย์ เพราะถ้าให้เราเป็นคนพูดกับเขาตรง ๆ เราไม่มีจิตวิทยากับเด็ก คงต้องให้หมอเป็นคนช่วย ว่าลูกคิดยังไงอยู่ ถามว่าน้องกวางมีอาการซึมเศร้ามั้ย ใช่”
บอกเสกเปลี่ยนไปเหมือนคนไม่เคยรู้จัก
“เราไม่รู้ว่าเขาไม่ปกติยังไง เพราะเราไม่ได้เป็นหมอ แต่เขาไม่เหมือนคนเดิมที่เราเคยรู้จัก เรารู้จักตั้งแต่เป็นนักร้องที่ผับ ยังไม่มีชื่อเสียง เขาไม่ได้เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก จนเราไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เหมือนเป็นคนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน”
ไม่ห้ามพ่อลูกเจอกัน แต่ห้ามลูกไปเจอพ่อที่บ้าน
“ไม่ได้ห้ามพ่อลูกเจอกัน แต่คงไม่ให้ลูกไปเจอที่บ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าพี่เสกปกติหรือไม่ปกติขนาดไหน วันดีคืนดีเกิดลูกเป็นอะไรขึ้นมา เราจะเสียใจทีหลัง ทางน้องไม่คุยกับพ่อ พ่อเขาไลน์มา แต่น้องไม่คุยที่พี่เสกบอกว่ากวางไลน์ไปถามว่าพ่อโอเค หรือเปล่า จริง ๆ คือ กวางไม่คุยกับพ่อเลยตั้งแต่วันนั้น ตั้งแต่มีเรื่องนี้พี่เสกไลน์มา 2 ครั้งมั้งแต่กวางไม่ตอบ ถามว่าอยากให้เรื่องจบยังไง อยู่ที่ตัวพี่เสกถ้าเขาทำตามกฎหมาย ทำตามกติกามารยาท มันคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่เขาใช้ศาลเตี้ยตัดสินคนอื่นโดยที่เขาเข้าใจผิด”
คาดภาวะอารมณ์ไม่ปกติ เป็นผลกระทบจากยาเสพติด จวกเสกเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า!
“คนที่เคยใช้ยาเสพติดอย่างมากมาเป็นเวลานาน แต่การที่เขาไปบำบัดแค่ 2 เดือน คิดว่ามันยังไม่ใช่ เพราะจริงๆ ต้องรักษาตัว 2 - 3 ปี เท่าที่เรารู้นะ และต้องไปพบจิตแพทย์ตามเวลานัด และต้องใช้ยาที่หมอสั่งให้ตลอดชีวิต ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนดี ไม่ใช่แบบนี้เลย เขาจะไม่ชอบออกสื่อ ไม่เข้าสังคมแบบนี้ เป็นร็อกสตาร์ นี่เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ถามว่าส่วนตัวคิดว่าพี่เสกกลับไปใช้ยาเสพติดอีกไหม กานต์ไม่ทราบ ว่าเขากลับไปใช้หรือเปล่า แต่อาการของเขามีผลกระทบจากยาอยู่แล้ว เพราะเขาใช้มานานและใช้เยอะ คิดว่าภาวะทางอารมณ์ของเขายังไม่ปกติ ต้องรักษา และพบจิตแพทย์”
ด้าน “นายแพทย์ บริพัตร” เผยถึงอาการ “ทอมบี” ว่า ได้รับการประสานงานจาก รพ. ข้างนอกให้ช่วยรับคนไข้ในวันที่ 17 เม.ย. เบื้องต้นตรวจร่างกายพบว่ากระดูกข้อต่อ กรามด้านซ้ายหัก ต้องใช้เวลาพักฟื้น 6 สัปดาห์
“เบื้องต้นในการตรวจร่างกายพบว่ากระดูกข้อต่อกรามด้านซ้ายหัก ได้ทำการผ่าตัดยึดกระดูกฟันล่างและบนให้ติดกัน และพักฟื้น อาการโดยรวมปลอดภัยดี รอให้กระดูกติดให้ดี แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 20 เม.ย. อาการตอนนี้ผู้ป่วยพูดได้ในบางคำที่ไม่ต้องอ้าปาก เพราะเรายึดกระดูกฟันบนกับล่างไว้”
“นอกจากกรามหัก มีรอยช้ำตามร่างกายเล็กน้อย สามารถทานอาหารอ่อน ๆ ได้ ทานโจ๊ก หรือนมได้ ต้องรอระยะเวลา และกายภาพบำบัดให้ใกล้เคียงปกติ สภาพจิตใจคนไข้เท่าที่ประเมิน สื่อสารได้ สีหน้าเงียบขรึม คาดว่า ไม่น่าจะมีปัญหา กว่าจะอาการปกติน่าจะใช้เวลา 4 - 6 สัปดาห์”