MGR Online - ทหารนำตัว “บุญเลิศ-ทัศนีย์” พร้อมพวก 11 คน ผู้ต้องหาแพร่จดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญส่งตำรวจกองปราบฯ หลังควบคุมตัวครบ 7 วัน แจ้ง 3 ข้อหาหนัก สร้างความปั่นป่วนในราชอาณาจักร-ร่วมกันเป็นซ่องโจร-เผยแพร่ข้อความเท็จบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนคุมตัวส่งดำเนินคดีที่เชียงใหม่ เผยแผนผัง 4 กลุ่มป่วนระบุสองพี่น้องนักการเมืองดังเชียงใหม่เป็นผู้บงการ
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ และเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.11 นำตัวกลุ่มผู้ต้องหา 10 ราย ที่มีความเกี่ยวโยงกระทำความผิดฐานเผยแพร่จดหมายทางไปรษณีย์ในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีเนื้อหาในลักษณะบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย 1. นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ 2. น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ รอง นายก อบจ.เชียงใหม่ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย 3. นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรี ต.ช้างเผือก 4. นายอติพงษ์ คำมูล 5. น.ส.เอมอร ดับโศรก 6. นางสุภาวดี งามเมือง 7. นายเทวรัตน์ วินต้า 8. นางกอบกาญจน์ สุคีตา 9. นายกฤตกร โพทะยะ และ 10. น.ส.ธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ มาส่งมอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. หลังควบคุมตัวครบ 7 วันตามอำนาจการคุมตัว
โดยขั้นตอนในการรับมอบตัวผู้ต้องหานั้น แพทย์จาก รพ.ตำรวจได้ตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานว่าผู้ต้องหาไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างควบคุมตัว ก่อนให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาศาลฝากขังภายในวันนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ได้แก่ (1. ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2. ร่วมกันเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 และ (3. ร่วมกันเผยแพร่ข้อความที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือกล่าวหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 มาตรา 61 วรรคสอง
ต่อมาที่ห้องประชุมชิวปรีชา กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พล.ต.วิจารณ์ จดแตง พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ร่วมแถลงผลการจับกุมและแจ้งข้อหาพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหาที่ส่งจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 11 คน โดยนายวิศรุต คุณะนิติสาร ได้ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้อีกราย
พล.ต.ต.ชยพลเปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12-15 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งจากที่ทำการไปรษณีย์ว่าพบจดหมายลักษณะเป็นพิรุธ ติดแสตมป์จ่าหน้าซองระบุที่อยู่ผู้รับ-ส่งลงในตู้ไปรษณีย์หลายจุดใน จ.ลำปาง ลำพูน และเชียงใหม่ ทาง กกต.ได้นำจดหมายไปตรวจสอบพบว่ามีเนื้อหาบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงาน สภ.แม่ปิง เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มคนที่จัดทำจดหมายขึ้นมา นำไปสู่การสืบสวนสอบสวน โดยทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ดูแลคดีดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ขณะที่ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ตั้งชุดสืบสวน
จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสาร การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่านายวิศรุต คุณะนิติสาร เป็นหนึ่งในผู้กระทำความผิด ก่อนที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ 473/59 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2559 จะออกหมายจับนายวิศรุตในข้อหาเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่ โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตาม ม.61 (2) พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 กระทั่งตำรวจกองปราบปรามสามารถจับกุมตัวนายวิศรุตนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี จากการสอบสวนนายวิศรุตให้การการรับสารภาพและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
พล.ต.ต.ชยพลกล่าวต่อว่า การสอบปากคำนายวิศรุตนำไปสู่การขยายผลสอบปากคำลูกจ้างของบริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือก และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจนทราบว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน แบ่งหน้าที่กันทำ ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม พ.อ.บุรินทร์เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มคนที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งหลังจากสืบสวนทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มผู้บงการ ประกอบด้วย นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์, น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์, นายไพรัช ใหม่ชมภู และนายคเชน เจียกขจร เป็นผู้ควบคุม สั่งการ วางแผนยุยงปลุกปั่นประชาชน จัดสถานที่ในการจัดทำเอกสารจดหมายบิดเบือน กำหนดเนื้องหาที่บิดเบือน กลุ่มเป้าหมายของประชาชนที่จะจัดส่งจดหมาย และการออกค่าใช้จ่ายในการทำจดหมาย
พล.ต.ต.ชยพลกล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มพิมพ์เอกสารจ่าหน้าซอง และผลิตจดหมาย ประกอบด้วย นายวิศรุต คุณะนิติสาร, น.ส.เอมอร ดับโศรก, น.ส.สุภาวดี งามเมือง และนางณชพัฒน์ หรือกอบกาญจน์ สุตีคา มีหน้าที่ในการจัดพิมพ์เอกสาร 3. กลุ่มผู้ส่งจดหมาย ประกอบด้วย นายอดิพงษ์ คำมูล, นายกฤตกร โพทะยะ, น.ส.เอมอร, นายวิศรุต และนายเทวรัตน์ รินต้า (กร) มีหน้าที่ในการนำจดหมายไปส่งให้ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และ 4. กลุ่มผู้ช่วยเหลือซ่อนเร้น ประกอบด้วย น.ส.ธารทิพย์ บูรณุปกรณ์ กับพวก ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวก ให้การสนับสนุนกลุ่มส่งจดหมายให้หลบหนี กระทั่งศาลมณฑลทหารบกที่ 33 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 11 ราย ในข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร, ปลุกปั่น ยุยงส่งเสริม ให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ตาม ม.116 และความผิด ม.61 (2) พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าฝ่ายความมั่นคงของทหารได้เชิญตัวผู้ต้องหา 10 คน ยกเว้นนายวิศรุตที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และนายเทวรัตน์ รินต้า หรือกร ที่กำลังหลบหนี มาซักถามและควบคุมตัวที่ มทบ.11 กระทั่งวันที่ 2 สิงหาคมได้ครบกำหนดส่งตัวทั้ง 10 คนให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามขั้นตอน
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐานที่ชี้ชัดในการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหานั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอยู่ในสำนวน และจากการสอบถามบุคคลที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 10 คนรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยขั้นตอนการรับตัวจากทหารในวันนี้ได้ให้แพทย์จาก รพ.ตำรวจมาตรวจสอบร่างกายก่อนจะนำตัวขึ้นเครื่องบินไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และมอบหมายให้ พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ผบช.ภ.5 ดำเนินการต่อไป
ในส่วนของการตรวจร่างกายนั้น พ.ต.ท.ธัญลักษณ์ ธุดี นายแพทย์ (สบ 3) กลุ่มงานศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายผู้ต้องหาทั้งหมดไม่พบร่องรอยบาดแผลการทำร้ายร่างกาย แต่พบว่ามีผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายกฤตกร โพทะยา มีอาการความดันโลหิตสูง และนางสุภาวดี งามเมือง เป็นโรคเบาหวาน และมะเร็งเต้านม
ขณะที่นายบุญเลิศกล่าวว่า ขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่าระหว่างการแถลงพฤติการณ์การกระทำความผิด รวมทั้งระบุถึงข้อกล่าวหาทั้ง 10 คนนั้น ตำรวจได้แสดงแผนผังพฤติการณ์การแบ่งหน้าที่การกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหา
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงข่าวถึงกรณีการดำเนินการต่อ น.ส.ทัศนีย์ กับพวกว่า พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ได้มารับตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินการที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะมีการส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนกรณีความเคลื่อนไหวของบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการออกเสียงประชามติฯ ยังไม่พบ ในส่วนของการพ่นสีเขียนป้ายข้อความต่างๆ ไว้ที่บริเวณพื้นถนน กำแพงมัสยิด รั้วโรงเรียน ป้ายบอก ชื่อหมู่บ้านและข้างอาคารของหน่วยราชการประจำตำบลหรือหมู่บ้านเมื่อช่วงวันที่ 31 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม ในพื้นที่ จ.ยะลานั้น ทาง กกต.ได้เข้าร้องทุกข์แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่นั้นต้องทำการตรวจสอบเสียก่อน เช่นเดียวกับสีสเปรย์ที่ถูกพ่นซึ่งเป็นสีแดงต้องตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากการตรวจสอบการกระทำดังกล่าวน่าจะทำเป็นกลุ่มบุคคล ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งประเทศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ไม่น่ามีปัญหาใดๆ สำหรับความพร้อมของตำรวจนั้นได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่มานานแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว และจะคอยเน้นย้ำอยู่เรื่อยๆ