MGR Online - ค้นบ้านอดีตสามีเศรษฐินี จ.อุดรธานี พบสมุดบัญชีเชื่อเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดิน 8 ล้านบาท ขัดคำให้การต่อพนักงานสอบสวนกองปราบฯ เผย 3 วันทราบผลสอบ พ.ต.ท.ชิตชัย รอง ผกก.ป.สภ.คลองพิไกร อดีตสามีนางไก่
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่กองปราบปราบปราม พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.กล่าวว่า หลังจากมอบหมายให้ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. สอบปากคำนายปิติ ตั้งวิริยะกุล อดีตสามีนางฉวีรรณ ตั้งวิริยะกุล หรือนางฉวีวรรณ สุขากันยา เศรษฐินีใน จ.อุดรธานี พร้อมทั้งให้ตำรวจ กก.3 บก.ป.ลงพื้นที่ จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี สอบปากคำพยานแวดล้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง และญาติของนางฉวีวรรณแล้วพบว่า ยังมีรายละเอียดบางส่วนไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินมูลค่ากว่า 8 ล้านบาทที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเมื่อนายปิติได้รับโอนที่ดินดังกล่าวมาจากนางฉวีวรรณก่อนที่นายปิติจะให้การว่ามอบอำนาจให้นางไก่นำไปขายต่อและดำเนินการโอนนั้น ต้องตรวจสอบว่าขายให้แก่บุคคลใด โอนให้บุคคลใด ในราคาเท่าใด รายละเอียดส่วนนี้ต้องลงพื้นที่ไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่ดิน เนื่องจากในเอกสารการโอน หรือการซื้อขายต้องระบุรายละเอียดข้อมูลไว้ คาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะมีความชัดเจนขึ้น
พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคดีที่นางไก่ถูกฟ้องล้มละลาย เมื่อปี 2546 นั้น เบื้องต้นยังสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หารายละเอียดอยู่ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.สั่งการให้ตำรวจ กก.4 บก.ป.ไปสอบปากคำ พ.ต.ท.ชิตชัย แสงอรุณ รอง ผกก.ป.สภ.คลองพิไกร จ.กำแพงเพชร อดีตสามีนางไก่แล้ว ภายใน 1-2 วันนี้ น่าจะทราบผล
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากการสอบปากคำนายปิติ ตั้งวิริยะกุล อดีตสามีนางฉวีรรณ เศรษฐินี จ.อุดรธานี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ รวมทั้งค้นบ้านพักของนายปิติภายในซอยบรมราชชนนี 70 ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สูง 3 ชั้น ก็พบทะเบียนสมรส และสมุดบัญชี 1 เล่ม จากการตรวจสอบพบตัวเลขในบัญชีที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวโยงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายปิติให้การว่าไม่เคยได้รับเงินจากการขายที่ดินที่นางไก่ไปดำเนินการให้แม้แต่บาทเดียว
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนพบความขัดแย้งในคำให้การของนายปิติ กับข้อมูลและพยานเอกสารที่ชุดสืบสวนตรวจสอบพบ โดยนายปิติให้การว่า นพ.อุดม เจ้าของคลินิกหมออุดมที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แพทย์ผู้รักษานางฉวีวรรณเป็นผู้จัดการทุกอย่าง ทั้งเรื่องการแจ้งตาย การจัดงานฌาปนกิจศพ ซึ่งขัดกับข้อมูลที่พบว่านางไก่เป็นผู้ดำเนินการแจ้งตาย และเหตุใดนายปิติจึงไม่แจ้งข่าวการเสียชีวิตของอดีตภรรยาให้ทางญาติทราบ อีกทั้งประเด็นข้อสงสัยปมที่ดินมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท หลังการเสียชีวิตของนางฉวีวรรณมีการฟ้องร้องกันระหว่างญาติของนางฉวีวรรณ และนายปิติ รวมทั้งนางไก่ และศาลตัดสินให้ฝั่งนายปิติชนะคดี ว่า เหตุใดจึงมีความจำเป็นที่ต้องรีบขายที่ดินแปลงดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายปิติต้องการที่จะสร้างบ้านให้นางฉวีวรรณบนที่ดินผืนนั้น รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างนายปิติและนางไก่ว่านับถือเป็นพ่อ-ลูกบุญธรรมกันจริงหรือไม่
