MGR Online - ผบก.ป.สั่งสอบ “หญิงไก่” พฤติกรรมแอบอ้างเป็นคุณหญิง เข้าข่ายผิด ม.112 หรือไม่ พร้อมสั่งรื้อคดีเก่าที่เกิดในท้องที่ สน.ประชาชาชื่น ตั้งแต่ปี 54-59 รวม 9 คดี มีลักษณะคล้ายคดี “น้องก้อย” ด้านทนายพาแม่น้องก้อยเข้าให้ปากคำโยงเอาผิดค้ามนุษย์ เผยมีผู้เสียหายอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกชวนทำงานในบ่อนการพนันต่างประเทศในลักษณะรับใช้แขกระดับสูง เชื่อมีผู้ร่วมขบวนการเป็นระดับ ส.ส. ตำรวจยศนายพล-ทหาร เอื้อกระทำผิด
วันนี้ (6 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 08.30 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น. 2 พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท. พ.ต.ท.ณัฐปกรณ์ ปัญญาดี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป และพ.ต.ต.ธนวัฒน์ หลีพงษ์ สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ประชุมเพื่อวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีหญิงไก่ หรือนางมณตา หยกรัตนกาญ อดีตนายจ้างที่แจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างในข้อหาลักทรัพย์ โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในที่ประชุมได้มีการวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนร่วมกันระหว่างทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีความของหญิงไก่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยทา งพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้สั่งการให้ดูสำนวนคดีที่เกิดขึ้นของนครบาล ขณะนี้พบว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554-2559 มีคดีความของหญิงไก่ในท้องที่ สน.ประชาชื่น รวมทั้งสิ้น 9 คดี และให้ตรวจสอบพยานหลักฐานให้ชัดเจน นอกจากนี้ให้ตรวจสอบคดีความที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกรณีของน้องก้อยให้ประสานข้อมูลมายังกองปราบปราม
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ฐิติราช ได้มีคำสั่งเร่งรัดให้ตรวจสอบกรณีที่นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ มีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นคุณหญิง อีกทั้งให้ตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่นั้น ทาง พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริง หากพบว่าการกระทำความผิดก็จะดำเนินการทันที ซึ่งมีรายงานว่าชุดสืบสวนพบว่าหญิงไก่มีพฤติกรรมในการแอบอ้างตัวเป็นคุณหญิง มีผู้เสียหายหลายราย โดยอยู่ระหว่างการติดตามผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพื่อเป็นพยาน
มีรายงานอีกว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้สั่งการให้ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับทางกองปราบปราม โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ตั้งทีมสืบสวนตรวจสอบคดีของหญิงไก่เพื่อหาข้อเท็จจริง โดยไม่รวมคดีของน้องก้อย เนื่องจากอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปรามแล้ว ขณะเดียวกัน ให้ประสานขอสอบปากคำผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามเพื่อนำมาประกอบสำนวนในการตรวจสอบ อีกทั้งในส่วนของการรื้อคดีของหญิงไก่ในรายอื่นๆ นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าสามารถรื้อคดีได้หรือไม่ มีการติดขัดในข้อกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ให้ตรวจสอบข้อมูลกับทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังพบว่ามีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนพฤติกรรมของหญิงไก่ โดยให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายมีพฤติกรรมการค้ามนุษย์หรือไม่
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่กองปราบปราม นายกมลศักดิ์ ศรีประเสริฐ ทนายความ เดินทางมาพร้อม น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย และพ่อแม่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีการทำงานในฐานะอดีตลูกจ้างของหญิงไก่ ถึงหน้าที่ในขณะที่ทำงานอยู่และเข้าหารือถึงแนวทางการดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆ เช่น ข้อหาการค้ามนุษย์ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่าหญิงไก่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายลักษณะการค้ามนุษย์
นายกมลศักดิ์กล่าวว่า ในคดีนี้พบผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก 6-7 ราย โดยหนึ่งในนั้นถูกพาไปทำงานที่ประเทศลาวประมาณ 2 ปี และตรวจสอบพบว่าในขณะที่พาไปทำงานมีอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงยังพบหลักฐานอีกว่าหญิงไก่มีการชักชวนหญิงสาวไปทำงานที่ฮ่องกง พม่า กัมพูชา และลาว ในลักษณะงานปรนนิบัติแขกระดับสูงของบ่อนการพนัน
ขณะเดียวกัน น.ส.ประภาวรรณได้ระบุด้วยว่า ขณะทำงานกับหญิงไก่เคยเห็นหนังสือเดินทางของหญิงสาว ประมาณ 20 เล่มอยู่ภายในบ้านพักของหญิงไก่ ก่อนที่หญิงไก่เล่าให้ฟังว่าหนังสือเดินทางทั้งหมดเป็นของหญิงสาวที่เคยทำงานกับตนเอง ซึ่งน้องก้อยยังบอกอีกว่าหนังสือเดินทางหลายเล่มนั้นมีทั้งเล่มสีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว และเป็นที่น่าสังเกตว่าบุคคลทั่วไปจะมีหนังสือเดินทางมากมายขนาดนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ผู้เสียหายได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นว่ามีองค์ประกอบเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์หรือไม่ และคดีความผิดอาญาอื่นๆ ที่สามารถดำเนินคดีต่อนางมณตาได้อีกหรือไม่ ในส่วนของคดีการค้ามนุษย์นั้นยังมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ต้องร่วมตรวจสอบด้วย โดยขณะนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ซึ่งร่วมสอบปากคำอยู่ด้วย
สำหรับพยานที่จะเอาผิดในข้อหาค้ามนุษย์ส่วนใหญ่ยังคงเป็นพยานบุคคล และพวกเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนพยานหลักฐานเอกสารอื่นๆ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ที่ผ่านมานางมณตามักจะกล่าวอ้างถึงบุคคลต่างๆ ว่ารู้จักคนนั้นคนนี้ มักจะบอกกับคนอื่นว่าตนเป็นคุณหญิง ตามที่สื่อมวลชนได้รับทราบดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องการที่คนที่เคยทำงานรับใช้ต้องหมอบกราบ คลานเข้าไปหาลักษณะนี้ ส่วนกรณีนี้จะเข้าข่ายแอบอ้างเบื้องสูงด้วยหรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน บก.ป. ในส่วนของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของนางมณตาซึ่งแอบอ้างตัวเป็นคุณหญิงนั้น ทางทีมทนายความก็มีหลักฐานในส่วนนี้อยู่ มีทั้งในส่วนของ น.ส.ประภาวรรณ กับมารดา รวมทั้ง น.ส.จันทนา คชคงไทย หรือหนูนา และผู้เสียหายรายอื่นๆ ซึ่งยังไม่อยากจะเปิดเผยตัวอีก 4-5 ราย อย่างไรก็ตาม พบข้อมูลหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าหญิงไก่ไม่ได้ทำงานเพียงคนเดียว อาจจะมีบุคคลระดับสูง เช่น ส.ส. นักการเมืองท้องถิ่น นายตำรวจยศนายพล และนายทหาร เข้ามาเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือให้เกิดการกระทำผิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) ทีมทนายจะพาผู้เสียหายจาก จ.พะเยา เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อหญิงไก่เพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปราม
สำหรับคลิปวิดีโอที่มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในคลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ในห้องพักของนางมณตา มีนางมณตา หญิงรายหนึ่ง และลูกจ้างชื่อกระปุ๊ก ซึ่งคลิปดังกล่าวทางเราได้ทำมายืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดภายในห้อง เพราะฉะนั้นเอกสารหลักฐานที่จะมายืนยันว่าขโมย หรือไม่ขโมย ทางนางมณตาก็ควรจะต้องมีกล้องวงจรปิดในห้องเป็นเครื่องยืนยันด้วยเช่นกัน หาก น.ส.ประภาวรรณเข้าไปในห้องจริง หยิบขโมยของไปจริงก็ต้องมีภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่ใช่เอาภาพจากทางเดิน จากลิฟต์มาโชว์เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม หากนางมณตาปฏิเสธว่ามีการติดกล้องภายหลังเหตุการณ์ก็ขอให้หาพยานหลักฐานมาให้ได้ เพราะนางมณตาก็พูดอยู่ตลอดเวลาว่ามีหลักฐานชัดเจน