xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “สิทธินันท์” เพื่อนอดีต ปธ.เพื่อนตำรวจ เอี่ยวร่วมกันทุจริต สกสค.กว่า 2,500 ล้านบาท อ้างไม่มีส่วนรู้เห็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - นครบาลรวบ “สิทธินันท์” เพื่อน “เสี่ยบิ๊ก” อดีต ปธ.สโมสรเพื่อนตำรวจ ตามหมายจับ เอี่ยวคดีร่วมกันทุจริตกู้ยืมเงิน สกสค.กว่า 2,500 ล้านบาท เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ด้าน น.1 ไม่ปักใจเชื่อ ลักษณะนี้ถือว่ามีผลประโยชน์ร่วมกัน เตรียมสอบสวนอย่างละเอียด

วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต ควบคุมตัวนายสิทธินันท์ หรือต้น หลอมทอง อายุ 36 ปี กรรมการบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 89/2559 ลง 15 ม.ค. 2559 เข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 เพื่อทำการสอบปากคำกรณีเกี่ยวโยงกับนายสัมฤทธิ์ หรือเสี่ยบิ๊ก บัณฑิตกฤษดา อายุ 40 ปี นักธุรกิจเจ้าของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด และอดีตประธานบริหารสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ที่ถูกจับกุมไปเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2559

เนื่องจากพบว่ามีการกู้เงินกับกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 3 ครั้ง มูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาท แต่ต่อมาทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้มีการตรวจสอบพบว่าไม่ได้มีการทำเรื่องกู้ที่ถูกต้องตามขั้นตอน เนื่องจากการกู้ยืมดังกล่าวไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจาก สกสค. และยังพบว่าเอกสารที่ใช้ในการกู้ยังเป็นเอกสารปลอม ไม่สามารถใช้เป็นเอกสารหรือหลักฐานในการค้ำประกันเงินกู้ได้จริง ต่อมาได้มีการร้องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบ จนได้มีการดำเนินคดีต่อ นายสัมฤทธิ์ หรือเสี่ยบิ๊ก

จากนั้นตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวผู้ร่วมขบวนการจนพบเบาะแสว่านายสิทธินันท์หลบหนีมาอยู่ในย่านบางกอกน้อย กระทั่งตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต ได้ประสานตำรวจ กก.สส.บก.น.9 และตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกันนำกำลังจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 139 ถ.บรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เวลาประมาณ 17.30 น.ที่ผ่านมา ก่อนทำการควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1)

ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า นายสิทธินันท์เกี่ยวข้องกับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยเข้าไปเกี่ยวข้องโดยมีชื่อในใบเซ็นเช็คจนเกิดความเสียหาย แต่เขาปฏิเสธว่าทำตามที่นายสัมฤทธิ์เป็นคนสั่งการ โดยว่าจ้างไปกู้เงิน มีการขอบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีแล้วเอาไปหลอกลวงต้มตุ๋น ซึ่งนายสิทธินันท์จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะวิญญูชนต้องมีสติสัมปะชัญญะ มีความรอบคอบ แบบนี้ถือว่ามีเจตนาทุจริตและได้ผลประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้ว เบื้องต้นสอบสวนนายสิทธินันท์ให้การภาคเสธ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตำรวจต้องทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม, ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามยอด และร่วมกันออกเช็ค ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันพึงให้ใช้เงินได้ และธนาคารปฎิเสธการใช้เงินตามเช็คนั้น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น