ลูกหนี้ กยศ. - กรอ. หนาว! ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี สั่งทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ไปสรุปวิธีสนับสนุนเงินแบบให้เปล่าช่วยเหลือเด็กยากจน หลังพบมีเด็กออกจากระบบมาช่วยพ่อแม่ทำงาน พร้อมเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. กองทุนเพื่อการศึกษา เอาสองกองทุนมารวมกัน เปิดช่องจ้างนิติบุคคตามทวงหนี้ และให้นายจ้างส่งข้อมูลพนักงาน และหักเงินได้พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินได้
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ไปสรุปวิธีช่วยเหลือเด็กยากจนได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือต่อด้วยการสนับสนุนเงินแบบให้เปล่า หลังจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอแนวคิดว่า ในช่วง 1 - 2 ปีนี้ เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวอยู่ จนอาจมีเด็กที่ฐานะยากจนต้องออกจากระบบการศึกษามาช่วยพ่อแม่ทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ จึงอยากหาทางช่วยเหลือ
โดยให้หน่วยงานรัฐไปตรวจสอบ ว่า มีเงินอะไรบ้างที่สามารถเข้ามาช่วยได้ เพื่อจะให้เด็กยากจนได้มีโอกาสเรียนหนังสือต่อไป โดยการช่วยเหลือก็ไม่ใช่ให้เงินกู้ แต่จะให้เงินไปเลย เพื่อเอาไปช่วยเหลือเด็กที่ยากจนในช่วงเวลาเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา ซึ่งก็ตรงตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่อยากให้เด็กยากจนอยู่ในระบบการศึกษายาวนานขึ้น มีวุฒิภาวะ มีความรู้ และมีรายได้มาดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ยังเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นการควบรวมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) เข้าด้วยกัน และช่วยแก้ปัญหาการติดตามการชำระหนี้ของผู้ที่กู้ยืมเงินกองทุนไปแล้วไม่ยอมคืนกว่า 2 ล้านคน คิดเป็นเงินกว่า 52,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นข้าราชการ
โดยกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการกองทุนหนึ่งชุด และมีผู้จัดการกองทุนที่สามารถไปจ้างสถาบันการเงินหรือนิติบุคคล เข้ามาบริหารเงินและตามทวงหนี้ได้ พร้อมกับกำหนดให้ผู้กู้ยืมเงินต้องยินยอมให้กองทุนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินและการจ่ายคืน รวมทั้งให้ยินยอมในขณะทำสัญญากู้ยืมเงินด้วย
ขณะเดียวกัน เมื่อผู้กู้ยืมเข้าทำงานในหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนก็ให้นายจ้างส่งข้อมูลของผู้ที่ทำงานให้กองทุนตรวจสอบว่า เป็นผู้กู้ยืมเงินกองทุนหรือไม่ และให้นายจ้างสามารถหักเงินได้พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินในลำดับเดียวกับหนี้ค่าภาษีอากร แต่การหักเงินนั้นจะดูตามความเหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของผู้กู้