xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” อดสอบปากคำ “สมเด็จช่วง” ทนายไล่ไปสรุปประเด็นคำถามมาใหม่ (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ทนายเผยยังไม่อนุญาต “ดีเอสไอ” สอบปากคำ “สมเด็จช่วง” บอกให้ไปสรุปคำถามมาใหม่ โดยต้องถามเฉพาะประเด็นที่เจ้าอาวาสวัดปากน้ำทราบเท่านั้น โดยจะตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 1 สัปดาห์หลังจากเอกสารส่งมาถึงวัด


จากกรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอนัดหมายเดินทางไปสอบปากคำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรณีเป็นผู้ครอบครองรถเบนซ์โบราณ หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 16 มี.ค. เวลา 20.00 น. ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (16 มี.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. บรรยากาศภายในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พุทธศาสนิกชนยังคงเข้ามาทำบุญตามปกติ โดยไม่มีกลุ่มสนับสนุนหรือคัดค้านแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่วัดได้จัดเตรียมสถานที่รองรับสื่อมวลชนบริเวณชั้น 2 ของพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลซึ่งคาดว่าจะมาเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเวลา 17.30 น. นายสมศักดิ์ โตรักษา หัวหน้าทีมกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่าสมเด็จช่วงจะลงมาพูดคุยกับดีเอสไอด้วยตัวเอง แต่จะเป็นการหารือเพื่อกำหนดกรอบในการสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องกับความผิดในการจัดซื้อรถยนต์จดประกอบในขั้นตอนใดบ้าง แต่จะยังไม่อนุญาตให้ดีเอสไอทำการสอบปากคำสมเด็จช่วงตามที่ร้องขอ และหากดีเอสไอต้องการให้เกิดความรวดเร็วในการสืบสวนต้องทำหนังสือถึงสมเด็จช่วงว่าจะมาสอบปากคำอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มาของเงินซื้อรถเบนซ์โบราณจำนวน 4 ล้านบาทนั้น ผู้มีจิตศรัทธาได้มอบเงินสดผ่านโครงการซื้อรถโบราณจำนวน 1 ล้านบาทแด่สมเด็จช่วงโดยตรง เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งเป็นการบริจาคส่วนตัวจึงไม่มีใบอนุโมทนาบัตร แต่มีหลักฐานการสั่งจ่ายเช็คชัดเจน โดยผู้บริจาคได้เข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอแล้ว ส่วนเงินอีก 3 ล้านบาทได้มาจากการรวบรวมจากผู้มีจิตศรัทธาผ่านโครงการซื้อรถโบราณเช่นกัน โดยมอบให้พระมหาศาสนามุนี หรือหลวงพี่แป๊ะเป็นผู้ดำเนินการ

จากนั้นเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมดีเอสไอ ในฐานะตัวแทน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พร้อมทีมสอบสวน ประกอบด้วย อัยการ 2 คนกับทีมพนักงานสอบสวน สำนักภาษีอากร 5 คน รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางโดยรถตู้มาถึงวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเข้าพบสมเด็จช่วงทันที นอกจากนี้ ทางวัดได้กันพื้นที่สื่อมวลชนรออยู่บริเวณด้านนอกทั้งหมดซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

หลังการพูดคุยเสร็จสิ้น นายสมศักดิ์ โตรักษา หัวหน้าทีมกฎหมายวัดปากน้ำ แถลงข่าวที่ห้องโถงชั้น 2 พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล โดยดีเอสไอไม่ได้ร่วมแถลงด้วย

นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่พนักงานสอบสวนของดีเอสไอเข้าพบสมเด็จช่วงเพื่อให้ถ้อยคำในฐานะพยาน โดยได้หารือในการกำหนดกรอบประเด็นคำถามที่ทางดีเอสไอจะสอบปากคำ ซึ่งดีเอสไอจะตั้งคำถามเป็นรายประเด็นไป โดยประเด็นคำถามหลักจะเน้นไปที่เช็คและเงินบริจาคเป็นหลัก ในประเด็นนี้สมเด็จช่วงสามารถชี้แจงได้หมด นอกจากนี้จะมีประเด็นการลงนามทะเบียนรถ เอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับตัวรถ และการจดประกอบ อุปกรณ์การจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งในส่วนการจัดซื้อจัดจ้างสมเด็จช่วงอาจจะทราบหรือไม่ทราบในรายละเอียด โดยดีเอสไอจะต้องกำหนดประเด็นคำถามที่สมเด็จช่วงสามารถชี้แจงและให้คำตอบได้

ทั้งนี้ ทางสมเด็จช่วงจะตอบข้อซักถามเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มีบางส่วนที่ทางพนักงานสอบสวนต้องการให้เป็นถ้อยคำจากสมเด็จช่วง คือ เรื่องลายมือชื่อท่าน โดยทางสมเด็จช่วงก็ยินดีให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน และอยากให้คดีนี้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ส่วนทางดีเอสไอจะส่งเอกสารประเด็นสอบมาถึงวัดเมื่อไหร่ ทางวัดจะตอบข้อซักถามชี้แจงกลับไปภายใน 1 อาทิตย์

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า การเข้าพูดคุยในวันนี้ดีเอสไอไม่ได้เข้าพบสมเด็จช่วงเพียงลำพัง โดยดีเอสไอมี รองอธิบดีดีเอสไอ และชุดพนักงานสอบสวนประมาณ 10 คน ส่วนทางวัดมีทีมทนายและพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 5 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เข้ารับฟังและปรึกษาหารือด้วย นอกจากนี้ ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ไม่กังวลและจะทำให้กระจ่าง เชื่อว่าหลักฐานน่าจะเพียงพอ




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น