ผู้สื่อข่าวบุกชม “โครงกระดูกพญานาค” ถึงวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี เผยของจริงยาวประมาณ 20 ซม. เท่านั้น ในคลิปที่เผยแพร่กันเป็นการซูมทำให้ดูตัวใหญ่ ด้านคนงานก่อสร้างที่พบซากดังกล่าวยันไม่ใช่พญานาคแต่เป็นแค่งู คนจินตนาการกันเอง
วันที่ 8 มี.ค. 59 เมื่อเวลา 18.00 น. มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดเขมาภิรตาราม หมู่ 8 ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อขอดูซากกระดูกสัตว์เลื้อยคลานที่พบใต้ฐานพระมหาเจดีย์ ซึ่งมีการนำภาพโครงกระดูกดังกล่าวไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียพร้อมบิดเบือนให้เข้าใจกันว่าเป็นโครงกระดูกพญานาค
ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบพระมหาเจดีย์ตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าวัด เป็นเจดีย์เก่าสมัยอยุธยา โดยพระเจ้าอู่ทองเป็นผู้สร้าง มีขนาดกว้างประมาณ 25 เมตร ยาว 25 เมตร สูง 30 เมตร ใต้ฐานเจดีย์มีช่องความสูงประมาณ 1.50 เมตร จำนวนหลายช่อง สามารถเดินเข้าไปถึงช่องสูงใจกลางเจดีย์ที่เป็นช่องสูงถึงปลายยอดเจดีย์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการบูรณะพระมหาเจดีย์ทั้งด้านในและด้านนอก
ผู้สื่อข่าวได้ขอดูช่องที่มีคนงานก่อสร้างพบซากกระดูกสัตว์เลื้อยคลาน พบว่า เป็นช่องขนาดเล็กกว้างประมาณ 5 ซม. และยาวประมาณ 10 ซม. ซึ่งเปิดไว้สำหรับนำดวงไฟส่องสว่างเข้าไปติดตั้ง ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบคนงานได้ทำการปิดช่องเพื่อเตรียมประกอบดวงไฟแล้ว ส่วนภาพที่ถ่ายแล้วนำไปโพสต์นั้นเป็นภาพที่พบซากกระดูกเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีโครงกระดูก 2 โครง มีขนาดความยาวประมาณ 20 ซม. เท่านั้น ที่เห็นในโซเชียลเป็นมุมกล้องที่คนถ่ายซูมเข้าไปจึงทำให้คิดว่าตัวใหญ่
พระสมยศ ธีรวํโส พระลูกวัดเขมาภิรตาราม ผู้ดูแลพระอุโบสถและพระมหาเจดีย์ เปิดเผยว่า วัดกำลังบูรณปฏิสังขรณ์ ช่างมีการซ่อมไฟเลยเจาะเข้าไปก็เจอซากงู ขนาดประมาณ 1 ช่องอิฐไม่ใหญ่มาก ส่วนภาพที่เผยแพร่ออกไป เขาใช้กล้องซูมเข้าไปทำให้ลักษณะดูใหญ่ ซากมีขนาดยาวประมาณ 20 ซม. จำนวน 2 ตัว มีประชาชนมาดูไม่มาก ส่วนใหญ่จะชมในโซเชียล ซึ่งน่าจะเป็นงูหลาม หรืองูสิง ไม่มีทางเป็นพญานาค ถ้าพญานาคเข้าไปเจดีย์ก็คงพัง
นายอัครเดช เอกตะวัน อายุ 24 ปี คนงานก่อสร้างที่พบโครงกระดูกดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนกำลังเจาะปลั๊กไฟก็เลยเจอ เห็นเป็นซากงู เลยเอาโทรศัพท์เข้าไปถ่าย ไม่ใช่พญานาคเป็นซากงูเก่า แล้วแต่คนจินตนาการ