MGR Online - ผบ.ตร.สั่งปราบผู้มีอิทธิพลตามนโยบาย คสช.ว่าด้วย 16 ฐานความผิด ผสานกำลัง 3 ฝ่าย ทั้งกรมการปกครอง ตำรวจ ทหาร เข้าดำเนินการ ยอมรับมีบัญชีดำนับพันราย
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งการให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ โดยให้เห็นผลภายใน 6 เดือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้มีคำสั่ง 324/2558 ลงวันที่ 29 ต.ค. 2558 ให้ตั้งคณะกรรมการเรื่องการบูรณาการปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ในส่วนของคณะกรรมการมีหลายท่าน โดยตนเองก็เป็นคณะกรรมการด้วย ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2558 และในวันที่ 4 มี.ค. 2559 นี้ ก็จะเป็นวันสุดท้ายของการระดมกวาดล้างปราบปรามผู้มีอิทธิพล
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สำหรับฐานของความผิดผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นนั้น คณะกรรมได้มีการรวบรวมไว้ 16 ฐานความผิด เกี่ยวกับอิทธิพลการเมืองท้องถิ่น โดยมีการปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นทั้งหมด ซึ่งไปรบกวนวิถีชีวิตและก่อความวุ่นวายของประชาชนที่ใช้ชีวิตแบบปกติสุข เรามีหมดทั้งทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้อง รวมถึงพลเรือน โดยเรามีการสนธิกำลังกันทั้ง 3 ฝ่าย คือ ปกครอง ตำรวจ ทหาร ลงไปดำเนินการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน ในส่วนของตำรวจได้มีการเรียกผู้มีอิทธิพลมาพูดคุย และจับกุมตามหมายจับเก่าทั้งหลายใน 16 ฐานความผิดที่คณะกรรมการได้ตั้งไว้ โดยได้มีการระดมกวาดล้างในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 77 จังหวัด ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
เมื่อถามว่ามีการระดมกวาดล้างแบบนี้แล้ว แต่ในบางพื้นที่ยังมีเหตุการณ์ประชาชนถูกขมขู่และก่อเหตุอีก ในส่วนนี้ตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่จะรับผิดชอบอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนเชื่อว่าปัญหาน้อยลงแล้ว ส่วนเป้าหมายที่กำหนดลงไปมีประมาณกี่คนที่เฝ้าสังเกตอยู่นั้น ยอมรับว่ามีเป็นพันคน ส่วนผลการจับกุมมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็อย่างที่ปรากฏอยู่ตลอดเวลา ขณะที่แหล่งท่องเที่ยว พัทยา ภูเก็ตนั้น เราได้มีการเน้นย้ำมาตราการปราบปรามมาตลอด และมีการปราบปรามจับกุมมาตลอด โดยเฉพาะผู้ที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว