MGR Oline - “ดีเอสไอ” เตรียมนำ 4 แนวทาง เสนอที่ประชุมคณะทำงานสระแก้วโมเดล แก้ไขสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตลาดโรงเกลือ 9 ก.พ. นี้
วันนี้ (5 ก.พ.) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะดูแลสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เข้าตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ภายในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่กลับถูกพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชารุมทำร้าย ว่า ทางดีเอสไอจะเดินทางไปร่วมประชุมหารือกับคณะทำงาน หรือ สระแก้วโมเดล โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน ร่วมกับ พาณิชย์จังหวัด ดีเอสไอ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาตลาดโรงเกลือ ในวันที่ 9 ก.พ. นี้
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอ มีการประชุมภายในเรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมเสนอแนวทางการแก้ปัญหาไว้ ประกอบด้วย 1. การปฏิบัติหน้าที่ร่วมการ 2. การแบ่งงาน เพื่อไม่ให้เกิดความซับซ้อนในการทำงาน 3. การแก้ไขปัญหาระยะสั้น ระยะยาว ซึ่งต้องดูว่าจะมีวิธีการป้องปรามอย่างไร และ 4. อำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติ ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นเพียงหลักการเบื้องต้นที่ทางดีเอสไอเตรียมเสนอให้ที่ประชุมครั้งนี้เท่านั้น และต้องรับฟังสภาพปัญหาจากหน่วยงานที่จะเข้าประชุมด้วย เนื่องจากตลาดโรงเกลือเป็นพื้นที่ที่พบว่ามีการค้าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก ทุกหน่วยงานจึงต้องช่วยการหาวิธีดำเนินการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก
“ขณะนี้ประชาชนทั่วไปและคนในสังคมเชื่อว่าผู้ค้าในตลาดโรงเกลือต้องจ่ายเงินให้กับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่อยู่ในพื้นที่แน่นอน ดังนั้น แนวทางในการหารือแก้ปัญหาในวันที่ 9 ก.พ. นี้ ดีเอสไอจึงเห็นว่าควรให้ผู้ค้าในตลาดโรงเกลือเป็นผู้เปิดประเด็นปัญหาให้ที่ประชุมได้รับทราบข้อเท็จจริง เพื่อที่ทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวจะได้พิจารณาหาวางแนวทาง และหามาตรการแก้ไขที่เหมาะสม และถูกต้องกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น” พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ตลาดโรงเกลือเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ซึ่งมีปัญหาการละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์และไม่ใชที่เดียว แต่มีอีก 25 พื้นที่ กระจายอยู่ 8 จังหวัด โดยบริเวณตลาดโรงเกลือมีปัญหาเรื่องพาสปอร์ตปลอมด้วย แต่ยังไม่แน่ใจว่าเชื่อมโยงกับการจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ อีกทั้งพบว่าผู้มีอิทธิพลในพื้นที่บางส่วนเดินเก็บเงินจากร้านค้าต่าง ๆ ในตลาดโรงเกลือ เพื่อนำไปส่งเป็นส่วยให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัด นอกจากนี้ ปัญหาการละเมิดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ยังเชื่อมโยงไปถึงการฟอกเงิน เพราะว่าปัญหาดังกล่าวอยู่ในบัญชีท้ายเรื่องการฟอกเงิน ดังนั้น มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงว่าจะมีการฟอกเงินในพื้นที่
ทั้งนี้ สำหรับ 8 จังหวัดที่เข้าข่ายพื้นที่เฝ้าระวังปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร อยู่ในพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ถนนสีลม ย่านการค้าพัฒน์พงษ์ ศูนย์การค้ามาบุญครอง ย่านการค้าคลองถม ย่านการค้าบ้านหม้อ ย่านการค้าสะพานเหล็ก ขณะที่ในต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น หาดพัทยา จ.ชลบุรี ย่านการค้าไนท์บาซาร์ จ.เชียงใหม่ ย่านการค้าหาดป่า ตอง จ.ภูเก็ต ย่านการค้าเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตลาดกิมหยง จ.สงขลา อ่าวนาง จ.กระบี่ และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น