MGR Online - ผบช.น. ปล่อยแถวกองปราบตำรวจจราจร วิภาวดี ตามโครงการ “ฝ่าฝืนกฎ รถติด ถูกจับแน่” พร้อมลั่นใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ดำเนินการต่อผู้กระทำผิดบนท้องถนน ไม่มีเจตนาในการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบช.น., พ.ต.อ.ขจรเกียรติ ศรีพันธ์ ผกก.สน.ทางด่วน 2 และ พ.ต.ท.สนอง แสงมณี รอง ผกก.สน.วิภาวดี ร่วมกันปล่อยแถวกองปราบตำรวจจราจร ในโครงการ “ฝ่าฝืนกฎ รถติด ถูกจับแน่” พร้อมกำลังเจ้ากน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดี กว่า 50 นาย โดยแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 2 ชุด ชุดแรกตรวจจับรถย้อนศร หรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรบริเวณหน้าวัดเสมียนนารี ส่วนชุดที่ 2 ตรวจจับรถย้อนศร หรือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรบริเวณคลองลาดยาว ทั้งนี้ยังนำเครื่องตรวจจับความเร็วและอุปกรณ์ที่ใช้ในการล็อกล้อรถมาแสดง ที่บริเวณใต้สะพานข้ามแยกห้าแลกลาดพร้าว ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัดในการดำเนินการต่อผู้กระทำผิดบนท้องถนน เช่น จอดรถกีดขวางเส้นทางจราจร ขับขี่รถผิดช่องทางที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาด้านการจราจรติดขัดบนท้องถนน ให้เป็นไปวัตถุประสงค์โครงการฝ่าฝืนกฎ รถติด ถูกจับแน่ โดยการกระทำความผิดกรณีดังกล่าวปรับไม่เกิน 500 บาท แต่หากพบว่ามีรถกีดขวางและยังถูกล็อกล้อ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนกรณีไม่พกใบขับขี่ หรือนำรถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบมาใช้บนท้องถนน ปรับไม่เกิน 200 บาท
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีเจตนาในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใช้รถบนท้องถนน เพียงแต่ต้องการให้แต่ต้องการลดปัญหาด้านการจราจรในกรุงเทพมหานครให้น้อยลงเพื่ออำนวยความสะดวก และให้มีผลกระทบน้อยที่สุดต่อประชาชนในกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ได้ให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย ก่อนเดินทางไปตรวจสอบตามเส้นถนนวิภาวดีฯ ขาออกตั้งแต่บริเวณแยกวัดเสมียนนารี เพื่อตรวจสอบหารถที่กระทำผิดกฎจราจร ซึ่งพบรถยนต์และจักรยานยนต์กระทำความผิดเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการพูดคุยปรับทัศนคติให้ตรงกันเพื่อประชาชนเข้าใจถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจบนท้องถนน