xs
xsm
sm
md
lg

บก.จร.ตรวจวัดควันดำใหม่กรณีเจ้าของรถกระบะร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - เจ้าของรถอีซูซุดีแมคซ์ ประสานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม วอนขอตรวจวัดควันดำใหม่หลังถูกจับไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ด้านตำรวจย้ำหากมีข้อสงสัยเกิดขึ้นขอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบใหม่ได้

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่อาคารตรวจสภาพรถยนต์ กองตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร. พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.กก.5 บก.จร. พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียม สารวัตรงานช่างเครื่องตรวจพิสูจน์ กก.5 บก.จร. นายธวัชชัย แก้วภักดี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ ฝ่ายตรวจและบังคับการ กรมควบคุมมลพิษ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และ นายทองเพียร ใจยง เจ้าของรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กอ 3695 กรุงเทพมหานคร ร่วมกันตรวจวัดควันดำตามที่มีการร้องขอจากเจ้าของรถยนต์ เนื่องจากมีข้อสงสัยในค่าควันดำที่ตรวจวัดได้ ก่อนหน้านี้ พร้อมชี้แจงขั้นตอนการตรวจวัดควันดำของเจ้าหน้าที่ และพูดคุยอธิบายทำความเข้าใจกับผู้ขับขี่ โดยใช้เวลาในการตรวจกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

นายทองเพียร ใจยง อายุ 27 ปี เจ้าของรถยนต์กล่าวว่า ส่วนตัวประกอบอาชีพรับเลี่ยมพระกันน้ำ หากมีเวลาว่างก็จะรับจ้างขนของเป็นครั้งคราว ในวันเกิดเหตุเมื่อ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ขับรถยนต์โดยใช้ถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้า ลงทางด่วนพระราม 9 ซึ่งรถได้บรรทุกของจำพวกรองเท้า ลังกระดาษมาด้วย ขณะที่ขับรถอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกให้เข้าตรวจตามที่ตำรวจเรียก ก่อนที่จะลดกระจกลงมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอดูใบขับขี่ ตนได้ถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจับตนข้อหาอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบว่าจับควันดำ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พูดจาไม่สุภาพประมาณว่า “กูขอใบขับขี่มึง” ตนเลยบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “คุณตำรวจครับ พูดจาดีๆ กับประชาชนด้วยครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่า “จับควันดำคุณ” จากนั้นก็เรียกตนลงมาดูการตรวจวัด เมื่อวัดเสร็จก็เรียกไปที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ที่ทำการออกใบสั่ง และทำการวัดเลเซอร์หาค่าเปอร์เซ็นต์

“เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดบอกว่า รถคันนี้คงไม่เกิน 90 หรอก ผมเลยบอกไปว่าใช่หรือครับ ก็เลยตกใจว่ารถผมยังไม่ถึง 5 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยโทก็เดินมาบอกว่าพักไปเลย พักใบเหลืองไปเลย ผมก็เลยตกใจไปใหญ่ว่า แค่ขอวัดใหม่อีกรอบทำไมต้องพักใบเหลือง คือการพักใบอนุญาตขับขี่ผม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็หยิบหนังสือกฎหมายมาก่อนบอกว่ามีสิทธิที่จะพักใบอนุญาตได้และพักได้ถึงใบแดงด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายก็บอกว่าจะช่วย จากนั้นก็เขียนใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับ 500 บาทที่ สน.ทางด่วน 2”

นายทองเพียรกล่าวต่อว่า ตนสงสัยทำไมค่าที่วัดได้ถึง 63-64 เปอร์เซ็นต์ และวันนั้นได้ไปทำธุระที่ลาดพร้าวหลังจากที่ตนโดนใบสั่งไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็ได้ไปที่กรมการขนส่งทางบกที่จตุจักร ในตอนแรกเจ้าหน้าที่จะไม่วัดให้เพราะปกติรถที่จะเข้าวัดและตรวจสอบได้ต้องมีอายุ 7 ปีขึ้นไป จึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ทางขนส่งฯ ก็ให้ทำหนังสือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อนถึงจะวัดได้เป็นกรณีพิเศษ แต่ในเวลาต่อมาช่างที่กรมขนส่งฯ ก็เห็นใจยอมวัดค่าให้ ค่าที่ได้ออกมา 17% ตนก็โทร.ไปร้องเรียน 1197 ซึ่งก็ได้รับเรื่องไว้ และแจ้งประสานไปยังชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จึงมีการตรวจวัดใหม่อีกครั้งในวันนี้

พ.ต.อ.เอกรักษ์กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่สงสัยสามารถนำรถเข้ามาตรวจได้ หลังจากนี้จะมีการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรให้ทำความชี้แจงต่อประชาชน ยอมรับว่าอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตรวจวัดเป็นของราชการใช้มา 20 ปีแล้ว แต่จะมีการส่งไปตรวจสอบมาตรฐานในทุกๆ ปี กับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยืนยันว่าเครื่องตรวจวัดควันดำมีสภาพพร้อมใช้งาน ก็ต้องยอมรับว่าอาจมีบางส่วนที่เกิดจากการตรวจวัดของเจ้าหน้าที่ หากได้รับใบสั่งแล้วสามารถที่จะชี้แจงได้ว่าไม่ผิดจริงตามที่มีการกล่าวหาก็จะทำการเพิกถอนใบสั่งได้ หลังจากนี้หากมีการตรวจวัดเสร็จสิ้นแล้วจะมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ได้เขียนข้อมูลค่าที่วัดได้ วันที่ เวลา สถานที่ ไว้บนกระดาษตรวจวัด ก่อนที่จะให้ผู้ขับขี่เซ็นกำกับไว้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

“กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่จะทำให้ยกเครื่องใหม่ในขั้นตอนการตรวจวัด และการตรวจสอบมาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้วัด ส่วนการตั้งจุดตรวจของเจ้าหน้าที่จะเป็นการสุ่มตรวจ มีแผนงานกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องลงไปตรวจที่จุดไหนในเส้นทางใดบ้าง โดยจะเลือกในเส้นทางหลักๆ การเรียกตรวจก็จะสังเกตจากสภาพรถและสภาพเครื่องยนต์ ส่วนในเคสนี้ก็จะพิจารณาและเพิกถอนใบสั่ง ส่วนการบริหารจัดการก็คงต้องยอมรับและนำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบใหม่ให้มีความโปร่งใส ซึ่งในช่วงเดือน มี.ค.ปี 2559 นี้จะมีการอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน” พ.ต.อ.เอกรักษ์กล่าว

พ.ต.อ.วีระวิทย์กล่าวว่า ตามกฎหมายทางกองกำกับการ 5 บก.จร.ได้มีการประสานกับกรมควบคุมมลพิษที่จะร่วมปฏิบัติ แต่ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยในกรณีดังกล่าวก็จะมีการตรวจซ้ำเพื่อให้เห็นถึงการตรวจวัดตามมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ทั้งหมด ข้อสงสัยต่างๆ จะมีการตรวจจากเครื่องมือชนิดเดียวกัน และเครื่องมืออีกประเภทหนึ่งที่ใช้สำหรับตรวจสอบจากแผนกช่างเครื่องโดยสารวัตรที่รับผิดชอบโดยตรงที่มีความชำนาญในการตรวจวัดจะทำการตรวจวัดซ้ำให้ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง แนะนำหากเกิดข้อสงสัยให้สอบถามหัวหน้าจุดตรวจขอตรวจใหม่อีกครั้งหรือจะนำรถมาที่กองกำกับการ 5 บก.จร. โดยประสานกับทางผู้กำกับก็จะมีการตรวจซ้ำให้อีกครั้ง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดค่าควันดำผู้ขับขี่ควรมายืนอยู่บริเวณใกล้เคียงกับท่อไอเสีย หรือภายในบริเวณที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดจะได้เห็นวิธีการตรวจวัดซึ่งมีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้ว

พ.ต.อ.ศุภชัชจ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษตั้วแต่ปี 2547 โดยทั่วไปจะเรียกสุ่มตรวจตัวอย่างรถที่ผ่านอายุการใช้งานตั้งแต่ 5-7 ปี ส่วนรถใหม่ก็อาจจะมีการสุ่มตรวจบ้าง เจ้าหน้าที่จะสังเกตหากรถมีควันดำก็จะเรียกตรวจแต่ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีจุดตรวจ 8-9 จุดตรวจ สำหรับวิธีการตรวจจะต้องเหยียบคันเร่งให้สุดคันเร่งแล้วปล่อยจำนวน 2 ครั้ง

สำหรับผลการตรวจวัดพบว่า วัดค่าปริมาณควันดำ 2 ครั้ง ครั้งแรกวัดได้ 20% ครั้งที่ 2 วัดได้ 26% ซึ่งมีค่าไม่เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานของรถและวันเวลาที่ตรวจวัดจึงทำให้ค่าที่ได้อาจมีความคลาดเคลื่อนได้


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น