ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจขอนแก่น จับปรับจริง รถควันดำวิ่งรอบเมือง เช้า-บ่าย ป้องปรามมลพิษในเขตชุมชนเมือง พบกระทำผิดวันละกว่า 40 ราย วอนผู้ใช้รถเอาใส่ใจในการขับขี่ และหมั่นบำรุงรักษา ขณะที่จากการตรวจสอบพบบางรายค่ามลพิษสูงกว่าร้อยละ 90 จับปรับอัตราโทษสูงสุด 500 บาท ซึ่งตรวจพบทุกวัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 ก.ย.) พ.ต.ท.จิรวิทย์ ปานยิ้ม รอง ผกก. (จร.) สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทำการตั้งจุดตรวจจับควันดำที่บริเวณหลัก กม.ที่ 12-13 ถ.เส้นทางสายขอนแกน-กาฬสินธุ์ ฝั่งขาล่อง ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อกวดขันการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรและขนส่ง ในฐานความผิดนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง (ควันดำ) โดยทำการตรวจสอบรถยนต์ทุกคันที่ขับขี่มาในเส้นทางดังกล่าว
จากการเรียกตรวจรถยนต์เพียง 5 นาที โดยเฉาพะกลุ่มรถยนต์กระบะ และรถยนต์บรรทุก ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป จนถึงรถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ พบการกระทำความผิดตามฐานความผิดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
พ.ต.ท.จิรวิทย์ ปานยิ้ม รอง ผกก. (จร.) สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า การคุมเข้มในฐานความผิดดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามาตรการป้องปราม และตรวจสอบมลพิษในเขตชุมชนเมือง ซึ่งพบว่า ในปัจจุบันปริมาณรถยนต์ในประเภทต่างๆ ในเขตเมืองขอนแก่นมีมากขึ้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉาพะตำรวจจราจร และอาสาสมัครจราจร หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ที่จะต้องให้บริการสาธารณในด้านต่างๆ จะต้องทนดมสูดมลพิษอย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงได้ทำการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจจับควันดำขึ้น
โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาประจำในชุดดังกล่าวทั้งหมด 10 นาย โดยมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรคอยกำกับควบคุมดูแล และให้มีการตั้งจุดตรวจ 4 มุมเมือง ในช่วงเช้า และช่วงบ่ายทุกวัน ซึ่งจกการผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 2สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า รถยนต์กระบะ และรถยนต์บรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป กระทำความผิดสูงสุด
ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ และปล่อยปละละเลยในการงานจนทำให้รถยนต์เสื่อมสภาพ และปล่อยมลพิษที่เป็นพิษออกมาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พ.ต.ท.จิรวิทย์ จากการเรียกตรวจสอบรถยนต์ 10 คัน จะพบว่ามีการกระทำความผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมากถึงร้อยละ 80 ซึ่งกฎหมายระบุชัดเจนว่า จะต้องไม่มีปล่อยมลพิษออกมาเกินกว่าค่ามาตรฐานของเครื่องตรวจวัดควันดำในอันตราที่ร้อยละ 50 แต่การตรวจสอบของเรานั้นผ่อนผันให้ที่ร้อยละ 60 เพราะส่วนใหญ่เป็นรถที่ใช้ในภาคการเกษตร และการขนส่ง
“แต่ก็ยังคงพบว่า มีการกระทำผิดที่สูงมาก บางคันจากการตรวจสอบด้วยเครื่องวัดสูงถึงร้อยละ 98 จึงจำเป็นจะต้องจับปรับในอัตราสูงสุดรายละ 500 บาท พร้อมทั้งการตักเตือนให้นำกลับไปตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ทั้งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือตรวจเช็กระบบเครื่องยนต์ต่างๆ เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำซ้อน”
พ.ต.ท.จิรวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า ระยะเวลาขอการตั้งจุดตรวจจับควันดำจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลักคือ ตั้งแต่เวลา 09.00-11.00 น. และเวลา 13.30-15.30 น. ปัจจุบันเครื่องตรวจจับควันดำนั้นได้รับการส่งมอบแบบยืมใช้ในระบบราชการจากสำนักงานขนส่งจังหวัดเพียง 1 เครื่อง ซึ่งรถทุกคันที่ถูกเรียกตรวจสอบนั้นจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องดังกล่าวสอดเข้าไปในระบบท่อไอเสีย ก่อนจะทำการเร่งเครื่องยนต์ จากนั้นเขม่าจะเข้าไปเกาะที่ชุดตรวจวัดควันดำ
เจ้าหน้าที่จะให้เจ้าของรถ หรือผู้ขับขี่นำกระดาษแผ่นดังกล่าวที่มีลักษณะเป็นวงกลม และมีคราบเขม่าคันของรถตนเองมาทำการตรวจสอบด้วยเครื่องวัดค่าควันดำ โดยมีเจ้าหน้าที่ขนส่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านการฝึกอบรมทำการตรวจแบบต่อหน้าเพื่อป้องกันการร้องเรียน หรือการถูกกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกั่นแกล้ง ซึ่งเมื่อค่าตรวจวัดแจ้งขึ้นมาในระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งหากเกินกวาร้อยละ 60 ขึ้นก็จะถูกจับปรับดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม มาตรการการป้องกันการปล่อยมลพิษเป็นพิษในกลุ่มรถยนต์นั้นเป็นแนวทางการดำเนินงานเพื่อส่วนรวมทั้งหมด เพราะถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ ซึ่งขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งเมืองที่จะต้องคุมเข้มในปัญหาดังกล่าวย่างยิ่งจริงจัง ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมต่างก็ให้ความร่วมมือและนำรถกลับไปแก้ไขเพื่อป้องกันการทำผิดซ้ำเป็นอย่างดี