ตร.ปิดล้อมจับแก๊งจยย. 258 คัน ขณะรวมตัวกันอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต อ้างจะนำเงินไปช่วยเหลือผู้ประสพภัยพิบัติที่ประเทศเนปาล แจ้งข้อหาในข้อหาข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และตรวจสอบรถจยย.ที่มีการตกแต่ง และดัดแปลง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
วานนี้(9ส.ค.) เมื่อเวลา06.15 น. พ.ต.ท.สนอง แสงมณี รอง ผกก.หัวหน้าสถานี สน.วิภาวดี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พันธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สว.งานสายตรวจ1 กก.1 บก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กว่า 30 นาย ร่วมกันนำกำลังปิดล้อมจับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนหลายร้อยคันมารวมตัวกันอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกลุ่มรถจักรยานยนต์ จำนวน 258 คัน พร้อมควบคุมผู้ขับขี่และซ้อนท้าย ได้ทั้งหมดจำนวน 361 คน แบ่งเป็นชาย 227 คน และหญิง 31 คน ซึ่งมีเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี รวมอยู่ด้วยจำนวน 59 คน
ด้านนายวุฒิชัย เพชรแก้ว อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ถูกจับกุมกล่าวว่า ตนและกลุ่มเพื่อนๆได้นัดหมายว่าจะไปทำกิจกรรมการกุศลและท่องเที่ยวที่จังหวัดนครนายกผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนัดรวมตัวกันย่านฝั่งธนบุรี และจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตนและเพื่อนๆเคยร่วมกิจกรรมดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง โดยมีรถจักรยานยนต์เข้าร่วมกว่า 1,000 คัน ไปที่จังหวัดชลบุรี ส่วนในครั้งนี้รวมตัวเพื่อรวบรวมเงินไปช่วยเหลือผู้ประสพภัยพิบัติที่ประเทศเนปาล ประมาณ 50,000 บาท ก่อนจะนำเงินไปมอบกับทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 และขอยืนยันว่าตนและเพื่อนๆไม่ได้มีเจตนาจะสร้างความเดือดร้อนแน่นอน
ด้าน พ.ต.ท.สนอง กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ไม่ได้มีเจตนาที่จะรวมตัวกันเพื่อแข่งรถบนท้องถนน เพียงแค่กำลังเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่จังหวัดนครนายกเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบเอกสารสำเนารถ ใบอนุญาตขับขี่ และสถาพรถจักรยานยนต์ว่ามีการตกแต่งหรือดัดแปลงหรือไม่ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก หากพบว่าผู้ใดมีการนำรถไปตกแต่ง หรือดัดแปลงเพิ่มเติมก็จะดำเนินการตรวจยึด ก่อนจะให้คำแนะนำว่าหากจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ควรจะทำหนังสือทำหนังสือยื่นให้ทางกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) หรือตำรวจจราจรเจ้าของท้องที่นั้นๆ เพื่อที่จะได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ต่อมาเมื่อเวลา11.30 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. และโฆษกตร. เดินทางมาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ และเปิดเผยว่า การรวมตัวเพื่อเดินทางจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยตามข้อกำหนดของพ.ร.บ.ขนส่งทางบก เช่นจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ มีหมวกกันน็อค ไม่ขี่ในช่องทางด่วน แต่การรวมตัวครั้งนี้มีการรวมตัวกันจำนวนมาก และเข้าไปใช้ในช่องทางด่วน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เบื้องต้นแจ้งข้อหาข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมทั้งยึดรถจักรยานยนต์ไว้ ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ถึงแม้จะไม่มีพฤติกรรมการแข่งรถ แต่ก็สามารถจะใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาดำเนินการได้ เพราะว่ามีการออกมารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 05.00 น. ผู้ปกครองควรจะดูแลเด็ก ไม่ควรปล่อยให้อยู่ใสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องเรียกผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมของเด็กก่อนจะทำบันทึกไว้ หากพบว่ามีการกระทำผิดในลักษณะนี้อีกก็จะดำเนินการเพิ่ม
ส่วนที่พบว่าบางรายไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก อุปกรณ์รถจักรยานยนต์ไม่ครบ รวมทั้งมีการดัดแปลงในลักษณะแต่งแข่ง ทั้งหมดก็สามารถดำเนินคดีได้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก และตามคำสั่งที่ 28/2558 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หากต้องการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ให้ทำเรื่องขออนุญาตไปยังงานจราจรของตำรวจท้องที่เสนอมายังผู้การจราจร แล้วก็เสนอมายัง ตร. ไม่ใช่มานัดรวมตัวแล้วไปแบบนี้ ซึ่งเมื่อเช้ามีการซ้อมขบวนจักรยานของกิจกรรม bike for mom ในพื้นที่ด้วย จึงทำให้เกิดความชุลมุนและเป็นอุปสรรคในการซ้อมของทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ซึ่งต้องมีการดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาด นี่จับได้เพียงประมาณครึ่งหนึ่ง ยังมีบางส่วนที่สามารถหลบหนีไปได้ เนื่องจากมีซอกซอย แต่หากใช้ความรุนแรงก็จะมีการบาดเจ็บ จึงจำเป็นที่ต้องใช้วิธีปิดล้อมเอา ซึ่งโทษของการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตามพ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43(8) จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ พันตำรวจโทสนอง แสงมณี รอง ผกก.สน.วิภาวดี เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากพบว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์หลายร้อยคันขับขี่มาตามเส้นทางตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากลักษณะพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย
วานนี้(9ส.ค.) เมื่อเวลา06.15 น. พ.ต.ท.สนอง แสงมณี รอง ผกก.หัวหน้าสถานี สน.วิภาวดี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พันธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สว.งานสายตรวจ1 กก.1 บก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร กว่า 30 นาย ร่วมกันนำกำลังปิดล้อมจับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์จำนวนหลายร้อยคันมารวมตัวกันอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกลุ่มรถจักรยานยนต์ จำนวน 258 คัน พร้อมควบคุมผู้ขับขี่และซ้อนท้าย ได้ทั้งหมดจำนวน 361 คน แบ่งเป็นชาย 227 คน และหญิง 31 คน ซึ่งมีเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี รวมอยู่ด้วยจำนวน 59 คน
ด้านนายวุฒิชัย เพชรแก้ว อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ถูกจับกุมกล่าวว่า ตนและกลุ่มเพื่อนๆได้นัดหมายว่าจะไปทำกิจกรรมการกุศลและท่องเที่ยวที่จังหวัดนครนายกผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนัดรวมตัวกันย่านฝั่งธนบุรี และจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตนและเพื่อนๆเคยร่วมกิจกรรมดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง โดยมีรถจักรยานยนต์เข้าร่วมกว่า 1,000 คัน ไปที่จังหวัดชลบุรี ส่วนในครั้งนี้รวมตัวเพื่อรวบรวมเงินไปช่วยเหลือผู้ประสพภัยพิบัติที่ประเทศเนปาล ประมาณ 50,000 บาท ก่อนจะนำเงินไปมอบกับทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3 และขอยืนยันว่าตนและเพื่อนๆไม่ได้มีเจตนาจะสร้างความเดือดร้อนแน่นอน
ด้าน พ.ต.ท.สนอง กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ไม่ได้มีเจตนาที่จะรวมตัวกันเพื่อแข่งรถบนท้องถนน เพียงแค่กำลังเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่จังหวัดนครนายกเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบเอกสารสำเนารถ ใบอนุญาตขับขี่ และสถาพรถจักรยานยนต์ว่ามีการตกแต่งหรือดัดแปลงหรือไม่ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก หากพบว่าผู้ใดมีการนำรถไปตกแต่ง หรือดัดแปลงเพิ่มเติมก็จะดำเนินการตรวจยึด ก่อนจะให้คำแนะนำว่าหากจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ควรจะทำหนังสือทำหนังสือยื่นให้ทางกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) หรือตำรวจจราจรเจ้าของท้องที่นั้นๆ เพื่อที่จะได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร
ต่อมาเมื่อเวลา11.30 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. และโฆษกตร. เดินทางมาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ และเปิดเผยว่า การรวมตัวเพื่อเดินทางจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยตามข้อกำหนดของพ.ร.บ.ขนส่งทางบก เช่นจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่ มีหมวกกันน็อค ไม่ขี่ในช่องทางด่วน แต่การรวมตัวครั้งนี้มีการรวมตัวกันจำนวนมาก และเข้าไปใช้ในช่องทางด่วน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เบื้องต้นแจ้งข้อหาข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมทั้งยึดรถจักรยานยนต์ไว้ ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ถึงแม้จะไม่มีพฤติกรรมการแข่งรถ แต่ก็สามารถจะใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาดำเนินการได้ เพราะว่ามีการออกมารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 05.00 น. ผู้ปกครองควรจะดูแลเด็ก ไม่ควรปล่อยให้อยู่ใสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้ เพราะฉะนั้นจะต้องเรียกผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมของเด็กก่อนจะทำบันทึกไว้ หากพบว่ามีการกระทำผิดในลักษณะนี้อีกก็จะดำเนินการเพิ่ม
ส่วนที่พบว่าบางรายไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ไม่สวมหมวกกันน็อก อุปกรณ์รถจักรยานยนต์ไม่ครบ รวมทั้งมีการดัดแปลงในลักษณะแต่งแข่ง ทั้งหมดก็สามารถดำเนินคดีได้ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก และตามคำสั่งที่ 28/2558 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หากต้องการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ให้ทำเรื่องขออนุญาตไปยังงานจราจรของตำรวจท้องที่เสนอมายังผู้การจราจร แล้วก็เสนอมายัง ตร. ไม่ใช่มานัดรวมตัวแล้วไปแบบนี้ ซึ่งเมื่อเช้ามีการซ้อมขบวนจักรยานของกิจกรรม bike for mom ในพื้นที่ด้วย จึงทำให้เกิดความชุลมุนและเป็นอุปสรรคในการซ้อมของทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก ซึ่งต้องมีการดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาด นี่จับได้เพียงประมาณครึ่งหนึ่ง ยังมีบางส่วนที่สามารถหลบหนีไปได้ เนื่องจากมีซอกซอย แต่หากใช้ความรุนแรงก็จะมีการบาดเจ็บ จึงจำเป็นที่ต้องใช้วิธีปิดล้อมเอา ซึ่งโทษของการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตามพ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43(8) จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ พันตำรวจโทสนอง แสงมณี รอง ผกก.สน.วิภาวดี เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากพบว่ามีกลุ่มรถจักรยานยนต์หลายร้อยคันขับขี่มาตามเส้นทางตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 เพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากลักษณะพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย