MGR Online - ผู้เสียหายกว่า 10 รายเข้าแจ้งความ บก.ป.หลังถูก น.ส.สุพัตรา หรือมาติกา สังคุ้ม อ้างเป็นนายหน้าบริษัทประกันภัยหลอกขายกรมธรรม์ประกันรถยนต์ในราคาถูกกว่าปกติ สุดท้ายกลับไม่ได้รับกรมธรรม์แต่อย่างใด รวมมูลค่าความเสียหาย 7 แสนบาท
วันนี้ (12 พ.ย.) เวลา 11.00 น. กองปราบปราม นางเพียงพิศ น้อยพันธ์ อายุ 32 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า10 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ธนภพ หลีพงษ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.สุพัตรา หรือมาติกา สังคุ้ม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 1 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในข้อหาฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสาร ภายหลังถูก น.ส.สุพัตราซึ่งอ้างตัวเป็นนายหน้าบริษัทประกันภัยหลอกขายกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เมื่อหลงเชื่อซื้อกรมธรรม์ดังกล่าวแล้วกลับไม่ได้รับกรมธรรม์ รวมมูลค่าเสียหายกว่า 7 แสนบาท โดยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
นางเพียงพิศกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.สุพัตราได้โทรศัพท์มาอ้างตัวว่าเป็นนายหน้าบริษัทประกันภัย ก่อนชักชวนว่าสามารถต่อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้ได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิม 2,000-3,000 บาท จึงสนใจและต่อกรมธรรม์กับ น.ส.สุพัตรา นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาทต่อกรมธรรม์ นอกจากนี้ยังชวนเพื่อนให้มาต่อกรมธรรม์ด้วย โดยแต่ละครั้ง น.ส.สุพัตราจะหักเงินค่าต่อกรมธรรม์ผ่านบัตรเครดิตของตน ช่วง 2 ปีแรกก็ยังได้รับกรมธรรม์ กระทั่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่ามีการหักเงินเกินแล้วก็ไม่ได้รับกรมธรรม์ จึงตรวจสอบไปยังบริษัทประกันภัยของ น.ส.สุพัตราโดยตรงก็พบว่าไม่มีการจ่ายค่าต่อกรมธรรม์ในส่วนของตน
นางเพียงพิศกล่าวต่อว่า จากนั้นได้ตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ก็พบว่า น.ส.สุพัตราเคยเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัยรถยนต์เมื่อปี 2553 แต่ภายหลังไม่ได้ต่ออายุการเป็นตัวแทนจึงถูกยกเลิกใบอนุญาตไป เมื่อแน่ใจว่าถูกหลอกลวงและพบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายจึงนัดหมายพากันเข้าแจ้งความดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ต.ธนภพกล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป