xs
xsm
sm
md
lg

ชนไม่ต้องรอเคลม! บริการใหม่บนมือถือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทิพยประกันภัยรุกเพิ่มบริการ หวังช่วยเพิ่มความสะดวกลูกค้าชนแล้วแยกย้ายไม่ต้องรอพนักงานสำรวจ เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ “Tip Fiash Claim” ชูรวดเร็วทันใจ ใช้ง่าย ระบุแก้ปัญหารถติด และการใช้พลังงานไปในตัว พร้อมตั้งเป้าปีหน้าเบี้ยโต 5-7% หลังเริ่มเห็นสัญญาณการเดินหน้าโครงการใหญ่ของภาครัฐ ส่วนปีนี้รับโตน้อยแค่3% เบี้ย 2.4 หมื่นล้านบาท พร้อมเตรียมรุกรายย่อยมากขึ้้นโดยเฉพาะประกันชั้น 2 และ 3

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทิพยประกันภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของคนไทยมีการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และต้องการความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งหลังจากบริษัทได้ทำการสำรวจแล้วเห็นว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์นับเป็นเรื่องที่เสียเวลาของคนทั่วไป บริษัทจึงได้ทำการพัฒนาระบบบริการด้านการเคลมประกันภัยรถยนต์ขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเคลมอุบัติเหตุได้ทันที

สำหรับ “Tip Fiash Claim” จะเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟนที่ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง 2 ระบบ โดยระบบ Android ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ที่กูเกิลเพลย์ ส่วน IOS จะสามารถดาวน์โหลดได้ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะช่วยแก้ปัญหาในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุแล้วต้องเสียเวลาในการรอพนักงานสำรวจ โดยสามารถทำการเคลมประกันได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด และทำให้ย่นระยะเวลาในการเคลมทำให้สามารถแยกคู่กรณีได้อย่างรวดเร็ว

“บริการนี้ใช้งานง่าย และนอกจากการเคลมแล้วยังสามารถหาสถานพยาบาลหากมีผู้บาดเจ็บ รวมถึงการติดตามความคืบหน้าการซ่อมและหาอู่ซ่อมที่ต้องการได้ นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าบริการนี้จะทำให้ลดการใช้พลังงาน ลดโลกร้อน และปัญหารถติดไปในตัว โดยแอปพลิเคชันนี้ได้ออกแบบมาจากความต้องการของผู้ใช้ทำให้ใช้งานง่าย และเชื่อว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีสาร์ทโฟนใช้และทำให้ง่ายมากขึ้นไปอีก”

**ตั้งเป้าปีหน้าโต 5-7% รุกประกันรถยนต์ชั้น 2-3**
นายสมพรกล่าวอีกว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับที่ประมาณ 5-7% ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 3% หรือมีเบี้ยประกันภัยรับประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท โดยสาเหตุที่ในปีนี้โตต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้เนื่องจากความล่าช้าของโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าเชื่อว่าโครงการเหล่านี้จะกลับมาเดินหน้าได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ หลังจากภาครัฐเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้พยายามเพิ่มสัดส่วนของลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้น ซึ่งจากเดิมเบี้ยในส่วนของลูกค้ารายย่อยจะอยู่ที่ประมาณ 30% เมื่อเทียบกับการรับประกันภัยรายใหญ่ โดยคาดว่าภายใน 3 ปีจะสามารถเพิ่มเบี้ยของลูกค้ารายย่อยให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 70% เมื่อเทียบกับการปรับประกันภัยรายใหญ่

“เราจะเพิ่มสัดส่วนรายย่อยซึ่งปัจจุบันโตมาแล้ว 25% จากเดิมแค่ 30% ซึ่งถ้าร่วมกันเรามีรายย่อยแล้ว 55% ซึ่งตรงนี้คงจะต้องหันมาเน้นมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของประกันภัยรถยนต์ แต่ที่บอกไม่ใช่ว่าเพิ่มของรายย่อยแล้วรายใหญ่จะหาย มันจะยังมีเม็ดเงินอยู่แต่ในรายย่อยที่ทำตลาดมันจะโตจนมันมีเบี้ยมากกว่าเมื่อเทียบกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนรถยนต์ที่เราจะทำตลาดนั้นคงจะเน้นไปที่ประกันชั้น 2 ชั้น 3 มากขึ้น เพราะจากข้อมูลที่มีนั้นประกันภัยชั้น 1 ขณะนี้มี Loss Ratio ค่อนข้างสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับชั้น 2 และ 3 แล้วจะทำให้มันดูมีความเสี่ยงมากกว่า” นายสมพรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น