ASTV - ผู้จัดการ - ตำรวจคุมตัวสองผู้ต้องหารายสำคัญคดีระเบิดกลางกรุงไปทำแผนประกอบคำสารภาพที่แยกราชประสงค์ โดย “อาเดม คาราดัก” สวมเสื้อเหลืองนำระเบิดไปวางรั้วศาลท้าวมหาพรหม ก่อนซ้อนท้าย จยย.ไปสวนลุมพินีเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับที่พักย่านหนองจอก ส่วน “เมียไรลี ยูซูฟู” สังเกตการณ์อยู่ลานน้ำหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจุดชนวนด้วยมือถือ ก่อนนำไปทิ้งในคลองแสนแสบและกลับที่พักย่านมีนบุรี
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ผสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร ควบคุมตัวนายเมียไรลี ยูซูฟู และนายอาเดม คาราดัก สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารเข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพเหตุระเบิดกลางกรุงบริเวณแยกราชประสงค์ และสถานีรถไฟหัวลำโพง โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติจำนวนมากรอการทำแผนขบวนการลอบวางระเบิดดังกล่าว
จากคำรับสารภาพของนายเมียไรลี และนายอาเดม ระบุว่าได้พบกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง จากนั้นได้แยกย้ายกันไป โดยนายอาเดมได้มายังแยกราชประสงค์เพื่อวางกระเป๋าที่บรรจุระเบิดเอาไว้ ที่ศาลท้าวมหาพรหม หลังจากนั้นได้ไปเปลี่ยนเสื้อจากสีเหลืองเป็นสีเทาภายในห้องน้ำสวนลุมพินี และกลับไปยังที่พักย่านหนองจอก ส่วนนายยูซูฟูได้สังเกตการณ์อยู่บนสกายวอล์ก ทางเดินเชื่อมเหนือแยกราชประสงค์ ก่อนจะยืนสังเกตการณ์บริเวณลานน้ำพุหน้าเซ็นทรัลเวิลด์และจุดชนวนระเบิดจากโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นได้นำโทรศัพท์มือถือไปทิ้งในคลองแสนแสบย่านประตูน้ำ และกลับที่พักย่านมีนบุรี
โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้นำผู้ต้องหาทั้งสองทำแผนพร้อมกัน โดยนายอาเดม คาราดัก วันนี้สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้น รองเท้าเตะ ไปทำแผนยังบริเวณรั้วหน้าท้าวมหาพรหม จุดที่วางกระเป๋า จากนั้นไปยังจุดที่ได้ซ้อนจักรยานยนต์ และไปยังสวนลุมพินี จากนั้นไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟหัวลำโพง นอกจากนี้ ได้พานายเมียไรลี ยูซูฟู ไปทำแผนบริเวณหน้าสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หน้าวัดปทุมวนาราม จากนั้นไปงมหาโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดชนวนระเบิดในคลองแสนแสบ และไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเช่นเดียวกัน โดยได้ปิดการจราจรทางน้ำในช่วงเวลา 13.30-15.00 น. ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองกลับไปยังศาลทหารเพื่อฝากขังและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ (26 ก.ย.) ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงข่าวก่อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพคดีเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน คือ นายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซูฟู ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มต้นจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ จากนั้นจะไปยังหัวลำโพงและแยกย้ายไปทำตามจุดต่างๆ อาทิ ห้องน้ำภายในสวนลุมพินีที่นายอาเดมเปลี่ยนชุดและจุดที่ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่วินรถ รวมทั้งทุกจุดที่ผู้ต้องหาเดินทางผ่าน โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและทำหน้าที่อะไรบ้างซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำแผนตามคำให้การ ส่วนผู้ต้องหามีอาการเครียดหรือไม่นั้น ตนยังไม่เห็นผู้ต้องหาเลย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า จากคำให้การรับสารภาพของนายอาเดมได้สอดคล้องกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสวงหามายืนยันกับผู้ต้องหา ทั้งนี้ขอเรียนว่า ก่อนจะนำมาสู่การทำแผนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปดูสถานที่ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การผู้ต้องหาว่าเป็นจริงจนกว่าจะพิสูจน์ได้ และขณะนี้ได้พิสูจน์เป็นที่ชัดเจนสามารถสรุปชี้แจงต่อสื่อมวลชนได้”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนายอาเดมถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้นสามารถยืนยันได้ นอกจากนี้ คำให้การของนายอาเดมกับนายยูซูฟูสอดคล้องกันและสามารถซัดทอดไปยังผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ โดยคำให้การของทั้งสองคนเป็นไปตามพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รวบรวมได้และหลักฐานอื่นๆ ในการสอบสวนถือว่าทุกอย่างสอดคล้องกัน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่เป็นความจริง
“ส่วนการติดตามตัวนายซูแบร์ หรือชายเสื้อฟ้านั้น เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมทุกคนในขบวนการ และไม่มีการละเว้น เชื่อว่าจะสามารถจับกุมทุกคนได้ในที่สุด ซึ่งชายเสื้อฟ้าหนีไปประเทศมาเลเซียหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ” ผบ.ตร.กล่าวทิ้งท้าย