ASTVผู้จัดการ - รอง ผบ.ตร.ประชุมเร่งรัดคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ และสาทร ยันคนขับแท็กซี่ให้ปากคำมีประโยชน์ สั่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนที่ยังขาดหายเพิ่มเชื่อออกหมายจับได้ในไม่ช้า พรุ่งนี้รู้ผลตรวจดีเอ็นเอบนธนบัตรที่ได้จาก จยย.รับจ้าง รับส่งมือบึ้ม
วันนี้ (25 ส.ค.) มื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ประชุมเร่งรัดการสอบสวนคดีระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม และบริเวณท่าเรือสาทร โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.จักรทิพย์เปิดเผยถึงกรณีระเบิดศาลพระพรหม เมื่อวันที่ 17 ส.ค. และระเบิดท่าเรือสาทร เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ ศาลพระพรหม และท่าเรือสาทร เป็นเวลา 7 วันแล้ว วันนี้จะมาฟังผลการสรุปในการดำเนินงานของตำรวจนครบาลและตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ขอมา จะต้องประสานไปยัง กทม.เพื่อขอแผ่นพิมพ์เขียว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บข้อมูลเพิ่มเติมในสิ่งที่ขาดหายไป เพราะการเก็บภาพจากกล้องวรปิดในที่เกิดเหตุนั้น มันเป็นตัวชี้วัดว่าทิศทางจะไปทางไหน ซึ่งที่ผ่านมาที่ดำเนินการไปนั้นทั้ง 7 วัน ยังขาดรายละเอียดบางช่วงเท่านั้น ส่วนการดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องสงสัยในภาพที่ท่าเรือสาทรนั้นก็อยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อถึงเวลาก็จะออกหมายจับตามภาพสเกตช์แบบราชประสงค์แน่นอน ส่วนการนำเสนอที่ผ่านมานั้นว่าชายเสื้อฟ้าเป็นคนลงมือก่อเหตุก็ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่ก็ไม่มีคนในบริเวณนั้นมีพฤติกรรมเช่นนั้น อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ เบื้องต้นจะต้องรอภาพรวม ภาพจากกล้องวงจรปิด และความชัดเจนต่างๆ ก่อนอย่างที่บอกไปว่าภาพบางส่วนหายไป ส่วนสาเหตุต่างๆ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง
ส่วนการสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ผบช.น.ได้เป็นคนสอบปากคำด้วยตนเอง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดการสอบปากคำได้ เพราะถ้าพูดไปจะเสียรูปคดี เพราะข่าวที่นำเสนอไป เชื่อว่าคนร้ายดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ในเมื่อมีการถามทุกวันว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ก็ไม่รู้จะตอบยังไง ส่วนคนขับแท็กซี่หรือคนขับรถตุ๊กตุ๊กมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่กำลังวิเคราะห์ ส่วนรถแท็กซี่คันดังกล่าวไปตรวจสอบพิสูจน์แล้ว ส่วนประเด็นที่คนร้ายหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น ตนก็ยังไม่ทราบว่าคนร้ายหนีออกไปแล้ว หรือยังไม่ออก
ทั้งนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเหตุที่เกิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทรเป็นกลุ่มๆเดียวกันหรือไม่ จะต้องรอพยานหลักฐานชิ้นสำคัญมายืนยันให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ไม่มีความทันสมัย แต่ไม่ใช่ว่าคดีไม่คืบหน้า คือคดีคืบหน้าตามลำดับอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่คืบหน้าแสดงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำงาน ยกตัวอย่างคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อพยานหลักฐานครบ ก็ออกหมายจับตามภาพสเกตช์ เพราะคดีดังกล่าวไม่ใช่คดีในระดับประเทศ แต่มันเป็นคดีระดับโลก เนื่องจากมีประชาชนในหลายๆประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่วนประเด็นที่วางไว้ในช่วงที่เกิดเหตุแรกๆ จนถึงตอนนี้นั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะตนก็ยังไม่ทราบเช่นกัน แต่รู้อย่างเดียวคือเมื่อเกิดเหตุแล้ว จะต้องเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี จากการสอบสวนที่ผ่านมาเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และสาทรคิดว่ามีความเกี่ยวข้องกันแน่นอนหรือไม่นั้น ตนคาดว่าเป็นไปได้สูง เพราะส่วนประกอบบางตัวคล้ายกัน ซึ่งบางคนไปสรุปเอาเองว่าเหมือนกัน บางคนบอกว่าคนละแบบ เพียงแต่ไซด์ของระเบิดต่างกันนิดหน่อย ส่วนการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศนั้น ตนได้ปรึกษากับท่าน ผบ.ตร.แล้ว ว่าจะขอเฉพาะเครื่องมือมาทำการสอบสวนเท่านั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวภายหลังการประชุมว่า ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหาภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในที่เกิดเหตุ และบริเวณโดยรอบเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบกับภาพเดิมและทำให้เหตุการณ์ที่เกิดชัดเจนมากยิ่งขึ้น และได้การให้เจ้าหน้าที่อีโอดีทำการทดลองระเบิด ในลักษณะเหมือนจริง เพื่อความละเอียดขอรูปคดี ทั้งบนบกและในน้ำ ซึ่งจะมีการทดลองในต่างจังหวัดเร็วๆ นี้ ที่หุบสบู่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพัสดุต่างๆ หากพร้อมเมื่อไหร่ ก็ดำเนินการทันที
ส่วนการตรวจดีเอ็นเอจากธนบัตรใบละ 20 บาท ที่คนร้ายให้คนขับรถจักรยานยนต์นั้น เจ้าหน้าที่กำลังตรวจหาดีเอ็นเอ คาดว่าจะทราบผลภายในวันที่ 26 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ขอฝากสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยว่าหากประชาชนหรือผู้อยู่ในเหตุการณ์ต้องการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ก็ขอให้ติดต่อมาได้ตลอด