คสช. แถลงเหตุปาระเบิดแสวงเครื่องท่าเรือสาทร เผยไม่มีคนเจ็บ จี้ผู้ก่อเหตุหยุดก่อกวน ลั่นใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด ด้านโรงเรียนพร้อมเปิดทำการพรุ่งนี้ทั้งหมด วอนประชาชนใช้ชีวิตตามปกติบนความระมัดระวัง ด้านรองนายกฯ สั่งกองทัพจัดกำลังทหารเสริมตำรวจ ดูแลความปลอดภัยประชาชนในภาพรวม หลังเหตุระเบิดซ้ำท่าน้ำสาทร
วันนี้ (18 ส.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงกรณีที่มีเหตุปาระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร รอยต่อระหว่างเขตสาทร และเขตบางรัก กรุงเทพฯ ว่า ในช่วงเวลานี้สถานการณ์โดยรวมยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. ของวันนี้ (18 ส.ค.) ได้เกิดเหตุก่อกวนด้วยการปาระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานพยานโดยเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังคงตั้งจุดตรวจจุดสกัด และจัดชุดสายตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต่าง ๆ ให้การรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนบริเวณท่าเรือสาทร เจ้าหน้าที่ทหารได้กั้นพื้นที่โดยรอบ เพื่อตรวจสอบและรวบรวมวัตถุพยานในพื้นที่เกิดเหตุรัศมีประมาณ 10 เมตร ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จแล้ว และท่าเรือสาทรยังคงเปิดให้บริการแก่ประชาชนตามปกติ
อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าว ขอให้ผู้ที่ก่อเหตุก่อกวนยุติการกระทำดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมายและทางคดีอย่างเด็ดขาด และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสต่าง ๆ แก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ ได้รับการประสานจากกรุงเทพมหานครว่า โรงเรียนและสถานศึกษาที่ปิดทำการในวันนี้จะเปิดทำการสอนตามปกติในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนดำเนินชีวิตตามปกติสุขบนพื้นฐานของความระมัดระวัง
ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อค่ำวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมวัตถุพยานบริเวณแยกราชประสงค์เรียบร้อยแล้ว และได้เปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรไปมาได้ตามปกติ สำหรับศาลพระพรหมและอาคารสถานที่ที่ได้รับความเสียหายนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เข้าซ่อมแซมและบูรณะฟื้นฟูต่อไป สำหรับยอดผู้ที่ได้รับบาดเจ็บข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข แจ้งว่า ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่าง ๆ จำนวน 67 ราย
ด้าน พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความปลอดภัยของประชาชน หลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ และบริเวณย่านท่าน้ำสาทรที่ผ่านมา โดยสั่งการให้กองทัพจัดกำลังทหารเสริม และร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัดและสายตรวจ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและสถานที่สำคัญต่าง ๆ
ทั้งนี้ การทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจต่อภารกิจดังกล่าว อาจสร้างความไม่สะดวกในการสัญจรของประชาชนบ้าง จึงต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคนในภาพรวม สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ประสงค์ร้ายต่อประเทศไทยในครั้งนี้ จำเป็นที่ประชาชนไทยทุกคนต้องตั้งสติและรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมมือกันทำหน้าที่เฝ้าระวัง และจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมผิดสังเกต และร่วมแจ้งข้อมูล เบาะแสกับเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง ทางหมายเลข 191 หรือ 1599 พร้อมทั้งขอให้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ อย่างมีสติ โดยขอให้รับฟังข่าวสารจากรัฐบาลเป็นหลัก เพื่อป้องกันความสับสน
“เราจะก้าวเดินร่วมกันอย่างมั่นคงและมีสติ ผ่านความยากลำบากและวิกฤตของประเทศชาติครั้งนี้ไปด้วยกัน ขอทุกฝ่ายรักกัน เป็นหนึ่งเดียว ทำหน้าที่คนไทย เพื่อประเทศชาติของเราทุกคน” พล.ต.คงชีพ กล่าว